“โอมคาเฟ่” เมื่อเกิดมาไม่ได้รวย แต่สู้ชีวิตจนสร้างรายได้ 60 ล้านบาท


สู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับ เกิดมาจน ไม่ใช่จะรวยไม่ได้ เกิดมาในสภาพแวดล้อมที่ย่ำแย่ แต่เราสามารถนำพาตัวเราเองไปอยู่ในจุดที่ดีกว่าได้

คุณภูริดา ศรีอรุณ เป็นอีกคนที่เริ่มต้นไม่สวยหรู เริ่มต้นด้วยความลำบาก แต่ไม่เคยย่อท้อ สู้ชีวิตจนกลายมาเป็นเจ้าของธุรกิจ โอมคาเฟ่ และ คลินิกความงาม เรามาอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจนี้กัน

“เกิดมาจน ก็ไม่ใช่ว่ารวยไม่ได้ เกิดมาในสภาพแวดล้อมที่เขาเรียกว่าย่ำแย่ แต่เราสามารถนําพาตัวเราเองให้ไปอยู่ในจุดที่ดีกว่าได้” คุณภูริดา กล่าว

ทำไมถึงมาทำธุรกิจส่วนตัว

คุณภูริดา เล่าว่า เมื่อก่อนเจองาน ๆ หนึ่งอยากทํามากเขาไม่รับเพราะว่าเรามีแค่วุฒิ กศน ม.3 ผลสุดท้ายโทรไปเขาไม่รับไปหาเขาเลย ก็ด้วยความพยายามของเราหรือการพูดของเราเขาก็ให้เราไปเป็นพนักงานขาย เดือนแรกเราได้ 60,000 บาท คือถึงตอนนี้จะร้องไห้เลย ก็คิดว่าไม่หยุด ก็ทําอีกทําไปเรื่อย ๆ เยอะขึ้น ๆ จนสักประมาณเกือบปี เราได้หลักแสน เป็นลูกจ้างเขามาเรื่อย ๆ เราก็รู้สึกว่าลองดูไหมเผื่อว่าเราทําเองได้ เลยออกมาเปิดคลินิกเอง ตอนนี้ก็เข้า 4 ปีแล้ว Believe Clinic ทําแบบพอดีตัว ทําอะไรไม่เกินตัว

โอมคาเฟ่เกิดจากอะไร

คุณภูริดา เล่าต่อว่า เกิดจากความรักก่อนและความศรัทธา ก็ได้พระพิฆเนศมาหนึ่งองค์จากคนรู้จัก พอเรามีมากพอมีทั้งเวลามีทั้งรายได้ที่มากพอที่จะสร้างสถานที่ ที่สวยงามเป็นธุรกิจที่สามารถมีองค์พระพิฆเนศที่เรารักอยู่ในร้านเราได้ เป็นคาเฟ่ แล้วเราตกแต่งให้เข้ากับพระองค์ท่านล่ะจะดีไหม แรก ๆ ก็ไม่มีใครเห็นด้วย จะทําไปทําไมเอาเวลาไปทําคลินิกดีกว่า รายได้ดีกว่า แล้วใครจะมา มาทําอะไร มากินกาแฟ 1 วันคนจะมากินกาแฟกี่คน เดือนหนึ่งจะได้เท่าไหร่ เราก็เลยคิดว่าต้องทําออกมาให้แปลก สวยแล้วก็มีชุดให้เช่า มีอาหารที่ราคาย่อมเยา ซื้อครบ 300 บาท เราจะดูดวงออนไลน์ให้ฟรีเลย 3 คําถาม

ก่อนจะประสบความสำเร็จลำบากถึงขั้นไหน

คุณภูริดา เผยว่า ตนขายของตามสี่แยกไฟแดง ขายของตามร้านหมูกระทะ ขายแบบของที่ระลึกหรืออะไรแบบนี้ แต่สุดท้ายแล้วทนไปได้ไม่นานก็โดนลวนลาม พอถึงเราจะลงไปเดินขายของวันนั้นเขาไปบอกว่าไม่ต้องไป ให้นั่งอยู่กับเขาแต่ว่าถามว่าเขาไม่ถึงเรื่องล่วงละเมิดหรอก แต่ว่ามันก็ทําให้วัยรุ่นคนหนึ่งเสียขวัญได้ หรือเป็นความทรงจําที่เขาเรียกว่าค่อนข้างไม่ดี แต่เราก็ไม่ได้เอาตรงนั้นมาทําให้ชีวิตในวันนี้ของเรา มันเดินต่อไม่ได้ ดิ้นรนมามากเคยตั้งครรภ์อยู่แล้วยังต้องไป เป็นคนขับรถแข่งมอเตอร์ไซค์ เพราะอยากได้เงิน

อยากจะฝากอะไรถึงคนที่กำลังท้อ

คุณภูริดา ทิ้งท้ายไว้ว่า อยากจะบอกทุกคนเลยว่า ทุกคนสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตตัวเองได้ไม่ใช่โชคชะตา เรามากกว่าที่จะต้องเป็นคนกําหนดโชคชะตา ว่าเราจะมีชีวิตไปในแบบไหน ให้ใช้ชีวิตเหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้ายของชีวิต อย่าให้ว่าถึงเวลาวินาทีสุดท้ายของชีวิตแล้วเราต้องมานั่งเสียดายว่าเรายังไม่ทําอะไรหรือเรายังไม่ได้เต็มที่กับอะไร

“เกิดมาแล้วครั้งหนึ่งทําให้ทุก ๆ อย่างที่เราคิดว่าเราทําได้ ทําให้มันสําเร็จและดีที่สุด ไม่มีใครจะมากําหนดว่าเราเป็นคนที่สําเร็จหรือไม่ตัวเราเท่านั้นที่จะกําหนดได้ว่าเราจะเป็นบุคคลที่สําเร็จ” คุณภูริดา กล่าว