กล้วยปิ้งภูเขาไฟ ราดน้ำตาลโตนด ใช้กล้วยวันละ 5,000 ลูก สร้างรายได้ 20,000 บาทต่อวัน


กล้วยปิ้งภูเขาไฟ ราดน้ำตาลโตนดของดีเมืองเพชร ใช้กล้วยวันละ 5,000 ลูก มีให้เลือกถึง 14 หน้า สร้างรายได้ 20,000 บาทต่อวัน กว่าจะมีวันนี้ได้ คุณโอฬาร เอี่ยมสมบูรณ์ เจ้าของธุรกิจกล้วยเถอะคับ กล้วยปิ้งภูเขาไฟ ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เรามาอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจนี้กัน

กว่าจะมีวันนี้เราผ่านอะไรมาบ้าง?

คุณโอฬาร เล่าว่า ตอนนั้นเราเคยมีรถขับ แล้วไม่มีรถขับ ตอนที่ล้มนี่ก็แย่มาก ๆ เพื่อนต้องมาอยู่ด้วยเลย เพื่อนกลัวเราคิดเยอะ คิดไม่ดี ตอนนั้นเราติดลบ ก็คือไม่มีทุน เงินลงทุนธุรกิจนี้จําได้เลยคือ หนึ่งพันสองร้อยบาท บางคนบอกคิดได้ไง มันจะขายได้หรอกล้วยแบบนี้ ไม่มีใครกินหรอก ใครเขาจะมากิน ส่วนพี่สาวก็พูดเสมอว่าเหนื่อยไหม ในวันที่เราขายได้วันละสามร้อยบาท แปดร้อยบาท หกร้อยบาท ถ้าเหนื่อยก็เลิกนะ แต่เราก็บอกไม่เป็นไร ไม่เหนื่อย สู้ นี่แหละจุดเปลี่ยนที่เราไม่ยอมแพ้ ถ้าเรายอมแพ้มันก็ไม่มีกล้วยเถอะครับวันนี้

ใช้เวลาขายนานแค่ไหน?

คุณโอฬาร เล่าต่อว่า เคยหมดเร็วประมาณชั่วโมงเดียว เปิดร้านปุ๊บ หมดแล้ว คือคนมายืนต่อแถวยาวเหยียดเลย สมมุติตอนนี้ปล่อยร้อยคิว หมดเลย คนเคยยืนรอนานสุดสี่ชั่วโมง เขาเคยพูดว่ากล้วยอะไรวะ รอนานขนาดนี้ พอได้กินแล้วกลับมาบอกว่าคุ้มค่ากับการรอคอย

ใช้กล้วยมากน้อยแค่ไหน และยอดขายต่อวันอยู่ที่เท่าไหร่?

คุณโอฬาร เผยว่า กล้วยเนี้ยเราใช้ต่อวันประมาณสองร้อยถึงสามร้อยหวีก็ประมาณเกือบคันรถกระบะ ตีเป็นลูกก็ประมาณสี่พันถึงห้าพันลูก ยอดขายต่อวันประมาณสองหมื่นบาท

ขายมานานแค่ไหน ทำไมถึงมาขายกล้วยปิ้ง?

คุณโอฬาร เผยต่อว่า ขายมาประมาณสี่ปีแล้ว ขายประจําอยู่ที่เพชรบุรี ก่อนทำมองว่าเพชรบุรีมีวัตถุดิบอะไรที่สําคัญ เราก็เลยมองว่าเอ้ย มีกล้วย กล้วยเยอะมากแล้วก็น้ําตาลโตนดเด่นก็เลยเอาสองอันนี้มารวมกันกลายเป็นกล้วยปิ้งน้ําตาลโตนด เพราะว่าเรามองว่าการที่เราจะขายของอะไรสักอย่างสิ่งสําคัญที่สุดคือเราต้องดูวัตถุดิบก่อน ถ้าวัตถุดิบเราไปเอาจากที่อื่นมันจะมีเรื่องการเดินทางแล้วมันทําให้เราคุมต้นทุนไม่ได้ แต่ถ้าเป็นของจากเราเอง เราจะคุมได้ เราจะขายได้ในราคาที่เหมาะสม ก็เริ่มมาอบขายดู พอขายดูได้สักระยะหนึ่งปรากฏว่ามีแต่คนแก่มีแต่ผู้ใหญ่กิน เราก็เลยลองทําหลาย ๆ หน้าขึ้นมา พอทําหลาย ๆ หน้า เหมือนคนก็ยัง งง ๆ เพราะมันไม่เคยมีที่ไหน คนเริ่มกิน เริ่มติด พอเริ่มติดปุ๊บเราก็เออดีใจ

อุปสรรคที่เจอตอนทำธุรกิจนี้?

คุณโอฬาร อธิบายว่า ตอนนั้นเราขายดีมาก แต่ดันมาเจอปัญหารอบสอง คือมาเจอโควิด แล้วล็อกดาวน์ อันนั้นคือสาหัสมากที่บ้านมีรถซาเล้งอยู่คันหนึ่ง ก็เลยขอยืมรถซาเล้งที่บ้านมาต่อเองทําเองหมดเลย ก็เริ่มไปขายอยู่ในตลาดเพราะเรามองว่าถ้าเราไปขายตลาดมันดี คือเราขายคนในตัวอําเภอ แต่คนในอําเภอพอขายไปได้สักพักหนึ่งเขาก็งง ๆ เขางงว่าทําไมมีกล้วยแบบนี้เกิดมาไม่เคยกิน ผมก็บอกเกิดมาผมก็ไม่เคยขาย มันก็เลยสวนกัน ก็เลยลองทําดูพอทําดูมันก็ขายไม่ดีมากเท่าไรเราก็เลยลองไลฟ์สดมีคนดูอยู่สองคน ดูทุกวัน ดูแล้วก็ให้กําลังใจเรา อยู่ดี ๆ มันก็มีการเปลี่ยนแปลงเกิดมาโดยไม่รู้ตัวจากคนดูแค่สองคนก็ขึ้นมาเป็นสิบเป็นร้อยเป็นพัน เคยสูงสุดแปดพันคน ตกใจมากแล้วคนแชร์กันเยอะมาก มีคนเข้ามาติดตามจากเจ็ดร้อยคน จากที่เราขายมาประมาณเดือนกว่า พอเริ่มขายได้ประมาณเกือบหกเดือน คนติดตามเป็นแสน คนรู้จักจากการไลฟ์สด ทุกคนที่มาซื้อบอกดูไลฟ์สดหมดเลยถ้าไม่มีไลฟ์สด รับรองได้เลยว่าไม่ได้ขายดีแบบนี้

ทำไมถึงขับรถมาขายต่างจังหวัด?

คุณโอฬาร อธิบายต่อว่า พอเริ่มเปิดล็อกดาวน์ เราก็เลยมองว่าคิดว่าเราอยากให้คนที่อําเภออื่นได้ลองชิม ก็เลยคิดว่าเราจะเป็นสัญจรในเพชรบุรีอย่างเดียว ก็เลยคุยกับพี่สาวว่าอยากได้รถสักคัน แต่ไม่มีเงินเยอะ เราก็มองว่าเออ เราอยากออกรถสักคันหนึ่ง เพราะว่ามันจะได้เดินทางได้ไกลขึ้น ไปซื้อรถใหม่เลย พี่สาวให้ทุนเลย แล้วไปผ่อนกับเขา อันนี้พูดตรง ๆ ว่า ประวัติเราผ่อนไม่ได้ ติดหนี้ติดสินเยอะ ก็เลยผ่อนไม่ได้ พอผ่อนไม่ได้ พี่สาวก็เลยให้เงินสดไปซื้อเลย ซื้อคันนี้เป็นเงินสด แต่เราผ่อนกับพี่สาว ใช้เวลาสองปีผ่อนหมดเลย คันนี้เบ็ดเสร็จเกือบ ๆ เจ็ดแสนบาท

จุดเด่นของกล้วยปิ้งร้านเรา? มีกี่หน้า? หน้าไหนขายดี?

คุณโอฬาร พูดถึงจุดเด่นว่า กล้วยปิ้งของที่ร้านเมื่อก่อนมีสิบห้าหน้า แต่ว่ามีหนึ่งหน้าที่ยกเลิกไปคือเป็นกล้วยปิ้งน้ําราดฟักทองขายดีเกือบทุกหน้าขายได้ทุกหน้าแล้วหมดทุกหน้า ตัวน้ําราดเราทําเองทุกหน้า จุดเด่นจริง ๆ ผมคิดว่าลูกค้าเขามองเรื่องความสะอาดร้านเราสะอาด แล้วก็ตัวเรา คือการแต่งตัวบุคลิกของเรา แล้วการพูดคุย สิ่งสําคัญที่สุดที่เราพูดมาตลอดว่า รสชาติเป็นอันดับสอง ความสะอาดเป็นอันดับหนึ่ง พอคนกินได้กินรสชาติเขาก็เริ่มติดใจ แล้วอีกอย่างคือเราซื่อสัตย์กับลูกค้า เราให้ปริมาณ อย่างที่บอกว่า ขาดทุนไม่ว่า เสียหน้าไม่ได้ ต้นทุนสูงมาก บางทีคนเห็นเขาบอกว่าจะได้กําไรหรอ เขาเป็นห่วงเรา แต่เราก็มองว่า กําไรมากไม่มากไม่เป็นไร เราอาศัยขายปริมาณเยอะ คือกล้วยจริง ๆ ราคาสูงมาก แต่เราไม่กล้าขึ้นราคา กล้วยของที่ร้านเรา จะมีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์จริง ๆ กล้วยเราจะไม่เหมือนที่ไหน กล้วยจะมีความนุ่ม ละมุน ลิ้น

เคล็ดลับความสำเร็จ

ความที่ไม่เหมือนใคร มันก็ทำให้ทุกคนเข้ามาสนใจกันมากขึ้น ถ้าเราทําอะไรเหมือนคนอื่น เราก็ต้องตามเขา เพราะว่าเขาทํามาก่อนเรา แต่ถ้าเราทําไม่เหมือนคนอื่น เราไม่ต้องตามใคร แต่สิ่งสําคัญคือใครจะกินเรา นี่คือท้าทาย เราไม่ต้องแข่งกันกับใคร แต่เราแข่งขันกับตัวเอง เคล็ดลับจริง ๆ ผมเคยพูดหลายหลายครั้งแล้วว่าทุกอย่างไม่มีใครเก่งมาแต่เกิด

ผมมีอยู่ในใจ คือ 4ช

ช.แรกคือชอบ พอชอบเสร็จเราต้องถามตัวเองว่าใช่ไหม พอชอบแล้วใช่เสร็จแล้วก็ต้องกลับมาถามตัวเองว่าทํายังไงถึงให้เดินต่อไปได้ก็ต้องชํานาญ ช.สุดท้ายคือช่วยเหลือ การช่วยเหลือของผมคือเริ่มต้นที่ทํา สิ่งที่ผมทำคือ หนึ่งทำให้สะอาด สองทำให้อร่อย สามให้ปริมาณที่เหมาะสม นี่คือช่วยเหลือ แต่เป้าหมายในอนาคต ถ้าเราจะช่วยเหลือคน เราจะช่วยได้ถ้าเราสามารถทำตรงนี้สำเร็จ