อากาศร้อน ๆ แบบนี้ หากได้เครื่องดื่มเย็น ๆ สักแก้วก็คงจะดี แน่นอนว่าหากเราเดินไปตามห้างสรรพสินค้า ตลอดจนตลาดทั่ว ๆ ไป จะเห็นแบรนด์เครื่องดื่มมากมายให้เลือกตามใจชอบ
หากพูดถึงประเภทเครื่องดื่มยอดนิยมของคนไทย หนึ่งในนั้นต้องมี “ชานม” อยู่ในตัวเลือกลำดับต้น ๆ ด้วยความเป็นเครื่องดื่มที่รับประทานง่าย มีความหวาน มัน น่าลิ้มลอง
เรื่องราวในบทความนี้ Smartsme จะพามารู้จักคุณณปภัช วรปัญญาสถิต เจ้าของแฟรนไชส์ชานมไข่มุก Am Tea ที่วันนี้ได้ต่อยอดธุรกิจที่มีอยู่สู่ ErTe Café ที่มาพร้อมกับความแปลกใหม่ ไม่เหมือนใคร คือ เป็นแหล่งรวมชานมหลากหลายสัญชาติ
ปัจจุบัน ErTe Café เปิดมาแล้ว 2 เดือน จากจุดเริ่มต้นที่ทำธุรกิจอยู่แล้ว แต่อยากต่อยอดสิ่งดี ๆ ให้กับลูกค้ากว่าจะมาเป็นชานมหลากหลายสัญชาติ กลยุทธ์การดำเนินธุรกิจนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร มาดูกัน
มีธุรกิจอยู่แล้ว ทำไมถึงเลือกมาเปิดธุรกิจเพิ่ม
คุณณปภัช วรปัญญาสถิต เจ้าของธุรกิจ ErTe Café เล่าถึงจุดเริ่มต้นว่าเริ่มมาจากประสบการณ์ของเรา ตอนแรกที่เราเริ่มทำชานม AmTea ได้รับกระแสตอบรับค่อนข้างดี เติบโตมาเรื่อย ๆ แม้ในช่วงโควิด-19 ก็ได้รับการทาบทามมาจากพื้นที่ในห้างสรรพสินค้า อยากจะให้เราทำแบรนด์พรีเมียมขึ้นมาอีก
เรามีความสนใจแต่จะทำอย่างไรดีเพื่อให้เป็นชานมไข่มุกที่แตกต่าง ดังนั้น ต้องเป็นแบรนด์ที่ไม่มีในประเทศไทยมาก่อน โดยการที่เราเริ่มจากแนวคิดว่าชานมหลากหลายสัญชาติ
ถ้ามาที่ ErTe Cafe ของเราก็จะเจอว่าเรามีชานมที่มาจากประเทศอินเดีย ชาพม่า ชาฮ่องกง ชาตุรกี ชาวฝรั่งเศส พิเศษกว่านั้นคือ เราชาญี่ปุ่นกับชาไต้หวันมาผสมกัน เป็นรสชาติที่รับรองได้ว่าไม่มีใครเคยทาน
“เรียกได้ว่าใครที่มาที่นี่ แล้วชอบดื่มชาอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น ชาร้อน ชาเย็น หรือชานม จะพบความพิเศษแน่นอน” คุณณปภัช กล่าว
ทำไมสาวกชานมต้องมาที่ ErTe Cafe
คุณณปภัช ตอบคำถามนี้ว่าเพราะความอร่อย และแตกต่างไม่เหมือนใคร เรามีคาแรคเตอร์ที่โดดเด่น จับกลุ่มลูกค้าที่เป็นเด็กวัยรุ่น และคนที่เดินห้างสรรพสินค้า สาวๆ ที่ชอบถ่ายรูป ขณะที่เครื่องดื่มมีรสชาติแตกต่าง ไม่เหมือนใคร ชาของเราเข้มข้น กลิ่นหอม ไม่หวาน
ผลตอบรับเป็นอย่างไรบ้าง
คุณณปภัช เล่าว่า ร้าน ErTe Café เปิดมาได้แค่ 2 เดือน ผลตอบรับจากลูกค้าค่อนข้างดี เพราะนอกจากเราขายชานม ร้านของเรายังเป็นคาเฟ่ด้วย มีอาหารอื่น ๆ ขาย ไม่ว่าจะเป็น มาการอง บราวนี่ คุกกี้ ที่ตอบโจทย์สาว ๆ ที่ชอบมาดื่ม Afternoon Tea หรือว่าเริ่มต้นวันตอนเช้าด้วยอะไรหวานๆ สดชื่นๆ
เมนูพิเศษเลยจะเป็นชาพรีเมียม ผสมระหว่างชาญี่ปุ่นกับชาไต้หวัน รับรองว่าไม่เคยมีใครเคยได้ทานแน่นอน แต่มากกว่านั้น เราเอาชานมเย็นปกติมาทำเป็นสเลอปี และยังไม่เคยมีใครทำมาก่อนเช่นกัน
วิธีการที่ทำให้ลูกค้ารู้จักและมาอุดหนุน
คุณณปภัช อธิบายว่าเริ่มจากแนวคิดก่อน พยายามหาความแตกต่าง ถึงแม่ว่าจะเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง นั่นแปลว่าเราก็สามารถที่จะได้ยอดขายดี มองหาจุดแตกต่างของแบรนด์ ซึ่ง ErTe Cafe ก็เริ่มมาจากความแตกต่างเล็กๆ ที่เกิดขึ้น ถ้าเราเอาความหลากหลายมารวมอยู่ที่เดียวมันจะทำให้แบรนด์ของเราแตกต่างจากคนอื่น เป็นที่จดจำได้ง่าย และเพิ่มเสน่ห์ของมัน โดยมุ่งให้ตรงกลุ่มเป้าหมาย
ErTe Cafe จะเติบโตอีกแค่ไหน
คุณณปภัช เผยก่อนทิ้งท้ายไปว่าในปีนี้เราจะขยายสาขาด้วยตัวเองก่อน แพลนในปีหน้าของเรา เราจะขยายในรูปแบบของแฟรนไชส์ เพราะว่าตัวเราเองมีประสบการณ์การทำแฟรนไชส์อยู่แล้ว รู้ดีว่าการขยายแฟรนไชส์เป็นรูปแบบความสำเร็จ สามารถส่งต่อได้ง่าย เติบโตได้ไว
คุณณปภัช วรปัญญาสถิต ทิ้งท้ายไว้ว่า เหมือนที่ผ่านมาเกิดจากความตั้งใจของเรา Passion ในตัวของเราที่อยากจะทำธุรกิจ อยากจะส่งมอบสิ่งดี ๆ อยากจะทำสิ่งดี ๆ ซึ่งตอนแรกก็ยังไม่ได้คิดถึงผลกำไร พอมันเกิดความรู้สึกแบบนี้ก็เลยทำให้เวลาที่เราทำอะไร เราก็ทำทุกอย่างเต็มที่
“ตอนแรกอาจจะมีขาดทุนบ้าง ล้มบ้าง ไม่เป็นไรค่ะ เราแค่ล้มแล้วก็ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นแล้วเดินต่อ”คุณณปภัช กล่าว
ข้อมูลเพิ่มเติม ErTe Café