Bogg Bag

Bogg Bag กระเป๋าพลาสติกโฟมขายริมชายหาดสู่ธุรกิจ 3,000 ล้านบาท

จากจุดเริ่มต้นแบบไม่ได้ตั้งใจที่อยากจะแก้ปัญหาให้กับเรื่องของการใช้งานที่ของเดิมไม่ตอบโจทย์สักเท่าไหร่ สู่แบรนด์ Bogg Bag กระเป๋าพลาสติกโฟม น้ำหนักเบา คล้ายยาง ที่มีธุรกิจมีมูลค่า 3,000 ล้านบาท

ที่มาที่ไปของแบรนด์เกิดขึ้นเมื่อ Kim Vaccarella เดินทางไปริมชายหาดพร้อมกับตั้งข้อสังเกตว่ากระเป๋าที่ใช้ส่วนใหญ่เป็นลักษณะหวาย หรือตาข่าย และทำมาจากผ้าแคนวาส ซึ่งดูแล้วยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเท่าที่ควร ตรงจุดนี้จึงเป็นโอกาสทางธุรกิจที่จะผลิตสินค้าขึ้นมาเป็นทางเลือกให้กับลูกค้า

Vaccarella ต้องการกระเป๋าที่มีความใหญ่พอที่จะใส่สิ่งของที่เราต้องการ มีความทนทาน ไม่เสียทรงง่าย โดยมองไปที่วัสดุอย่าง EVA ที่มีคุณสมบัติเด่นในเรื่องของน้ำหนักที่มีความเบาคล้ายยาง เหมือนกับรองเท้าแบรนด์ Crocs แน่นอนว่าสำหรับกระเป๋ายังไม่มีแบรนด์ไหนทำแบบนี้

หลังจากนั้น เจ้าตัวได้วาดภาพกระเป๋าขึ้นมาบนกระดาษแผ่นหนึ่ง เป็นกระเป๋าทรงสี่เหลี่ยมที่มีรู และมีหูหิ้วออกมา โดย Vaccarella ใช้เวลาลองผิด ลองถูก แต่ก็ได้ชูจุดเด่นในเรื่องของความจุ, ทำความสะอาดง่าย และคงทนอยู่ได้นาน ซึ่งหลังจากนั้นแบรนด์ Bogg Bag จึงเกิดขึ้นกับไอเดียกระเป๋าชายหาดสุดสมบูรณ์แบบ

อย่างไรก็ตาม เส้นทางธุรกิจของแบรนด์กระเป๋ารายนี้ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะครั้งหนึ่งบริษัทเกือบจะปิดตัวลงเมื่อคำสั่งซื้อครั้งแรกเกิดความผิดพลาดอย่างร้ายแรง และนี่คือแนวคิดของการพัฒนาแบรนด์จนเดินหน้าประสบความสำเร็จมาจนถึงทุกวันนี้ได้

เริ่มต้นธุรกิจแบบไม่ได้ตั้งใจ

Vaccarella ไม่มีความรู้เรื่องการทำธุรกิจเลย โดยทำอาชีพเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ด้วยความที่ไม่มีประสบการณ์จึงไม่เคยคิดว่าจะสร้างแบรนด์ได้สำเร็จ แต่ก็มีกรณีศึกษาที่สร้างแรงบันดาลใจ นั่นคือการเข้าซื้อ Jibbitz ของ Crocs ในปี 2006 ด้วยมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

จากการวาดรูปกระเป๋าของ Vaccarella มีความน่าทึ่งเป็นอย่างมาก และต้องการพัฒนาไอเดียนี้ให้ประสบความสำเร็จ โดยเจ้าตัวใช้ระยะเวลาหลายปีกว่าจะได้จดสิทธิบัตร และตั้งโรงงานในประเทศจีน หลังจากค้นพบแบบกระเป๋าที่หลงใหล แม้คนอื่นจะไม่ซื้อไอเดียนี้ แต่เจ้าตัวเชื่อมั่นว่าได้สิ่งที่ต้องการแล้ว

ออเดอร์แรกที่สั่งผลิตกระเป๋ามีจำนวน 300 ชิ้น โดยวางขายในร้านค้าพื้นที่นิวเจอร์ซีย์ เพื่อเรียนรู้ และหาพาร์ทเนอร์ผู้ค้าปลีก ซึ่งปัจจุบันแบรนด์มีสินค้า 3 ขนาดด้วยกัน มีตั้งแต่ไซส์เล็กราคา 55 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไปจนถึงไซส์ใหญ่ราคา 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ

 

 

หลังได้รับกระแสตอบรับ Vaccarella พร้อมที่จะมุ่งมั่นขยายธุรกิจครั้งใหญ่ โดยใช้เงินเก็บที่จะใช้เป็นค่าเล่าเรียนลูกสั่งผลิตกระเป๋าอีกล็อตใหญ่ขนส่งผ่านตู้คอนเทนเนอร์ แต่เมื่อสินค้ามาถึงกลับพบกับความผิดปกติไม่ตรงปกตามที่สั่งไว้ ทำให้ไม่มีสินค้า และไม่มีเงินทุนหมุนเวียนจนบริษัทเกือบล้มละลาย ซึ่งใช้เวลานานหลายปีกว่าจะกลับมาได้อีกครั้ง

จุดเปลี่ยนสำคัญของธุรกิจเกิดขึ้นในช่วงพายุเฮอริเคนพัดถล่มทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ Vaccarella และสามี ตัดสินใจบริจาคกระเป๋าที่ไม่ตรงช่วยเหลือให้กับผู้ได้รับผลกระทบ ตรงนี้กลายเป็นสร้างการรับรู้ให้กับแบรนด์ สินค้าเป็นที่ต้องการของตลาด

มาคราวนี้ Vaccarella จะทำอะไรต้องคิดให้ถี่ถ้วน มีการวางแผนอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่การมองหาโรงงานผลิตที่มีคุณภาพกว่าเดิม, ระดมทุนจากนักลงทุน, พื้นที่วางจำหน่าย และเครื่องมือสร้างการรับรู้ ซึ่งดูเหมือนว่าความผิดพลาดครั้งก่อนเป็นบทเรียนสำคัญที่ทำให้แบรนด์ประสบความสำเร็จ เป็นแบรนด์ที่มีมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท

ปัจจุบัน Bogg Bag มีสินค้าที่หลากหลายนอกจากกระเป๋าใส่สิ่งของ ยังมีกระเป๋าใส่เครื่องดื่ม, กระเป๋าใส่เครื่องสำอาง ซึ่งแต่ละชิ้นมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง

ที่มา: boggbag, CNBC

เรื่องที่เกี่ยวข้อง