7 กฎของคนที่ไม่ได้เกิดมาร่ำรวย แต่ช่วยให้มีเงินเก็บ 1 ล้านบาท
“เงินเก็บ” เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการมีอยู่ในชีวิต โดยมีประโยชน์ในหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ใช้ในยามฉุกเฉิน, ทำสิ่งที่ตนเองต้องการ ตลอดจนเก็บไว้ใช้จ่ายในยามเกษียณ
“ทุกคนไม่สามารถเลือกเกิดได้” เรามักจะคุ้นชินกับประโยคเหล่านี้ แน่นอนว่าหากเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยย่อมมีความได้เปรียบกว่าคนอื่นเวลาจะทำอะไรสักอย่าง หรือหากมีข้อผิดพลาดก็ไม่เจ็บหนักกว่าคนอื่น แต่หากอยู่ในสถานะอื่น ๆ ก็ต้องดิ้นรนกันไป
ถ้าเป็นอย่างนี้คนที่ไม่เกิดมาร่ำรวย ไม่ได้เริ่มธุรกิจของตัวเอง ไม่ได้มีมรดกจากครอบครัว จะมีวิธีไปถึงเป้าหมายกับการมีเงินเก็บสัก 1 ล้านบาทอย่างไร Smartsme จะพาไปหาคำตอบจากผู้ที่เคยทำสำเร็จมาแล้วอย่าง Steve Adcock ที่เป็นคนมีอิสรภาพทางการเงินตั้งแต่อายุ 35 โดยเจ้าตัวใช้กฎง่าย ๆ ถึงขั้นที่บอกคนธรรมดาก็ทำได้จนมีเก็บกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ดังนี้
มองข้ามความฝันตัวคุณเอง
“แพชชัน” มักจะเน้นไปที่ความคิดสร้างสรรค์ ซึ่งไม่อาจจ่ายเป็นเงินได้เสมอไป จุดแข็งของตัวเราต่างหากที่ควรให้ความสำคัญ เช่น แพชชัน คือการถ่ายภาพ แต่จุดแข็ง คือวิทยาการคอมพิวเตอร์ ที่ให้เงินเดือนมากกว่า 100,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ
เปรียบเทียบหากเลือกทำตามแพชชันก็ไม่แน่ใจว่าสร้างรายได้มากเท่านี้หรือไม่
เรียนรู้จากมหาเศรษฐี
การได้ร่วมงานกับบุคคลที่ฐานะร่ำรวย ไม่ใช่เป็นความอิจฉา แต่ควรเรียนรู้จากพวกเขา ตัวอย่าง Brian ที่เคยร่วมงานหลังเรียนจบมหาวิทยาลัย เขาขับรถ Honda Accord อายุ 6 ปี แม้จะเป็นมหาเศรษฐี แต่เครื่องประดับบนร่างกายของเขามีแค่นาฬิกา Casio ราคาถูก และไม่ได้ใส่เสื้อผ้าแบรนด์เนม
ในมุมเรื่องการทำงาน Brian เป็นคนแรกที่มาถึงออฟฟิศ ไม่เคยยุ่งเกี่ยวเรื่องที่สร้างความแตกแยกในออฟฟิศ และมักเป็นคนอาสารับผิดชอบเรื่องต่าง ๆ ซึ่งเขาสร้างความมั่งคั่งด้วยการลงทุน และควบคุมค่าใช้จ่าย
ตัดคนที่ทำให้ชีวิตแย่ออกจากชีวิต
หากคุณชื่นชอบการไปเที่ยวกับคนที่ชอบกินดื่ม คุณก็มีแนวโน้มที่จะเสียเงินไปกับเรื่องแบบนี้ ดังนั้น การยกระดับตัวเองเลือกคบคนที่มีคุณภาพ ได้ใช้เวลาพิเศษไปกับคนที่ประสบความสำเร็จ ย่อมทำให้ชีวิตดีขึ้น
เป้าหมายคือการสร้างความสัมพันธ์ของพวกเขา เรียนรู้นิสัยดี ๆ นำมาเป็นแรงบันดาลใจ เช่น การตั้งใจทำงานมากขึ้น เมื่อผลงานออกมาดีก็จะได้รับการสนับสนุนจากบริษัท อย่างเลื่อนตำแหน่ง ขึ้นเงินเดือน
ใช้ประโยชน์จาก 9-to-5
หากมีการลงทุนในกองทุนก็ควรเปิดโอกาสให้ตัวเอง เช่นเดียวกับ Steve Adcock เช่นเดียวกับ Steve Adcock ที่เลือกลงทุนในกองทุน และได้รับการสนับสนุนจากนายจ้างที่สมทบเพิ่มเติมให้อีก หากสะสมทยอยลงทุนไปเรื่อย ๆ ทุกเดือน เงินส่วนนี้ก็จะเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ เป็นการเก็บเล็กผสมน้อยจนกลายเป็นเงินก้อน
นอกจากนี้ หากบริษัทมีการฝึกอบรมก็ควรเข้าร่วมเพื่อเพิ่มทักษะใหม่ ๆ ให้กับตัวเอง สร้างทางเลือกในการสร้างรายได้เพิ่ม
ทำทุกอย่างให้เป็นอัตโนมัติ
การกำหนดค่าใช้จ่ายเป็นสิ่งที่ควรทำ เพราะจะทำให้รู้ว่าใช้เงินเท่าไหร่ เพื่อควบคุมบริหารจัดการ เช่นเดียวกับการเก็บเงินก็ควรมีการตั้งโอนอัตโนมัติเช่นกันเมื่อมีเงินโอนเข้าบัญชี เหล่านี้จะสร้างนิสัยในการออมเงินอย่างเป็นระบบ
หลีกเลี่ยงเป็นหนี้บัตรเครดิต
การทำบัตรเครดิตเหมือนกับเอาเงินอนาคตมาใช้ พร้อมอัตราดอกเบี้ยที่สูง แต่ใครหลายคนมักจะเลือกเป็นหนี้บัตรเครดิต เพราะสะดวกสบาย ใช้จ่ายง่าย แต่เมื่อถึงเวลาที่ชำระก็ถือว่าหนักหน่วงอยู่ไม่ใช่น้อย
ตอบตกลงไว้ก่อน
หากมีใครยื่นโอกาสเข้ามาควรตอบ “ตกลง” ไว้ก่อน แล้วค่อยมานั่งหาวิธีทำ ขอให้ลองทำไว้ก่อน หากทำได้ตามเป้าหมายถือเป็นบันไดสร้างการเติบโตในอาชีพการงาน ถ้าล้มเหลวก็ถือเป็นบทเรียน
ที่มา: cnbc