ใครคิดจะลงทุนแฟรนไชส์สตรีทฟู้ดที่กินได้ทุกเพศทุกวัย ทุกวันทุกเวลา กล้วยทอดติดดาวถือเป็นอีกหนึ่งแฟรนไชส์ที่น่าสนใจไม่น้อย เพราะด้วยความเป็นเหมือนเมนูธรรมดา แต่ได้ถูกพัฒนาสูตรมาอย่างสร้างสรรค์ ลดความซับซ้อนเพื่อตอบโจทย์การทำธุรกิจ และยังคงไว้ซึ่งคุณภาพ ความอร่อย


คุณนาตยา รางวัลหลาย กรรมการผู้จัดการ บริษัท บานาน่าสตาร์ จำกัด เจ้าของธุรกิจแฟรนไชส์กล้วยทอดติดดาว เล่าถึงความเป็นมาก่อนจะเป็นกล้วยทอดติดดาวอย่างทุกวันนี้ ว่าได้พัฒนาสูตรร่วมกับน้องสาวมากว่า 2 ปี จนได้แป้งที่นำมาชุบกล้วยทอดสูตรพิเศษที่ใครชิมก็บอกเป็นเสียงเดียวกันถึงความอร่อยลงตัว 3 ปีที่ผ่านมา จึงตัดสินใจเปิดร้านแถวเจดีย์นักเลง จังหวัดอยุธยา ร้านจะอยู่ซ้ายมือก่อนถึงทางแยกไปวัดพนัญเชิง ตอนนั้นลงทุนไป 2 แสน แต่ 6 เดือนก็คืนทุนได้

ช่วงพัฒนาแป้งครั้งแรกได้ใส่กะทิ และมะพร้าวขูดขาวเข้าไปด้วย เพื่อเพิ่มรสชาติความหอม ความมัน แต่ในความอร่อยก็ยังอมน้ำมันอยู่ เลยนำมาปรับไม่ใช้น้ำกะทิ และยังใช้มะพร้าวขูดขาว ซึ่งก็ยังไม่พอใจ เพราะมะพร้าวขูดจำเป็นต้องแช่เย็นตลอดเวลา ในขณะที่ต้องไปออกบูธบ่อยๆ เลยพัฒนาต่อเรื่อยมาในแบบไม่ต้องใส่ทั้งกะทิ และมะพร้าวขูด แต่ใช้ส่วนผสมของแป้งเป็นหลัก พร้อมใส่งา ผลลัพธ์ที่ได้คือยังคงความกรอบนานขึ้น 2-3 ชั่วโมง ซึ่งแป้งจะไม่ได้ใส่ความหวาน แต่เป็นการไปชูรสชาติของกล้วยทอดให้ได้ความหวานตามธรรมชาติ ส่วนใครที่อยากให้กล้วยทอดออกมาหวานยิ่งขึ้น เราก็จะแนะนำให้เขาเปลี่ยนจากการใช้กล้วยห่ามไปใช้กล้วยสุกแทนได้ ซึ่งแป้งของเราก็ไม่ต้องใช้น้ำปูนใส เพราะเราจะได้ความกรอบอยู่แล้ว


ข้อดีของแป้งที่พัฒนามา คือใช้งานง่าย ไม่มีขั้นตอนยุ่งยากซับซ้อน เมื่อผสมแป้งกับน้ำสะอาดแล้วก็สามารถนำไปชุบทอดได้ทันที นอกจากนั้นเราก็มีการสอนเทคนิคการทอด ระหว่างทอดควรใช้ไฟทอดที่อุณหภูมิเท่าไหร่ และก่อนจะเอากล้วยขึ้นก็ควรเร่งไฟเพื่อให้ความร้อนดึงน้ำมันออกจากตัวกล้วยมากที่สุด ทำให้ได้กล้วยทอดที่ไม่อมน้ำมัน รวมถึงการเลือกใช้กล้วยชนิดต่างๆ

ปัจจุบันมี 5 สาขา คือ นครนายก สุพรรณบุรี มหาวิทยาลัยกรุงเทพศูนย์รังสิต ปั้มน้ำมันเชลล์วังน้อย และอยุธยา เราพยายามทำให้คนรู้จักกล้วยทอดติดดาวมากขึ้นด้วยการออกสื่อ ไม่ว่าจะเป็นสื่อโซเชียลมีเดีย และรายการต่างๆ เพื่อให้คนรู้จักมากขึ้น พร้อมให้แฟรนไชส์ซีเกิดความมั่นใจในแบรนด์ ลูกค้าที่ชื้อกล้วยทอดติดดาวไปกินมีหลายกลุ่มอายุ และทุกเพศ เพราะด้วยความกรอบทำให้เพลิน และเป็นอาหารกินเล่นที่กินได้บ่อย

ตอนเริ่มต้นธุรกิจเราคิดแค่ว่าเราเป็นนักขาย แต่พอเราเริ่มทำเรื่อยๆ ก็มองเห็นโอกาสมากมาย เราอยากให้ธุรกิจนี้ ถูกส่งต่อไปยังผู้ที่มีข้อจำกัดในการทำงาน หรือทำธุรกิจ เช่นรายได้ที่ทำงานไม่พอใช้ อยากทำอาชีพอิสระเพื่อจะมีเวลาอยู่กับลูก อยู่กับครอบครัว จากนั้นเลยเริ่มไปฝึกอบรมการทำแฟรนไชส์ตามที่ต่างๆ จนได้ข้อสรุปในการขายแฟรนไชส์

แฟรนไชส์กล้วยทอดติดดาวราคา 5,900 บาท ผู้ซื้อจะได้แป้งถุงละ 1 กิโลกรัม (ราคาขายปลีกถุงละ 120 บาท) ทั้งหมด 30 ถุง ผ้ากันเปื้อน แพ็คเกจจิ้งพิมพ์โลโก้แบรนด์ และน้ำมันที่ใช้สำหรับแป้งทอด 30 ถุง โดยแป้ง 1 กิโลกรัม จะชุบกล้วย มัน หรือเผือกได้ 200 – 250 ชิ้น เป็นยอดขายเฉลี่ย 750 บาท (ในกรณีที่ขายถุงละ 30 บาท) ส่วนถ้าขายหมดจากการใช้แป้ง 30 ถุง ก็จะมีรายได้ประมาณ 15,000 บาท

ปัจจุบันขายกล้วยทอดอยู่ที่ถุงละ 20 บาท แต่บางครั้งมีต้นทุนเพิ่ม เช่น ค่าเช่าที่ ค่าวัตถุดิบที่ผันผวนของกล้วย เผือก มัน ทำให้เราต้องมาคิดใหม่ อย่างตอนไปออกบูธที่ ICONSIAM ตอนนั้น เราขายถุงละ 50 บาท เพราะมีต้นทุนค่าเดินทางจากอยุธยาไปกรุงเทพ บวกกับค่าเช่าที่ที่สูงถึงวันละ 3,000 บาท ซึ่งในส่วนราคาขายปลีก ผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปก็สามารถปรับได้ตามความเหมาะสม ต้องดูว่าเราไปขายที่ไหน ขายให้ใคร เช่นไปขายหน้าโรงเรียนก็อาจจะขายถุงละ 15-20 บาท เพราะในต่างจังหวัดต้นทุนเรื่องกล้วยก็จะถูกกว่าในเมือง เพราะหาได้ง่ายตามชุมชน สิ่งนี้เป็นสิ่งที่เราเข้าใจ เราจึงไม่ได้ไปกำหนดราคาขายปลีกตายตัวให้กับผู้ซื้อแฟรนไชส์ของเราไป

เรามองว่าลูกค้าเขาได้ซื้อแฟรนไชส์เราไปแล้วก็จริง แต่เขาเป็นผู้บริหารจัดการเอง ซึ่งเขาก็คือเจ้าของ สิ่งที่เราควบคุมได้ดีที่สุดคือมาตรฐานเรื่องรสชาติ ส่วนราคาขายผู้ซื้อแฟรนไชส์ไปจะรู้ดีที่สุดว่าเขาไปซื้อกล้วย เผือก มัน มาจากไหน เวลาหั่นแล้ว ควรจะให้ลูกค้ากี่ชิ้น และขายถุงละกี่บาท เพราะสุดท้ายคนขายของก็ต้องขายอย่างเป็นธรรม เพื่อให้ลูกค้า และตัวเขาเองมีความสุขมากที่สุด

เวลาเราไปออกบูธคนจะสงสัยว่ากล้วยทอดทำไมต้องมาออกบูธด้วย เพราะส่วนใหญ่มองว่าเป็นกล้วยทอดธรรมดา แต่จากการสังเกตหลังคนได้ชิมกล้วยทอดของเรา เราเห็นสีหน้าเขาเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น สิ่งนี้มันทำให้เรายิ่งภูมิใจว่ากล้วยทอดของเรามันไม่ใช่แค่กล้วยทอดธรรมดา แต่มันทำให้คนกินมีความสุข และช่วยสร้างอาชีพได้

ภายในปี 2021 ตั้งเป้าขยาย 100 สาขา มองว่ากลุ่มผู้ซื้อแฟรนไชส์เป็นกลุ่มคนที่มองหาอาชีพเสริมที่ทำได้ง่าย มีความอิสระ ซึ่งเราเองก็เคยคิดเคยฝันไว้เหมือนกันว่าอยากให้กล้วยทอดของเรา เป็นหนึ่งในของดีประจำจังหวัดอยุธยา ที่เวลาคนมาเที่ยวไม่พลาดมาซื้อกิน เช่นเดียวกับโรตีสายไหม สิ่งที่ต้องทำหลังจากนี้ก็คือการสร้างความรู้ใหม่ๆ เพื่อนำมาพัฒนาให้แบรนด์เป็นที่รู้จักและแข็งแรงยิ่งขึ้น อยากให้ใครที่เห็นกล้วยทอดติดดาว ลองเปิดใจรับ อาจยังไม่ต้องซื้อแฟรนไชส์ แต่ลองมาชิมดูก่อน แล้วจะเข้าใจว่ารสชาติไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
www.facebook.com/BananaStar13