ความคาดหวังใน “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ของผู้ประกอบการท่องเที่ยว และธุรกิจอื่นของภูเก็ต นั่นก็คือ การสามารถเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเริ่มนำร่องขับเคลื่อนธุรกิจของเมืองได้ แม้จะเป็นเพียงแค่ 20 % จากจำนวนธุรกิจโรงแรมที่พักทั้งหมดกว่า 1 หมื่นห้อง แต่ก็เหมือนเป็นความหวังให้พอมองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์บ้าง
“ธนูศักดิ์ พึ่งเดช” ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต กล่าวผ่าน “Smart SME” ว่า “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” เริ่มต้นจากแนวคิดของผู้ประกอบการ ในส่วนของหอการค้าภูเก็ต สภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภูเก็ต สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวภูเก็ต สมาคมโรงแรมภาคใต้ ร่วมกับภาคประชาชน ที่เสนอให้รัฐบาลจัดทำโมเดล เพื่อเป็นพื้นที่นำร่องในการเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยว
ทั้งนี้ การดำเนินการดังกล่าว เป็นไปภายใต้ “เงื่อนไขที่ไม่ปกติ” ซึ่งจะต้องพิจารณาความสำคัญคือ การทำให้ภูเก็ต เป็น “เมืองปลอดภัย” ที่พร้อมรับนัดท่องเที่ยวต่างชาติ และคนไทย ภายใต้เงื่อนไขที่ ศบค. กำหนด
สำหรับ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว ตั้งแต่เดือน ก.ค.-ก.ย. ไว้ที่ประมาณ 1.5 หมื่นล้านบาทตลอดช่วงระยะเวลา 2 เดือนนำร่องนี้ ซึ่งเป็นช่วงโลว์ซีซั่น ของการท่องเที่ยวฝั่งอันดามัน จากรายได้เดือนละ 30,000-40,000 ล้านบาท/เดือนในช่วงก่อนโควิด
จากข้อมูลของกระทรวงการท่องเที่ยวเที่ยวและกีฬา พบว่าในปี 62 ภูเก็ตมีนักท่องเที่ยวถึง 14,545,187 คน เพิ่มขึ้นจากปี 61 ประมาณ 135,975 คน แบ่งเป็นชาวไทย 26.9% และชาวต่างชาติ 73.1% (ส่วนใหญ่ จีน รัสเซีย ออสเตรีย เยอรมนี และอังกฤษ) โดยมีรายได้จากการท่องเที่ยว ปี62 อยู่ที่ 471,606 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2561 ประมาณ 22,505 ล้านบาท
ขณะที่ปี 63 มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเหลือเพียง 6.7 ล้านคน รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงเหลือ 108,464 ล้านบาท หรือลดลง 75% ซึ่ง 91% ของรายได้เกิดขึ้นนั้น อยู่ในช่วงเดือนม.ค.มี.ค.63 ซึ่งเป็นช่วงก่อนการใช้มาตรการล็อกดาวน์
ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดย “ยุทธศักดิ์ สุภสร” ผู้ว่าฯ ททท. ได้ให้ข้อมูลว่า คาดการ์จากตัวเลขยอดจองตั๋วเครื่องบิน แลฃะที่พัก ในเดือนก.ค.นี้ จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 12,000-15,000 คน และทยอยเพิ่มสูงขึ้นในเดือน ส.ค.-ก.ย.ทำให้ในช่วง 3 เดือน จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติรวมประมาณ 1 แสนคน สร้างรายได้ที่มูลค่าประมาณ 8,900 ล้านบาท
.
ข้อมูลสายการบินล่าสุด ที่มีเที่ยวบินจะเดินทางเข้าภูเก็ต ในช่วงวันที่ 1 ก.ค. จาก 4 สายการบิน มีดังนี้ 10.30 น.เอทิฮัด เส้นทางอาบูดาบี-ภูเก็ต ,13.30 น. กาตาร์ แอร์เวย์ เส้นทางดูไบ-ภูเก็ต ,13.45 น. แอลอัล อิสราเอล แอร์ไลน์ เส้นทาง เทลอาวีฟ-ภูเก็ต ,17.10 น. สิงคโปร์แอร์ไลน์ เส้นทางสิงคโปร์-ภูเก็ต โดย นพ.ทวีศิลฃป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค.ให้ข้อมูลว่าจะมีผู้โดยสาร ประมาณ 249 คน ในวันเปิดเที่ยวบินปฐมฤกษ์
ขณะที่ในวันที่ 3 ก.ค.64 จะมีเที่ยวบินของการบินไทย ที่ใช้นักท่องเที่ยวจากโซนยุโรป ได้แก่ 1.เส้นทางโคเปนเฮเกน-ภูเก็ต 2.เส้นทางแฟรงก์เฟิร์ต-ภูเก็ต 3.เส้นทางปารีส-ภูเก็ต ซึ่งทั้ง 3 เส้นทางจะออกเดินทางจากต้นทางในวันที่ 2 ก.ค.64 ในส่วนของวันที่ 4 ก.ค. มีเส้นทางบิน 1.เส้นทางลอนดอน-ภูเก็ต และ 2.เส้นทางซูริก-ภูเก็ต ซึ่งจะออกเดินทางจากต้นทางในวันที่ 3 ก.ค.64
“ธนูศักดิ์” ประธานหอการค้าฯ ภูเก็ต ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า ปริมาณนักท่องเที่ยวที่คาดการณ์จากระยะเวลา 3 เดือนของ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์ คาดการณ์ไว้ราว 4-5 หมื่นคน/เดือน จากอดีตที่เคยมีนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณเดือนละ กว่า 1 ล้านคน
“แน่นอน ที่ผ่านมาผู้ประกอบการรายได้ลดลงอย่างน่าใจหาย แต่ “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” ถือเป็นแนวทางนำร่อง ซึ่งแม้จะเปิดได้เพียง 20 % จากห้องพักทั้งหมดกว่า 1 หมื่นห้อง ก็ยังพอที่จะเป็นการนำร่อง นำรายได้เข้าสู่เกาะภูเก็ต โดยมีมาตรการควบคุมและป้องกันโควิด19 ที่รัดกุม ด้วยความมั่นใจที่ต้องการจะให้ เกาะภูเก็ต เป็น เมืองปลอดโควิด และนักท่องเที่ยวสามารถท่องเที่ยวได้อย่างสบายใจ”
อย่างไรก็ตาม ต่อจากนี้ สิ่งที่ตนอยากฝากไปยังรัฐบาล ถึงมาตรการช่วยเหลือต่อเนื่อง คือเรื่องของแหล่งเงินทุน ในรูปแบบของสินเชื่อ ที่จะให้กับผู้ประกอบการธุรกิจต่างๆ ที่เกี่ยวเนื่องกัน สามารถต่อยอดการดำเนินธุรกิจ และเปิดรับกับช่วงไฮซีซั่น ซึ่งคาดว่าต่อจากนี้หาก “ภูเก็ต แซนด์บ็อกซ์” มีผลการดำเนินงานที่น่าพอใจ จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติก็จะทยอยเพิ่มขึ้นในช่วงเดือน ต.ค 64 -ม.ค.65 ซึ่งคาดการณ์ว่าผู้ประกอบการในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ต้องการเงินทุนประมาณ 50,000 ล้านบาท เพื่อต่อยอดในทุกธุรกิจ
