เพราะเป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับ คุณหมู สุพจน์ ลีลาพิสุทธิ์ เจ้าของธุรกิจ MTM Muaythai Fitness ที่กว่าจะมามีวันนี้ได้เคยผ่านช่วงวินาทีเฉียดตายมาแล้วเพราะยาเสพติด แต่กลับได้โอกาสที่สองจากมวยไทย จนปัจจุบัน MTM Muaythai Fitness เป็นธุรกิจระดับแนวหน้าที่มีความตั้งใจชัดเจน และพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่เวทีโลกแล้ว
ก้าวพลาด
เราเป็นหลานคนโตเราเป็นลูกคนโตเราไม่เคยทำอะไรเลย เราสร้างแต่เรื่องแล้ววันนี้คือเขาเรียกเราว่าไอไอพวกคนติดยา
ช่วงที่เราใช้ชีวิตวัยรุ่นเราหลงผิดติดยาเสพติดเกือบเจ็ดปี ตอนนั้นสภาพเราหนักมากเลย ไม่ได้เรียน ไม่ได้กินไม่ได้นอน ตอนนั้นก็เลยเป็นช่วงที่น่าจะแย่ที่สุดในชีวิตเลยครับ จากการเสพแค่ครั้งเดียว เราก็ไม่รู้ว่ามันจะทำให้เราถลำลึกไปขนาดนั้น ในใจเรามันคิดถึงแต่เรื่องยาอย่างเดียว มันก็เลยทำให้วันนั้นร่างกายเราแย่ ชีวิตเราก็แย่ เป็นเป็นจุดตันของชีวิตเลยดีกว่าครับ ตอนนั้นน้ำหนักผมเหลือสามสิบกว่าคือเดินแล้วมันเหมือนจะปลิวเลยครับ จนคืนหนึ่ง มันเหมือนเราใกล้ขีดเป็นตายที่สุดแล้วครับ คือเราไอเป็นเลือดแล้วเราหลอนมากแล้ว มันก็เลยทำให้เรารู้สึกว่าถ้าไม่เลิกก็จบล่ะ ชีวิตเรายังไม่ได้ทำอะไรเลย แล้วที่บ้านเราก็ไม่ได้ทำอะไรผิดต่อเราด้วย เขาตั้งใจส่งเสียเราเรียนดีทุกอย่าง กลับเป็นเราเองที่เราไปเลือกทางผิด ตอนนั้นก็เลยตั้งใจว่าวัดใจเลิกคือเลิก ทิ้งทุกอย่างเลยครับ
ชีวิตใหม่ ฟ้าหลังฝน
เราก็เลยเข้าฐานบำบัดวันนั้นเลย เขาบอกเลยบอกว่าย้ายที่อยู่ เพื่อนเดิม ๆ อย่าเพิ่งเจอ เส้นทางเดิม ๆ อย่าไปอะไรที่จะทำให้เราคิดถึงวังวนเก่า ๆ อย่าคุณหมอแนะนำว่าหาสิ่งยึดเหนี่ยวในชีวิตใหม่ อีกอันหนึ่งเขาบอกว่าต้องหากิจกรรมยามว่างทำใหม่และถ้าจะให้ดีควรจะเป็นการออกกำลังกาย เขาบอกว่าต้องอดทนถ้าจะไปออกกำลังกายมันไม่ใช่วันสองวันหาย คิดไว้เลยเป็นปี สุดท้ายผมไปเจอที่เรียนมวยไทยที่หนึ่ง แปลกมากตรงที่มันเป็นกิจกรรมที่ทำให้ผมสนุกมาก ทั้งที่มันเป็นการเรียนนะครับผมก็รู้สึกว่ามันหนักมาก แต่มันสนุกมากพอที่ทำให้เราอยู่ตรงนั้นทุกวัน เดือนเดียวคุณเชื่อไหมผมกลับมาใช้ชีวิตปกติเลย ผมยังงงเลย เพราะว่าช่วงนั้นผมจำได้เดินขึ้นบันไดผมยังเหนื่อยเลย แต่พอหลังจากไปเจอมวยไทยตรงนั้นปุ๊บ อาการสมาธิสั้นหายผมนั่งแล้วผมไม่ฟุ้งซ่าน เริ่มไปเตะบอลกับเพื่อนได้วันนั้นน่ะเป็นวันที่ผมตกใจมากเลยคือ เฮ้ย ไม่เหนื่อยวะ โหเหมือนได้ชีวิตใหม่กลับมา รู้สึกมีกำลังใจ รู้สึกกล้าที่จะกลับใช้ชีวิตในสังคมได้ ต้องบอกว่าเพราะมวยไทยเลย แล้วก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นที่เราคิด ความฝันเล็ก ๆ ว่าวันหนึ่งเราอยากจะทำอะไรเกี่ยวกับมวยไทย เราอยากจะทำให้มันเป็นการออกกำลังกายจริง ๆ
วันนี้ของ MTM Muaythai Fitness
ถ้านับถึงปัจจุบันตอนเนี้ยเรามีฐานลูกค้าเป็นหลักพันคนครับและเรามีลูกค้าเข้าใช้บริการทุกเดือนมากกว่าสี่ร้อยห้าสิบคนต่อเดือน ธุรกิจเราโตขึ้นหลักสองร้อยเปอร์เซ็นต์ ภายในสามเดือนเรากำลังจะเปิดสาขาที่สามแล้วครับ เรามีบางอย่างที่แตกต่างเพราะเรารู้สึกว่า เรามันมันไม่ใช่แค่ทำให้คนมาออกกำลังกายแล้วจบ มันมีมากกว่านั้น ตอนนั้นเราก็พยามถามตัวเองนะครับว่าทำไมเราถึงมีความรู้สึกแบบนั้น สุดท้ายมันกลับไปที่จุดตั้งต้นของเรา มวยไทยมันไม่ได้ช่วยทำให้ผมแค่แข็งแรงขึ้น เราเลยรู้สึกว่าที่เราทำไม่ใช่แล้วนะ ที่เราให้บริการแค่ลูกค้าเข้ามาต่อย ๆ แล้วกลับมันผิด ดังนั้นมันเลยททำให้เรากลับมาคิดดี ๆ ว่าสุดท้ายแล้วตัวเราคืออะไรกันแน่ วันนี้เราไม่ได้มองตัวเองเป็นค่ายมวย เราไม่ได้มองตัวเองเป็นโรงเรียนสอนมวยไทย เราไม่ได้มองตัวเองเป็นยิมมวยเลยครับ จริง ๆ แล้ววันนี้เราคือ Boutique MUAYTHAI FITNESS ที่ขับเคลื่อนด้วยวิทยาศาสตร์
MTM Muaythai Fitness มีบริการอะไรบ้าง
วันนี้เวลามาที่ MTM Muaythai Fitness ทีมงานเราจะถามเขาคำแรกเลยว่าขอดูรูป รูปสุดท้ายที่เขาอยากได้จากการออกกำลังกาย ว่ารูปที่ดีที่สุดในชีวิตร่างกายเขาเป็นยังไง แล้วเราเอาตรงนั้นไปตั้งเป็นเป้าหมาย แล้วให้ทีมวิทยาศาสตร์การกีฬาของเราคำนวณออกมาเป็นโปรแกรมออกกำลังกาย เราเริ่มต้นสองพันหกร้อยเก้าสิบเก้าครับ ซึ่งราคานี้สามารถเข้ามาเล่นเมื่อไหร่ก็ได้รอบไหนก็ได้เลยครับ
