“ขาวผ่องฟาร์ม” ฟาร์มปลากะพงยักษ์จากทั้งหมด 22 บ่อ บนเนื้อที่กว่าร้อยไร่ กับความฝันที่พร้อมผลักดันให้ปลากะพงไทยได้เป็นปลาขึ้นชื่อในระดับภูมิภาค และที่สำคัญปลาของที่นี่สามารถกินแบบดิบได้ ไม่มีกลิ่นคาว อร่อยเทียบเท่าปลานำเข้าจากต่างประเทศ
คุณประโยชน์ โสรัจจกิจ เจ้าของขาวผ่องฟาร์ม เล่าว่าฟาร์มขาวผ่องเป็นฟาร์มเลี้ยงปลากะพงที่เรียกว่าปลากะพงยักษ์ของจังหวัดฉะเชิงเทรา มีอยู่ประมาณ 22 บ่อ เรามีระบบการถ่ายน้ำ เรามีการวัดคุณภาพน้ำตลอดเวลา เพื่อให้ปลามันมีสุขภาพแข็งแรง แล้วก็ส่งผลถึงคุณภาพของเนื้อที่จะไปสู่ลูกค้า ปลาออกมาก็ประมาณ 5 กิโลกรัม กระบวนการของเราก็คือ เมื่อจับมาแล้วเราจะไปทําการเอาเลือดออก ซึ่งเป็นกรรมวิธีของชาวญี่ปุ่น เพราะฉะนั้นปลาจากฟาร์มเราจะเป็นปลาที่มีคุณภาพเนื้อขาวใส สด ไม่คาว เราอยากให้ทุกคนมีความมั่นใจในการจัดการฟาร์มของปลากะพงว่าฟาร์มเราเป็นฟาร์มที่มีการจัดการในระบบที่จะเป็นมาตรฐานที่ดีที่สุดฟาร์มของเราเนื้อปลากะพงสามารถทําซาชิมิได้ด้วย กินดิบได้เลยไม่มีเชื้อเราตรวจโดยกรมประมงมาแล้วครับ
เรามีลูกค้าอยู่ประมาณ 400-500 ร้านที่ได้ลองสินค้าซาชิมิของเราซึ่งทุกคนก็ตอบรับมาบอกว่าอร่อยแล้วก็เทียบเท่ากับปลามาจากเมืองนอกได้ทีเดียว ผมเชื่อว่าปลากะพงยักษ์ของเราเป็นปลาที่มีศักยภาพ ทําซาชิมิก็ได้ ทําสเต๊กก็ได้ ทําได้หลาย ๆ อย่าง เราจะเอาปลาประมาณ 1 กิโล มาเลี้ยงเป็นปลายักษ์อัตราปล่อยของเราจะหนาแน่นกว่าทั่วไปนิดหนึ่งเพราะเรามีระบบการจัดการที่ดี
“เรามีใบตีน้ำมากกว่าฟาร์มทั่วไปบ่อของเรามีถึงหกใบเราใส่ประมาณพันสองร้อยตัวถึงพันห้าร้อยตัวต่อไร่ เลี้ยงไปอีกประมาณสักสิบสองเดือนถึงสิบห้าเดือนจะได้ปลาประมาณห้ากิโล เขาเรียกปลากะพงยักษ์ จับมาแล้วก็มาคัดแยก และเราก็จะดองน้ำแข็งเข้าสู่โรงงานของเราเลย ในโรงงานของเราจะดองน้ำแข็งอีกประมาณหนึ่งคืน ซึ่งจะทำให้เนื้อมันมีคุณภาพที่อร่อยมากขึ้น หลังจากนั้นก็ไปแล่ แช่แข็ง แล้วก็ขาย” คุณประโยชน์ กล่าว
ในช่วงสองปีที่ผ่านมา วงการเลี้ยงปลากะพงก็มีปัญหาอย่างมากเนื่องจากผลิตแล้วไม่รู้จะไปขายใครเนื่องจากเกิดการล็อกดาวน์ของประเทศ ช่วงนี้เป็นช่วงตกต่ำของวงการเลี้ยงปลากะพงอีกครั้งหนึ่ง แต่ในขณะเดียวกันเนี้ยเรามีช่องทางการตลาดของเราเอง เราก็สามารถพยุงตัวอยู่ได้ในช่วงวิกฤติ เราก็มองในวิกฤตว่าปลากะพงมันทำอะไรได้บ้าง เราก็เลยมาแบ่ง ว่าปลาตัวเล็กมันควรไปอยู่ในเมนูไหน เราก็รู้เลยว่าปลากะพงเป็นปลาที่มีสภาพที่น่าสนใจสําหรับประเทศไทยทีเดียว จริง ๆ แล้วผมก็มองไกลไปอีกว่า เราอยากทําปลากะพงให้เป็นปลาภูมิภาคของเอเชีย ไม่ใช่ของประเทศไทยหรือของจังหวัดฉะเชิงเทราเท่านั้น เราอยากให้มันเป็นปลาทดแทนสู้กับปลาที่นําเข้าจากยุโรปหรือจากอเมริกา
“คือจริง ๆ แล้วความสําเร็จของผม ๆ วัดกันอยู่ตลอดเวลาว่าความสุขคืออะไร ทําแล้วสามารถให้คนอื่นอยู่ได้เราเห็นว่าคนอื่นมีความสุขเราก็จะมีความสุข เราอยากเห็นปลากะพงทําให้คนในฉะเชิงเทรามีความสุขโดยเฉพาะผู้อยู่ในวงจรของธุรกิจปลากะพงในขณะเดียวกันที่ผมฝันว่าคืออยากให้ปลากะพงไม่ใช่ว่าเป็นปลาของคนไทยหรือของจังหวัดฉะเชิงเทราเราอยากให้เป็นปลาของคนทั้งภูมิภาคเอเชีย” คุณประโยชน์ กล่าว
