Luxumer

Luxumer เทรนด์ธุรกิจมาแรงปี 2025 คนไม่รวยอู้ฟู่ก็หรูได้ สไตล์รักษ์โลก

ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน มีปรากฏการณ์หนึ่งที่น่าสนใจในสังคมไทย: การเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาดสินค้าและบริการระดับลักชัวรี ไม่ว่าแบรนด์หรูจะเปิดตัวอะไรใหม่ เราจะเห็นภาพคนไทยที่เป็น Luxumer ต่อแถวยาวรอซื้อสินค้า แม้ราคาจะสูงลิบลิ่ว

แต่อะไรทำให้คนไทยยุคนี้ “เสพติดความหรู” ขนาดนี้? ทำไมแม้แต่คนรายได้ไม่สูงก็พร้อมจะควักกระเป๋าซื้อประสบการณ์ระดับพรีเมียม? วันนี้เราจะพาไปส่องพฤติกรรมผู้บริโภคกลุ่มลักชัวรี ผ่านผลวิจัยล่าสุดจากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล ที่จะเผยให้เห็นว่าตลาดหรูในไทยกำลังเปลี่ยนไปอย่างไร และธุรกิจควรปรับตัวอย่างไรเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ที่หัวใจต้องการความลักชัวรี

 

ผู้เสพติดความหรู

 

เปิดพฤติกรรมคนไทยยุคใหม่ เสพติดความหรู ไม่ต้องรวย แค่ใจลักซ์

จากผลวิจัย “Unstoppable Luxumer” โดยวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล (CMMU) เผยให้เห็นปรากฏการณ์น่าสนใจของตลาดสินค้าหรูในไทย ที่ขยายวงกว้างไปไกลกว่ากลุ่มผู้มีรายได้สูง

พฤติกรรมการบริโภคสินค้าหรูแบ่งตามรายได้:

1. กลุ่มรายได้น้อย

  •  เน้น “สินค้าหรูที่พอเอื้อมถึงได้” (Affordable Luxury)
  • นิยมอาหารและเครื่องดื่มระดับพรีเมียม
  • มองเป็นการให้รางวัลตัวเอง
  • ต้องการสัมผัสประสบการณ์หรูหรา

2. กลุ่มรายได้ปานกลางถึงสูง

  • เน้นสินค้าแฟชั่นและความงาม
  • ลงทุนกับเครื่องสำอาง สกินแคร์ น้ำหอม
  • ซื้อเสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้าแบรนด์เนม
  • เพื่อเสริมภาพลักษณ์และความมั่นใจ

ความน่าสนใจ คือ ระดับความหลงใหลในวัตถุนิยมไม่แตกต่างกันระหว่างกลุ่มรายได้ โดยรายได้ไม่ใช่ตัวแปรหลักในการตัดสินใจซื้อสินค้าหรู แต่ถูกมองเป็นการลงทุนที่สร้างมูลค่าเพิ่มในอนาคต เพราะแนวโน้มการซื้อสินค้าหรูเพื่อสะสมและเก็งกำไรเพิ่มขึ้นด้วย

 

สินค้าหรู

 

ปรากฏการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า “ความหรู” ในมุมมองของคนไทยได้เปลี่ยนไป จากการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยกลายเป็นการลงทุนทั้งในด้านภาพลักษณ์ ประสบการณ์ และมูลค่าในอนาคต

4 เทรนด์ตลาดหรูปี 2025 เติบโตแกร่งแม้เศรษฐกิจผันผวน

ผศ.ดร. สุเทพ จากวิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล เผยว่าตลาดสินค้าและบริการหรูมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในปี 2568 และอีกหลายปีข้างหน้า โดยไม่ขึ้นกับสภาวะเศรษฐกิจ พร้อมชี้ 4 เทรนด์สำคัญที่จะเปลี่ยนโฉมตลาดลักชัวรี:

1. อารมณ์มาก่อนประโยชน์ใช้สอย ผู้บริโภคยุคใหม่ให้น้ำหนักกับความรู้สึกและประสบการณ์ที่ได้รับจากสินค้าและบริการมากกว่าประโยชน์ใช้สอย การตลาดเชิงอารมณ์จึงจะมีบทบาทสำคัญมากขึ้น

2. หรูต้องใส่ใจโลก กลุ่ม Gen Z และ Millennials ให้ความสำคัญกับความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม แบรนด์หรูที่มีนโยบาย Eco-Friendly เช่น ใช้วัสดุรีไซเคิล ลดคาร์บอน หรือผลิตอย่างยั่งยืน จะได้เปรียบในการแข่งขัน

3. มือสองก็หรูได้ ตลาดสินค้าหรูมือสองจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยเฉพาะบนแพลตฟอร์มออนไลน์ ตอบโจทย์ทั้งผู้ที่ต้องการเข้าถึงแบรนด์หรูในราคาที่จับต้องได้ และผู้ที่มองหาการลงทุนระยะยาว

4. เช่าหรู ไม่ต้องซื้อ บริการเช่าสินค้าหรู ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์ กระเป๋า เสื้อผ้า หรือเครื่องประดับ จะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะช่วยให้ผู้บริโภคเข้าถึงไลฟ์สไตล์หรูได้ง่ายขึ้น พร้อมความยืดหยุ่นในการเลือกใช้ตามโอกาสต่างๆ

เทรนด์เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าตลาดสินค้าหรูกำลังปรับตัวเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์และค่านิยมที่เปลี่ยนไปของผู้บริโภคยุคใหม่ ที่ไม่เพียงต้องการความหรูหรา แต่ยังใส่ใจเรื่องความคุ้มค่าและความยั่งยืน

ทั้งหมดนี้ สะท้อนให้เห็นว่า “ความหรูหรา” สำหรับชาว Luxumer ไม่ได้หมายถึงแค่ “ราคาแพง” แต่คือ “คุณค่า” ที่พวกเขาได้รับ ไม่ว่าจะเป็นความสุขทางอารมณ์หรือประสบการณ์ที่ยากจะหาได้ที่ไหน บางครั้งแค่สิ่งเล็ก ๆ ที่ทำให้พวกเขารู้สึกพิเศษก็เพียงพอที่จะเปลี่ยนให้เป็นลูกค้าประจำได้แล้วค่ะ ดังนั้น ถ้าเราเข้าใจหัวใจและพฤติกรรมของกลุ่มนี้อย่างแท้จริง ไม่ว่าเศรษฐกิจจะผันผวนแค่ไหนก็ยังพร้อมลงทุนเพื่อเติมเต็มความสุขของตัวเองเสมอ

เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง