Amazon

Amazon แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ต้นแบบการใช้หุ่นยนต์ ทำงานแทนคน

Amazon ยักษ์ใหญ่แห่งวงการอีคอมเมิร์ซอยู่แนวหน้าของนวัตกรรมเทคโนโลยีมาอย่างยาวนาน โดยเรื่องที่สร้างความประทับใจอย่างมากคือการใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ (AI) และหุ่นยนต์มาใช้ทำงานเพื่อเปลี่ยนแปลงระบบการทำงานให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกว่าเข้ามาแทนที่มนุษย์เลยก็ว่าได้

 

เราจะมาดูกันว่าหุ่นยนต์เปลี่ยนแปลงธุรกิจของ Amazon ไปอย่างไร

 

Tye Brady หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยี Robotics บอกว่าธุรกิจมีฝูงหุ่นยนต์อุตสาหกรรมที่เคลื่อนที่ใหญ่ที่สุดในโลก ขับเคลื่อนมากกว่า 750,000 หน่วย โดยหุ่นยนต์เหล่านี้ไม่ใช่เครื่องจักรธรรมดา แต่มีระบบ AI ที่ซับซ้อนทำให้ทำงานไปตามพื้นที่ของคลังสินค้าที่มีความซับซ้อนได้ และทำงานร่วมกับมนุษย์ได้ง่ายขึ้น

 

สำหรับหนึ่งในนวัตกรรมที่สร้างความประทับใจมากที่สุด คือหุ่นยนต์ Hercules drive ที่พลิกโฉมการดำเนินงานในคลังสินค้าแบบเดิม ๆ จากเมื่อก่อนคนจะต้องเดินไปตามทางยาว ๆ เพื่อหยิบสินค้า แต่หุ่นยนต์นี้จะนำสินค้าทั้งหมดบนชั้นวางไปให้คนงานโดยตรง

 

 

“เราสามารถย้ายชั้นวางสินค้าตามความต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และจัดเก็บสินค้าได้อย่างยอกเยี่ยม ระบบนี้ทำให้ความหนาแน่นของการจัดเก็บข้อมูลเพิ่มขึ้นถึง 40% เมื่อเทียบกับระบบแบบเดิม” Brady อธิบาย

 

นอกจากนี้ ยังมีการรับรู้ และการนำทางที่ขับเคลื่อนด้วย AI โดย Proteus หุ่นยนต์ที่ก้าวไปอีกขั้น ถูกรับรองว่าปลอดภัยต่อการทำงานร่วมกับผู้คน ซึ่งหุ่นยนต์สามารถเคลื่อนที่ผ่านพื้นที่ที่มีคนพลุกพล่านไปอย่างช้า ๆ พร้อมทำงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จ อีกทั้ง สิ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษเกี่ยวกับ Proteus คือมีลักษณะเหมือนมนุษย์ มีดวงตา และตัวบ่งชี้ทางภาพที่ช่วยให้มนุษย์เข้าใจถึงเจตนา

 

“หาก Proteus ต้องการเคลื่อนที่ไปหัวมุม ก็จะเบี่ยงสายตาไปตรงจุดนั้น และมนุษย์ก็จะรู้ถึงความต้องการ” Brady อธิบาย

 

 

 

ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทยังเปลี่ยนซัพพลายเชนทั้งหมด โดยการใช้หุ่นยนต์ไม่ได้จำกัดแค่ในคลังสินค้าเท่านั้น แต่ยังทำงานทั้งหมดตั้งแต่ “ไมล์แรก” ที่เก็บสินค้า และเตรียมความพร้อมสำหรับการจัดส่ง ไปจนถึง “ไมล์กลาง” คัดแยกสินค้า และกระจายส่งตามภูมิภาค เช่นเดียวกับ “ไมล์สุดท้าย” ของการจัดส่งไปยังหน้าประตูบ้านของลูกค้า

 

จุดที่น่าสนใจในเรื่องของการทำงาน คือหุ่นยนต์ในศูนย์คัดแยกได้คัดแยกพัสดุไปแล้วมากกว่า 3,000 ล้านชิ้น รวมถึงระบบ Sequoia โซลูชันแบบจัดเก็บก็สามารถลดเวลาในการประมวลผลคำสั่งซื้อลง 25% โดยนวัตกรรมเหล่านี้มีส่วนช่วยให้แบรนด์ขยายขอบเขตสิ่งที่เป็นไปได้ในระบบโลจิสติกส์ สร้างความรวดเร็ว และมีประสิทธิภาพในการจัดส่ง

 

แม้จะดูเหมือนว่าหุ่นยนต์จะเข้ามาทำงานแทนที่มนุษย์ แต่แนวทางของธุรกิจคือเน้นความร่วมมือระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์ มากกว่าการมุ่งเป้าไปที่ระบบอัตโนมัติแบบเต็มรูปแบบ โดยพวกเขามองว่า หุ่นยนต์เป็นเครื่องมือช่วยเสริมศักยภาพของมนุษย์

 

ที่มา: forbes, vox

เรื่องที่เกี่ยวข้อง