Sushi To Go ซูชิ 10 บาท ถูกด้อยค่าเป็นอาหารตลาดนัด สู้ด้วยคุณภาพ สู่ยอดขายวันละ 4,000 ชิ้น


Sushi To Go ของชาวเมืองทอง ราคาเริ่มต้น 10 บาท มี 100 หน้าให้เลือกทาน แต่กว่าจะประสบความสำเร็จ เคยถูกด้อยค่าว่าเป็นของตลาดนัด ไม่สะอาด เปิดร้านตอนแรกแทบไม่มีคนเข้า แต่สู้ด้วยคุณภาพอาหาร ใช้ของที่มีคุณภาพ ทำให้ขายได้วันละ 4,000 ชิ้น สร้างรายได้ 2,000,000 บาทต่อเดือน เรามาอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจนี้กัน

เปิดร้านช่วงแรกไม่มีคนเข้าร้าน เพราะอะไร?

คุณจตุพล โลหิตปุระ เจ้าของร้าน Sushi To Go เล่าว่า ลูกค้าจะพูดกันปากต่อปากว่าเป็นซูชิตลาดนัดเอามาเข้าห้องกระจก ความสะอาดหรือความสว่างก็จะไม่ได้มีมาก ข้อแตกต่างจากตลาดกับร้านของเราแทบจะไม่มีข้อแตกต่างกันเลย จนหลาย ๆ คนเขาก็จะบอกว่าร้านเรามันสกปรก เราก็เลยทําการปรับปรุงร้านใหม่ ลงทุนไปหลายล้านเพื่อให้ภาพลักษณ์ที่ดีขึ้นความสะอาดที่ดีขึ้นแล้วก็เพื่อให้ลูกค้าสะดวกมากขึ้น เปิดตอนช่วงแรก ๆ ก็ไม่มีลูกค้าเข้า คนบอกว่าอาหารแพง ภาพลักษณ์ร้านมันเปลี่ยนไป ทีนี้เราก็เลยต้องทําสติ๊กเกอร์ติดหน้าร้านใหม่ว่าเราก็ยังเริ่มต้น 10 บาทเหมือนเดิม ยังเป็นราคาเดิม เป็นซูชิของชาวเมืองทองเหมือนเดิม

ซูชิของเรา แตกต่างจากตลาดนัดยังไง

คุณจตุพล เล่าว่า 10 บาทของเรากับ 10 บาทตลาดนัด สิ่งที่แตกต่างกันคือวัตถุดิบ ต้นทุนของวัตถุดิบแต่ละตัว หน้าตาจะคล้ายกัน แต่คุณภาพและรสชาติหรือราคาต้นทุนแตกต่างกัน ที่แตกต่างกันชัดเจนคือเรื่องของความสะอาดบรรยากาศของร้านในเมื่อลูกค้าจ่าย 10 บาทเหมือนกัน ลูกค้าสามารถเข้ามาในร้าน มีความสะดวกสบาย สะอาด สว่าง ได้เลย

ยอดขายดีแค่ไหน

คุณจตุพล เล่าต่อว่า เปิดมา 4 ปี วันหนึ่ง ขายประมาณ 4,000 ชิ้น ยอดขายต่อเดือนก็ประมาณ 2 ล้านบาท ในร้านเราจะมีประมาณ 100 หน้า ก็จะมีทั้งของดี พรีเมียม แล้วก็ของที่มีราคาสูง ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 10 บาท ซูชิส่วนใหญ่กำไรก็จะอยู่ประมาณสัก 5-20 เปอร์เซ็นต์ ถามว่าทําไมกําไรเราถึงไม่ได้มากเหมือนอาหารอย่างอื่น ก็คืออยากให้ลูกค้าทานได้อย่างหลากหลาย มีตัวเลือก ไม่ต้องไปกินร้านอาหารญี่ปุ่นมีราคาแพง ไม่ต้องเข้าห้าง เริ่มต้น 10 – 30 บาท ก็สามารถกินอาหารญี่ปุ่นที่ร้านเราได้แล้ว

แนะนำสำหรับคนที่อยากเปิดร้านขายซูชิ

คุณจตุพล ทิ้งท้ายกับคำถามนี้ไว้ว่า อันแรกเลยที่จะเตรียมตัวไม่ใช่เงินลงทุนก็คือความรู้หรือสิ่งที่เราชอบ เราก็ต้องไปเริ่มทําจากตรงนั้นก่อนพอเราทําตรงนั้นเสร็จ เราถึงจะมามองหาอาชีพ อาชีพไหนที่เราชอบจริง ๆ พอเราได้อาชีพที่เราชอบเสร็จ เราก็วางแผน วางแผนเสร็จแล้วก็ไปหาเงินลงทุน ปัจจุบันนี้คนส่วนใหญ่จะเริ่มจากการหาเงินลงทุนก่อนซึ่งมันไม่มีองค์ความรู้ในการทําเลย สำหรับคนที่อยากเปิดน้านซูชิควรมีเงินทุนประมาณสัก 1 ล้านบาท ที่สําคัญถ้าขายซูชิอยากให้ใส่ใจอาหารให้มาก ๆ เพราะว่าซูชิเวลาลูกค้าทานแล้วเขาสัมผัสได้ว่า คนทําเขาใส่ใจมากน้อยขนาดไหน และก็บวกมาด้วยวัตถุดิบที่ดีที่เราเลือก เขาก็จะได้กลับมาใช้บริการเราอีก