ภาพจำของร้านสะดวกซื้อ คือเน้นความรวดเร็ว และราคาประหยัด แต่ Erewhon ร้านชำ/ร้านค้าปลีกกลับเดินหมากตรงกันข้าม ร้านชำจากลอสแอนเจลิสแห่งนี้ไม่ได้ขายแค่ผักออร์แกนิก หรือสินค้าเพื่อสุขภาพ แต่มันได้กลายเป็น “Social Status” หรือเครื่องหมายแสดงสถานะทางสังคมที่ทรงพลังที่สุดในยุคโซเชียลมีเดีย
การถือถุงกระดาษสีน้ำตาลที่มีโลโก้ Erewhon หรือการจิบสมูทตี้แก้วละเกือบ 700 บาท ไม่ใช่แค่การบริโภคอาหาร แต่คือการประกาศตัวตนว่าคุณคือกลุ่มคนที่ดูแลตัวเอง รักสุขภาพ และมีกำลังซื้อในระดับ High-end
Smart SME จะพาไปรู้จักตัวตนทางธุรกิจของร้านชำแห่งนี้มากยิ่งขึ้น
โมเดลธุรกิจ Curated Luxury Market
หัวใจสำคัญของ Erewhon คือการวางตัวเป็น “Certified Organic Retailer” ที่เข้มงวดที่สุด สินค้าทุกชิ้นที่วางขายต้องผ่านการคัดกรองว่าไม่มีสารปรุงแต่ง ไม่มีการตัดแต่งพันธุกรรม และต้องมีที่มาที่ไปที่ยั่งยืน โมเดลธุรกิจของเขาไม่ใช่การขายสินค้าจำนวนมาก แต่คือการเป็น Curator หรือผู้คัดสรรสิ่งที่ดีที่สุดมาไว้ในที่เดียว ทำให้ลูกค้าเกิดความเชื่อมั่นจนยอมจ่าย “Premium Price” เพื่อแลกกับความมั่นใจว่าสิ่งที่หยิบจากชั้นวาง คือสิ่งที่ดีต่อร่างกายที่สุด

ไม่เพียงเท่านั้น ร้านยังมีระบบ Membership ที่แข็งแกร่ง ซึ่งไม่ใช่แค่การสะสมแต้ม แต่เป็นการสร้าง Community ของคนรักสุขภาพระดับบน
ทำไมถึงเป็นร้านขายของชำที่แพงที่สุดในโลก?
สาเหตุที่ Erewhon มีราคาสูงลิ่วมาจาก Operating Cost ที่ต่างจากซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป ตั้งแต่การเลือกทำเลในย่านที่ค่าเช่าแพงที่สุด เช่น Beverly Hills หรือ Santa Monica ไปจนถึงการบริหารจัดการ Supply Chain กับฟาร์มท้องถิ่นขนาดเล็กที่ไม่สามารถทำราคาแบบ Economy of Scale ได้
นอกจากนี้ การจัดวางสินค้าที่สวยงามราวกับอาร์ตแกลเลอรี และการจ้างพนักงานที่มีความรู้เฉพาะทางด้านโภชนาการ ทั้งหมดนี้ถูกบวกเข้าไปในราคาสินค้าที่ทำให้ไข่ไก่หนึ่งแพ็ค หรือน้ำเปล่าหนึ่งขวดมีราคาสูงกว่าคู่แข่งหลายเท่าตัว
กลยุทธ์การตลาดแบบ Aesthetic & Influence Marketing
Erewhon ประสบความสำเร็จอย่างสูงในการใช้กลยุทธ์ “Aesthetic Marketing” โดยออกแบบทุกอย่างในร้านให้ “Instagrammable” หรือถ่ายรูปสวย ตั้งแต่การเรียงผักที่ไล่เฉดสีไปจนถึงแพ็กเกจจิ้งที่ดูมินิมอล แต่หมัดเด็ดที่สุดคือการทำ Celebrity Collaboration เช่น การออกเมนูสมูทตี้ร่วมกับ Hailey Bieber หรือ Kourtney Kardashian ซึ่งเป็นการเปลี่ยนเครื่องดื่มสุขภาพให้กลายเป็นสินค้าแฟชั่น ส่งผลให้เกิดคอนเทนต์มหาศาลใน TikTok และ Instagram โดยที่แบรนด์แทบไม่ต้องซื้อโฆษณาแบบดั้งเดิมเลย

บทเรียนธุรกิจจากความแตกต่าง
ความสำเร็จของ Erewhon ร้านชำ/ร้านค้าปลีก พิสูจน์ให้เห็นว่า ในตลาดที่มีการแข่งขันด้านราคาสูง การสร้าง Niche Market ที่ชัดเจนและมอบประสบการณ์ที่หาจากที่ไหนไม่ได้คือทางรอดที่ยั่งยืน Erewhon ไม่ได้แข่งกับ Walmart หรือ Amazon ในเรื่องความถูก แต่เขาแข่งในเรื่อง “ความหมาย” และ “คุณค่า” ของการมีชีวิตที่ดี บทเรียนสำคัญคือ หากแบรนด์สามารถสร้างความเชื่อถือ และกลายเป็นส่วนหนึ่งของอัตลักษณ์ของผู้บริโภคได้ “ราคา” จะไม่ใช่ข้อจำกัดอีกต่อไป
Post Views: 51