ขายขนมครกใช้หนี้ 14 ล้าน เปิดไม่ถึงปีขยายกว่า 400 สาขา


จุดเริ่มต้นโดนโกง 14 ล้าน จากธุรกิจทอง สู่เจ้าของธุรกิจ ขนมครกแฟนซีไส้ทะลัก เปิดมาไม่ถึงปี โตกว่า 400 สาขา

จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้ คุณวีรภา อิฐถารัตน์ เจ้าของธุรกิจขนมครกแฟนซีไส้ทะลัก กว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เรามาอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจนี้กัน

จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ ขนมครกแฟนซีไส้ทะลัก

คุณวีรภา อิฐถารัตน์ เจ้าของธุรกิจขนมครกแฟนซีไส้ทะลัก เล่าถึงจุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ คือเริ่มจากเราอยากกิน อยากสอน และด้วยภาระหนี้สินที่เยอะมาก เพราะโดนโกงประมาณ 14 ล้าน จากธุรกิจทองเมื่อ 2 ปีที่แล้ว เรารู้สึกว่าทำแค่อาชีพเดียว ยังไงมันก็ไม่พอใช้หนี้อยู่แล้ว เราเลยคิดว่าต้องหาอาชีพเสริมสักอาชีพหนึ่ง แต่คำว่าเสริมของเราคือไม่ใช่ไปยืนแคะขนมครกเฉย ๆ แต่มันต้องเป็นธุรกิจที่สามารถสอนคนได้ สอนคนได้บวกกำไรบวกการให้ทุกอย่าง มันก็จะทำให้มีเงินใช้หนี้ คิดแค่นี้จริง ๆ ด้วยตัวเราเองจะเป็นแม่ค้าออนไลน์ เป็นนักขายอยู่แล้ว จะขายอะไรก็ได้ที่ตัวเองชอบกิน และใช้เอง เราก็เลยนึกเลยว่าฉันชอบกินอะไร ฉันชอบกินขนมครก เวลาไปสถานที่ต่าง ๆ เวลาเห็นขนมครกก็จะแวะซื้อตลอด เราก็เอาตรงนี้แหละมาสร้างรายได้อีกช่องทางหนึ่ง นึกไปเลยว่ามันจะต้องสำเร็จ

“ตอนที่ทำวันแรก หัดทำอยู่หลังบ้านคนเดียว พี่นึกถึงวันนี้แล้ว วันที่ยืนสอนคน วันที่มีหลายร้อยสาขา ซึ่งมันก็เป็นจริง”คุณวีรภา กล่าว

จุดเด่นของขนมครกแฟนซีไส้ทะลักคืออะไร

คุณวีรภา เล่าว่าของเราเด่นที่สี สีแป้งของเรามีทั้งหมด 6 สี สกัดจากสารสกัดธรรมชาติ สีม่วงสกัดจากมันม่วง สีชมพูสกัดจากบีทรูท สีเหลืองจากฟักทอง สีเขียวจากใบเตย สีขาวจากกระชาย สีส้มจากมันสีส้ม รวมถึงเราจะไม่ให้ตูดขนมครกอมน้ำมัน และกรอบนอกนุ่มใน

เปิดมานานแค่ไหน ตั้งเป้าหมายไว้อย่างไร

คุณวีรภา เล่าย้อนไปว่าเราเริ่มวันที่ 20 มีนาคม 2564 ยืนขายหน้าร้านคนเดียว และเดือนเมษายน 2564 เริ่มเปิดรับ แฟรนไชส์ รวม ๆ ในระบบ 463 สาขา ระยะเวลาประมาณ 9 เดือน ตั้งเป้าหมายขยาย 1,000 สาขา คิดว่าทำได้แน่ ๆ 3 เดือนแรกสอนไปประมาณ เดือนละ 100 กว่าสาขา ทั้งสอนออนไลน์ สอนตัวต่อตัว พอมีโควิดเข้ามาทุกอย่างก็ดรอปลง เรายืนสอนเองหน้าวัดบางด้วน วันละ 3-4 สาขา ยังไม่รวมออนไลน์ คนที่ไม่สะดวกมาเรียนกับเรา เขาก็จะเรียนออนไลน์ เรามีคลิปวิดีโอส่งให้ทางไลน์ อุปกรณ์ถึงเขาก็ฝึก แล้วก็โทรหากันตลอด

ทำไมขนมครกแฟนซีไส้ทะลักถึงเป็นที่รู้จักขนาดนี้ ?

คุณวีรภา เล่าต่อว่าต้องขอบคุณ TikTok ที่ทำให้มีวันนี้ ส่วนตัวจะเป็นคนที่ชอบลงคลิปของตัวเอง จะชอบลงไว้มาก ๆ เพราะเป็นคนที่เวลาคิดจะทำอะไร ชอบมองวันที่ตัวเองประสบความสำเร็จ และก็ชอบย้อนมาดูคลิปเก่า ๆ ของตัวเอง เพราะคิดว่าเราต้องสำเร็จแน่นอน เราก็เลยชอบลงไว้แค่นั้นเอง คนก็เข้ามาติดตามที่เราทำ วันแรก วันที่สอง วันที่สาม เขาเลยชอบในสิ่งที่เราพยายามทำ ตั้งแต่วันแรกที่ทำไม่เป็นเลย จนวันนี้คนอยากได้สูตร

“เราก็เลยคิดได้ว่า งั้นเราทำแฟรนไชส์ดีกว่า เพราะเราตั้งใจอยู่แล้วว่าเราอยากสอนคน เราเลยคิดราคาแฟรนไชส์ขึ้นมาเลย เวลาที่สอนพี่ก็จะลง จะโปรโมทสาขาให้เขาไปในตัวด้วย” คุณวีรภา กล่าว

หัวใจหลักในการทำธุรกิจ

คุณวีรภา อธิบายว่าตนเคยลูกสอนมาว่า ถ้าเราให้มากกว่าที่เราอยากได้ ความหมายมันคือว่าเราจะได้ตลอด แต่ไม่ใช่ว่าเราจะได้แบบสูง ๆ แต่เราจะไม่จม แต่ถ้าเราหวังแต่กำไรที่มันเยอะมากเกินไป เราก็จะได้แค่ช่วงสั้น ๆ

สุดท้ายแล้วเรียกว่าเราประสบความสำเร็จไหม ?

คุณวีรภา ทิ้งท้ายตอบคำถามนี้ว่า “คำว่าประสบความสำเร็จของตน ถ้ามีคนมาทำเลียนแบบเราในเรื่องสีแป้ง คิดว่าทำสำเร็จ อะไรที่มีคนตามเราถือว่ามันสำเร็จ ส่วนคนที่ซื้อแฟรนไชส์ 500-1,000 สาขามันก็เป็นเรื่องธรรมดาของธุรกิจ แต่สำหรับตนมีคนทำตามถือว่าสำเร็จ

“ตอนนี้ก็มีคนทำตามแล้ว มีแป้งหลายสีเหมือนพี่ แล้วพี่ก็มั่นใจว่าของพี่คือต้นฉบับ ”

ทั้งนี้ คุณวีรภา อิฐถารัตน์ เจ้าของธุรกิจ ขนมครกแฟนซีไส้ทะลัก ไม่หยุดเพียงแค่นี้ เธอพร้อมที่จะสอนคนให้มีอาชีพ และขยายสาขาแฟรนไชส์ ตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ว่า ต้องขยายให้ถึง 1,000 สาขาทั่วประเทศ