แม้ว่าจะเป็นแบรนด์ฟาสต์ฟู้ดยักษ์ใหญ่ของโลก และครองสัดส่วนการตลาดในหมวดอาหารนี้อันดับต้น ๆ แต่ McDonald’s ก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาธุรกิจ โดยนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการ รวมถึงทรานส์ฟอร์มธุรกิจเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินให้ดีขึ้น
สำหรับวิธีการใช้งานตู้ดังกล่าวก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร เพียงแค่ลูกค้ามากดเลือกเมนูที่ตู้กดสั่งอาหารอัตโนมัติ และจ่ายเงินผ่านตู้ หลังจากนั้นรอเรียกให้ไปรับอาหารที่สั่งไว้
การทรานส์ฟอร์มธุรกิจของ McDonald’s ถือว่าได้ผลลัพธ์ที่พอสมควร ทั้งในเรื่องของยอดขายของแบรนด์ที่เพิ่มมากขึ้น โดยการซื้อ Self-Ordering Kiosks กลายเป็นช่องทางที่ลูกค้าเกือบครึ่งใช้สั่งเมนูอาหาร เป็นรองแค่แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเท่านั้น ด้วยความที่สะดวกสบาย สามารถสั่งซื้อเมนูได้หลากหลาย ทั้งแยกเดี่ยว และเป็นเซต ไม่เพียงเท่านั้น ยังมีการสำรวจออกมาอีกว่า สัดส่วนการใช้จ่ายของลูกค้าที่สั่งเมนูผ่าน Self-Ordering Kiosks จะมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 20 ยูโร (ประมาณ 737 บาท) ซึ่งมากกว่าการสั่งซื้อผ่านเคาท์เตอร์ในสาขา ซึ่งเรื่องวิเคราะห์ได้ว่า การสั่งซื้อผ่านตู้กดสั่งอาหาร ลูกค้าจะมีเวลาเลือกเมนูที่อยากจะกินมากกว่า สามารถเปรียบเทียบราคาได้ ต่างจากการสั่งซื้อผ่านเคาท์เตอร์ที่ต้องพูดคุยกับพนักงาน ซึ่งบางกรณีอาจจะถูกกดดันจากพนักงาน และลูกค้าคนอื่น ๆ ที่ต่อแถวรอได้
ลูกค้ากำลังสั่งซื้อเมนู McDonald’s
ตู้ Self-Ordering Kiosks ของ McDonald’s
McDonald’s ให้ความสำคัญกับเรื่องเทคโนโลยีเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่อง AI ที่ลงทุนด้วยงบประมาณมากกว่า 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เข้าซื้อกิจการของ Dynamic Yield โดยมีเป้าหมายที่จะให้บริการเมนูดิจิทัล ตอบโจทย์ลูกค้ามากขึ้น
เมื่อวันที่ 15 – 16 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ณ ศูนย์กลางการเรียนรู้บีพีเอส กรุงเทพฯ ต่อด้วย ห้องเมฆาบอลรูม โรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุรวงศ์ HP Latex พร้อมด้วยผู้ประกอบการและผู้เชี่ยวชาญด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์
ธุรกิจร้านอาหาร แม้จะเปิดง่าย แต่ดำเนินการยาก สิ่งสำคัญที่สุดคงหนีไม่พ้นการคำนวณต้นทุนที่กลายเป็นปัญหา และอุปสรรคสำคัญ เพราะหากบริหารจัดการไม่ดี อาจส่งผลกระทบต่อกำไร-ขาดทุนได้ ซึ่งเรื่องเหล่านี้ต้องให้ความสำคัญ มองข้ามไปไม่ได้
หลังจาก Texas Chicken แบรนด์ไก่ทอดสัญชาติสหรัฐฯ มีอันต้องปิดฉากธุรกิจกว่า 9 ปีในประเทศไทย เหลือไว้แค่เพียงความทรงจำ โดยทุกสาขาจะปิดตัวลงวันที่ 30 กันยายน 2567 นี้
