“หอมมนต์เบเกอรี่” เค้กตลาดนัด ชิ้นละ 25 บาท ผลิตไม่ทันวันละ 30,000 ชิ้น


คุณเคยได้ยินคําว่าขายดีจนเจ๊งไหม? ขายดีแต่ไม่มีเงิน ขายดีแต่เป็นหนี้!!

คุณผึ้ง ประภาภรณ์ ไชยมาตร เจ้าของแบรนด์หอมมนต์เบเกอรี่ เคยผิดพลาดและเจ๊งในธุรกิจเดิมมาก่อนจนไม่เหลือแม้แต่เงินสักบาท เพราะไม่มีความรู้เลยเกี่ยวกับธุรกิจจึงทำให้โดนโกง จากวันนั้นจนถึงวันนี้ คุณผึ้งเจ้าของแบรนด์หอมมนต์เบเกอรี่ต้องผ่านอะไรมาบ้างเรามาอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจนี้กัน

จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ

คุณผึ้ง เล่าว่า จุดเริ่มต้นของธุรกิจเนี้ยเลยคือได้มาจากเงินทุนจากคุณแม่ตอนคลอดน้องคนที่สอง คุณแม่ให้เงินมาสองพัน ตอนนั้นเป็นเงินทําคลอดจริง ๆ เหมือนกับว่าเรายืมเงินลูก คือบอกลูกที่เพิ่งเกิดมาใหม่ ๆ ว่าแม่ขอยืมเงิน สองพันก่อนนะลูก

ก่อนหน้า มีพี่คนหนึ่งเขาทําบลูเบอร์รี่ชีสพายมาให้ชิมพอชิมแล้วมันรู้สึกว่าอร่อยมาก แล้วเรารู้สึกว่าในท้องตลาด มันไม่มีขาย ถึงถ้ามีคือมันขายแพงมาก ตอนนั้นผึ้งคิดแล้วว่าถ้าเราทําไปขายตลาดนัดมันคงขายดี ก็เลยตัดสินใจ เอาเงินสองพันที่ได้ไปซื้อพวกวัตถุดิบทําเค้ก แล้วเราก็เลยตัดสินใจหาสูตรจากอินเตอร์เน็ต แล้วก็ลองตัดสินใจทํา

พอทําออกมาแล้วมันดันอร่อย ตอนนั้นทําออกมาได้ 50 ชิ้น แล้วเพื่อนก็เลยมาชิมขนมของพี่ผึ้ง บอกว่าเค้กอร่อยมาก เพื่อนบอกเค้กอร่อยมาก มันก็เลยเป็นสิ่งที่ทําให้เราคิดว่า ขนาดเพื่อนยังบอก เพราะฉะนั้นเค้กเราต้องขายได้ คือเชื่อไหมว่าขายไม่ถึงครึ่งชั่วโมงหมดเกลี้ยง พี่ได้กําไรกลับมาประมาณสี่ร้อยกว่าบาท วันนั้นคือเป็นวันที่ทําให้พี่ตัดสินใจเลยว่านี่แหละคือธุรกิจต่อไปที่จะเลี้ยงครอบครัว เลยได้เริ่มธุรกิจเบเกอรี่และทํามาเรื่อย ๆ

ยืมเงินลูกน้องจริงหรือไม่

คุณผึ้ง เล่าต่อว่า จนอยู่ช่วงหนึ่งคือ ออเดอร์มันเริ่มเยอะแล้ว จนเรารู้สึกว่ามันจะอยู่กับแค่ทําหลังบ้านไม่ได้แล้ว มันต้องย้ายออก ซึ่งพี่ก็ไม่มีเงินทุนที่จะไปเช่าตึก สุดท้ายเชื่อไหม พี่ได้พม่า บอกพี่ว่าไงรู้ไหม “น้องผึ้งคะเดี๋ยวพี่หยี๋ให้ยืมเงิน” พม่าให้พี่ยืมเงินสี่หมื่นบาท ระยะเวลาปีกว่าพี่เก็บเงินได้หลักล้านจากการที่ไม่เหลือและไม่มีอะไรเลยจนพี่ไปเช่าโรงงานได้มาหนึ่งโรงงานพร้อมพาพนักงานอีกร้อยกว่าชีวิตเข้าไปอยู่และได้เริ่มผลิตเบเกอรี่ทําให้ถูกต้องตามมาตรฐานจนถึงปัจจุบัน

ยอดขายต่อวันอยู่ที่เท่าไหร่

ทุกวันนี้ส่งอยู่ที่วันหนึ่งประมาณสองหมื่นชิ้นหรือสองพันวง ถึงสามหมื่นชิ้นโดยประมาณนี้ จริง ๆ ยอดขายต่อปีก็แตะอยู่ที่ร้อยล้านถ้าเกิดหอมมนเบเกอรี่นี่ตามตลาดนัดจะอยู่ที่ชิ้นละประมาณยี่สิบห้าถึงยี่สิบเก้าบาท เอาตรง ๆ กําไรไม่ได้เยอะขนาดนั้น กำไรแค่สิบห้าถึงยี่สิบเปอร์เซ็นต์ ราคาบางที่ในต่างจังหวัดเราอาจจะสู้เขาไม่ได้ชิ้นละสิบบาท ห้าบาท แต่คุณภาพมันต่างกันอยู่แล้ว

ปัจจุบันตอนนี้มีกี่สาขา

คุณผึ้ง เผยว่า หอมมนต์จะเป็นเค้กตลาดนัด ตัวแทนจังหวัดประมาณหกสิบคนต่อหกสิบจังหวัด รายย่อยประมาณสองพันกว่าจุดทั่วประเทศ ราคาแฟรนไชส์เริ่มต้นแค่สองพันเก้าร้อยเก้าสิบ ลงทุนน้อยมาก ขายครั้งแรกก็คืนทุน

เคล็ดลับความสำเร็จ

คุณเพิ่งทิ้งท้ายกับคำถามนี้ไว้ว่า การจะเริ่มธุรกิจหนึ่งมันต้องใช้ใจ สิ่งสําคัญคือความอดทน คนทําธุรกิจถ้าคุณไม่อดทนมากพอ คุณก็ล้มเหลว คุณล้มเลิกก่อนแต่ถ้าคุณอดทนและหาวิธีการทํายังไงก็ได้ให้มาซึ่งความสําเร็จและทําให้มันอยู่ได้ คุณก็จะอยู่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งสําคัญคือ ถ้าวันนี้เราอยากประสบความสําเร็จ ให้เรามองดูคนที่เขาสําเร็จและลงมือทําให้เต็มที่ อย่าคิดเยอะ อย่าคิดว่าทุกอย่างจะต้องยาก

“วันนี้ให้คิดว่าทุกอย่างฉันทําได้ ผึ้งก็เชื่อว่าทุกคนทําได้ค่ะ”