ใช้พื้นที่ข้างบ้าน เปลี่ยนเงิน 3,000 บาท เป็นรายได้หลักแสน ด้วยเมนูข้าวผัดกะเพรา


สาวเรียนจบบัญชี ผันตัวมาขายผัดกะเพรา ขายไข่กระทะ ใช้เงินลงทุนแค่ 3,000 บาท เปลี่ยนเมนูธรรมดา ให้ไม่ธรรมดา สร้างรายได้หลักแสน กว่าจะถึงวันนี้ คุณอาภานุช พรานเนื้อ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เรามาอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจนี้กัน

จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ

คุณอาภานุช พรานเนื้อ เล่าว่าตนเรียนจบบัญชีมา รู้สึกว่ามันไม่ตอบโจทย์เรา สำหรับเรามันไม่พอจริง ๆ เงินเดือนหมื่นกว่าบาท ถ้าเราอยากจะรวยเราต้องทําอะไรสักอย่างก็เลยเป็นจุดเริ่มต้นผัดกะเพราขายเลย เงินลงทุนเริ่มต้นคือสามพันบาท คือสามพันบาทจริง ๆ มันโคตรสําคัญเลยว่าจะบริหารยังไงให้เงินสามพันมันไม่สูญหายไปไหน

ทําไมต้องกะเพรา

คุณอาภานุช เล่าต่อว่า มันจะเรียกสิ้นคิดได้ไหม แต่ว่ามันอร่อยจริง ๆ มีความครบรส มันเผ็ด เค็ม หวาน เราก็ชอบกินกะเพราเหมือนกัน เราก็อยากให้คนอื่นได้ชิมกะเพราในรสชาติของร้านเราบ้าง เพราะว่ากะเพรามันมีแทบทุกร้านอยู่แล้ว ในส่วนของสูตร เราก็ต้อง ดูว่าร้านอื่นเขาทํายังไง เช่น ไข่กระทะร้านอื่นเขาแต่งหน้ากันยังไง เราก็เลยเอามาปรับเป็นของตัวเอง เราชอบแบบไหน แบบไหนที่ดีที่สุดตรงไหนที่ร้านอื่นเขายังมีข้อบกพร่องอยู่เราเอามาปรับแก้ แต่ถ้าเป็นผัดกะเพรา สูตรของเรา หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์

ตอนแรกที่ขายลงทุนเท่าไหร่?

คุณอาภานุช เผยว่า ช่วงแรกของการเปิดร้านวัตถุดิบแต่ละอย่างเอามาน้อยมาก ถ้าเราซื้อมามาก ๆ แล้ว เราจะขายหมดหรือเปล่า อย่างของสดมันมีวันเสีย เราก็ต้องใช้น้อย ๆ ก่อนคนที่เขาซื้อไปแล้ว เขาเริ่มรู้จักเราเรื่อย ๆ เขากินแล้วเขาประทับใจก็กลับมาสั่งใหม่ จากต้นทุนเริ่มต้น ถึงตอนนี้ก็แตกต่างกัน

ตอนแรกที่ทําเป็นไข่กระทะถามว่าขายได้ไหม ขายได้ แต่พอมีผัดกะเพราเข้ามาขายดียิ่งกว่า ขายดีมาก
ก็เลยขายไปคู่กัน ไข่กระทะก็เน้นทานเป็นตอนเช้า ผัดกะเพราก็ทานเป็นมื้อเที่ยง มื้อเย็นได้ แห้ง หอม
รสชาติเข้มข้น ไม่เค็ม ไม่เหม็นน้ำปลา ทํากินเองกับทําขาย ความอร่อยต้องเหมือนกัน

ปัจจุบันลงทุนวันละเท่าไหร่?

คุณอาภานุช เผยต่อว่า ลงทุนในแต่ละวัน ณ ปัจจุบัน ใช้ไข่หนึ่งพันหกร้อยบาทโดยประมาณ หมูสองพันบาทโดยประมาณ ผักแปดสิบบาท แล้วก็เครื่องปรุงต่างๆ ก็เดี๋ยวเฉลี่ยเอาน่าจะร้อยกว่าบาท ตอนนี้อยู่ที่เฉลี่ยหนึ่งร้อยกล่องต่อวัน กําไรเราคิดที่สามสิบถึงสี่สิบเปอร์เซ็นต์

อุปสรรคที่เคยเจอ

คุณอาภานุช อธิบายว่า เจออุปสรรคอะไรมาบ้างแน่นอนเลยไม่กล้าบอกที่บ้านไม่กล้าบอกครอบครัวเลยว่าลาออกมาซุ่มทําเงียบ ๆ เองคนเดียวก่อน เพราะว่าเขามองว่าการที่เราขายของมันจะมีวันที่ขายได้ขายไม่ได้ขายดีขายไม่ดีเพราะฉะนั้นพ่อแม่เป็นห่วงเรื่องนี้มาก แต่เรามากล้าที่จะบอกเขาในช่วงที่เราขายดีแล้ว เขายังไม่เคยเจอเราใน TikTok หรือในช่องทางไหนเลย จนกระทั่งเราส่งให้ดู พ่อแม่ก็ภูมิใจ

เป้าหมายในอนาคต

คุณอาภานุช เผยว่า อนาคตอันใกล้นี้ก็จะมีซอสของร้านเราวางจําหน่ายเพราะว่าคิดค้นด้วยปากของเราเองเลย ถัดไปก็จะเป็นเปิดหน้าร้านให้สามารถเข้ามานั่งทานได้ หลังจากเรามีหน้าร้านแล้ว เราก็จะเปิด ขยายโอกาสให้เอเอสเอ็มอี หลาย ๆ คน หรือว่า เด็กจบใหม่ ที่จะมีตัวเลือกในการประกอบอาชีพ

เคล็ดลับในการทำธุรกิจ

คุณอาภานุช ทิ้งท้ายกับคำถามนี้ไว้ว่า ต่อให้ทุกคนมีเงินสามพันเท่ากัน ไม่ได้แปลว่าอีกคนจะเอาไปใช้ในทางที่มีประโยชน์อีกคนใช้หมด อีกคนใช้แล้วปัง กล้าคิดได้แล้ว กล้าทําเลย ถ้ามีข้อผิดพลาดเราค่อยแก้ถ้ามีข้อผิดพลาดนั่นแหละเป็นเรื่องที่ดีไม่ต้องกลัวเพราะการผิดพลาดเป็นเรื่องปกติ อย่างร้านเราก็มีข้อผิดพลาดก็มี เป็นเรื่องปกติเพราะฉะนั้นเราก็ปรับปรุงให้ดีขึ้นในทุกวัน อุดรอยรั่วที่เรามีอยู่ ให้มันมีคุณภาพมากขึ้น