การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา ในจีน กดดันการส่งออกให้หดตัวลง ภาคการท่องเที่ยวสูญรายได้ โดยเบื้องต้นคาดว่าจะกระทบต่อรายได้การท่องเที่ยวหายไปประมาณ 108,000 – 220,000 ล้านบาท วิกฤตดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อการส่งออกของไทยให้ลดลง เกษตรกรต้องทิ้งผลผลิตให้เน่าเสียหรือนำออกมาขายในราคาถูกอีกด้วย
คุณปรีชา ตรีสุวรรณ President Thailand Tanzania Business Center และประธานสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตไทย (TEMA) ให้สัมภาษณ์กับ Smart SME ว่า สถานการณ์ขณะนี้ต้องยอมรับว่า SME ไทย เจอศึกใหญ่ใน 3 เรื่องนั่นคือ วิกฤตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือชื่ออย่างเป็นทางการ COVID-19 ซึ่งมีประชากรในหลายประเทศได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก
รวมถึงการส่งออกหดตัวลงและภาคธุรกิจท่องเที่ยวสูญรายได้เนื่องจากตลาดนักท่องเที่ยวชาวจีนลดลง 28% อีกทั้งกระทบไปถึงตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติอื่น ๆ ที่เดินทางมาเที่ยวไทยชะลอตัวตามไปด้วย
นอกจากนี้ ความล่าช้าของการมีผลบังคับใช้พระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นการลงทุน 3 เรื่องใหญ่นี้จึงส่งผลให้ผู้ประกอบการส่งออกอยู่ในช่วงหดตัวแต่เชื่อว่าเป้นการกระทบในระยะสั้น ๆ ซึ่งจะเริ่มคลี่คลายในเร็ววันนี้
อย่าหวังพึ่งแค่จีน แนะ SME เปิดโอกาสตลาดใหม่
คุณปรีชา เผยอีกว่า สมาคมฯ ยังคงเดินหน้าสนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยมองหาตลาดจากประเทศอื่น ๆ นอกจากจีน ซึ่งการมีตลาดสำรองไว้รองรับเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง หากเกิดเรื่องไม่คาดคิดการมีที่กระจายสินค้าจะช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ ซึ่งตลาดโลกส่วนใหญ่ เชื่อมั่นในสินค้าและบริการของไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เพียงแต่เราต้องไม่หยุดพัฒนา โดยเฉพาะเรื่องของบรรจุุภัณฑ์ ดีไซน์ที่สวยงาม คุณภาพและราคาที่ดี เชื่อเถอะว่าในฐานะที่คุณเป็นแบรนด์ไทย ไม่ต้องไปกลัวใครเลย แบรนด์ที่ตีตรา Made in Thailand ไม่แพ้ใครในโลก
“ผมยกตัวอย่างประเทศรัสเซีย นี่ก็เป็นตัวอย่างของประเทศขนาดใหญ่ที่น่าเข้าไปเปิดช่องทางการค้า เพราะคนรัสเซียชื่นชอบสินค้าไทย อาจจะยกเว้นผลไม้อย่างทุเรียนที่มีกลิ่นเฉพาะตัว แต่เราไม่ควรมองข้าม สับปะรด เพราะผลไม้ไทยรสชาติอร่อย คุณภาพเป็นที่ยอมรับ คนยุโรปนิยมมากและมีการนำเข้านับล้านล้านตัน เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่อยากให้เกษตรกรไทยเข้าไปเจาะตลาด
แถบโซนประเทศใหม่ ๆ ที่เรียกว่า Blue Ocean อย่างแถบทวีปแอฟริกา ก็ถือว่าอีกโซนหนึ่งที่น่าจับตา เพราะด้วยกำลังซื้อมหาศาลและยังมีความต้องการสินค้าเกี่ยวกับพืชผลการเกษตรของไทยเป็นจำนวนมากเป็นอีกหนึ่งโอกาสของไทยที่จะได้นำสินค้าการเกษตรเข้าไปจำหน่ายเพื่อทดแทนตลาดจีนเมื่อมีปัญหา เป็นการเตรียมการรับมือหากเกิดปัญหาไว้ล่วงหน้า หากไทยสามารถเจาะตลาดเข้าสู่ประเทศเหล่านี้ได้ จะเป็นโอกาสต่อภาคการผลิตและส่งออกของไทยอย่างมาก”
เปิดโอกาส 5 กลุ่มธุรกิจไทยใน “รัสเซีย”
ประธานสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตไทย ยังได้แนะผู้ประกอบการ 5 กลุ่มสินค้าที่มาแรงและเป็นที่ต้องการสูงของผู้บริโภคในประเทศรัสเซีย ประกอบด้วย
1. อาหารไทย (เครื่องปรุงรส, อาหารสำเร็จรูป)
2. สินค้าเกษตร (ผักสด และผักแปรรูป)
3. เครื่องสำอาง
4. ผลไม้ไทย (สดและผลไม้แปรรูป)
5. เสื้อผ้าและเครื่องนุ่งห่ม เป็นต้น
Special Guest : คุณปรีชา ตรีสุวรรณ President Thailand Tanzania Business Center และประธานสมาคมผู้ส่งออกและผู้ผลิตไทย (TEMA)