QueQ แอป

QueQ แอปฯ ผู้ปฏิวัติ “คิว” ให้เป็น “เวลาชีวิต” ที่มีค่า เพราะเบื่อไม่อยากยืนรอ

ปัญหาการ “รอคิว” ที่ยาวนานและแสนน่าเบื่อ ไม่ว่าจะในร้านอาหาร โรงพยาบาล หรือศูนย์บริการ คือสิ่งที่ผู้บริโภคชาวไทยต้องเผชิญมานานแสนนาน แต่สำหรับคุณ “โจ้” รังสรรค์ พรมประสิทธิ์ นี่คือจุดเริ่มต้นของแอปฯ ชื่อว่า QueQ แอปพลิเคชันที่เปลี่ยนความรอนานอันเป็น Pain Point สู่ธุรกิจมูลค่ามหาศาล

 

ไอเดียธุรกิจเกิดขึ้นเมื่อคุณรังสรรค์พบเจอเหตุการณ์ในธนาคารที่จุดประกายคำถามว่า “ทำไมเราต้องทิ้งเวลาชีวิตไปกับการยืนรอ?” จากจุดนั้นเองได้ถือกำเนิดแพลตฟอร์มจัดการคิวที่ไม่ได้ทำแค่ “แจกบัตรคิว” แต่ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยวางแผนเวลาส่วนตัว ให้ผู้คนสามารถไปทำอย่างอื่นได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะพลาดคิวสำคัญขึ้น

 

[กำเนิด QueQ เทคโนโลยีที่มาจาก Pain Point ชีวิตจริง]

 

แนวคิดหลักของแอปฯ คือการขจัดปัญหาความแออัดและการรอคิวอย่างไร้จุดหมาย โดยใช้ระบบแจ้งเตือน (Alert Notification) เมื่อใกล้ถึงคิว ทำให้ลูกค้าสามารถกำหนดเวลา และมาถึงจุดบริการได้ตามรอบเวลาที่กำหนดอย่างแม่นยำ ซึ่งเป็นการ “ตัด End Point” ของความเบื่อหน่ายในการยืนรออย่างแท้จริง

 

 

ตลอดระยะเวลากว่า 9-10 ปีที่ผ่านมา QQ ได้เติบโตขึ้นจากการเป็นมากกว่าธุรกิจ แต่เป็นการทำ “Social Service” ผ่านการสนับสนุนงานสาธารณะ และกิจกรรมของภาครัฐและเอกชนมากมาย การเข้าไปช่วยแก้ปัญหาจริงในสังคมเหล่านี้เอง ที่ทำให้ได้รับ Feedback และ Big Data กลับมา เพื่อปรับปรุงระบบให้เข้ากับพฤติกรรมและความต้องการของคนไทยอย่างแท้จริง

 

[ผลลัพธ์ที่น่าทึ่ง ธุรกิจรอด พนักงานจัดการง่าย]

 

ร้านอาหารคือกลุ่มลูกค้าหลักที่ได้รับประโยชน์อย่างชัดเจน เนื่องจากร้านอาหารต้องเผชิญกับปัญหาลูกค้า “ทิ้งคิว” เมื่อรอนานเกินไป แต่ข้อมูลของ QueQ พบว่าเมื่อลูกค้าจองผ่านแอปพลิเคชัน อัตราการทิ้งคิวลดลงถึง 35% เพราะลูกค้ารู้รอบเวลาที่แน่นอน พวกเขาจึงไปทำกิจกรรมอื่นก่อนแ ละกลับมารับบริการ ทำให้ร้านค้าไม่เสียโอกาสทางรายได้

 

นอกจากนี้ ระบบหลังบ้านของ QueQ  ยังช่วยให้ร้านอาหารสามารถ บริหารจัดการได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยการดูรายงานคิวสะสมในแต่ละวัน ทำให้สามารถจัดสรรจำนวนพนักงานให้เหมาะสมกับปริมาณคิวได้อย่างแม่นยำ ซึ่งส่งผลโดยตรงต่อการลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริการ

 

[กลยุทธ์การอยู่รอดในโลก Cloud และการแข่งขัน]

 

แม้จะเผชิญกับอุปสรรคทางเทคนิคอย่างการพึ่งพาอินเทอร์เน็ต (Cloud-based) แต่ QueQ ได้พัฒนาระบบให้มีความยืดหยุ่นสูง โดยมีทางเลือกให้ลูกค้าสามารถ รับบัตรคิวแบบ Physical ได้ และยังสามารถเปลี่ยนไปใช้ระบบออนไลน์ โดยการสแกน QR Code คิวเดิมได้ทุกเมื่อ

 

อีกทั้ง การสร้างความแตกต่างในตลาดที่มีคู่แข่งสูง QueQ เลือกที่จะใช้กลยุทธ์ที่เน้น ความน่าเชื่อถือและความเข้าถึงง่าย ไม่ว่าจะเป็น

 

ความโปร่งใส: ร่วมมือกับ DEPA (ดีป้า) และกระทรวงดิจิทัล ทำให้ได้รับการรับรองและตรวจสอบได้ สร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าบริษัทจะไม่หายไปไหน

 

ราคาที่เข้าถึงได้: กำหนดค่าบริการที่ไม่สูง (เริ่มต้นเพียง 14,400 บาท/ปี สำหรับออนไลน์ล้วนต่อสาขา) เพื่อให้ SME และธุรกิจขนาดเล็ก สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีได้

 

การเติบโตกับลูกค้า: เน้นการสร้างความสัมพันธ์และเติบโตไปพร้อมกับลูกค้าหลัก เช่น Lucky Suki ซึ่งกลายเป็น เครื่องมือโปรโมทที่ดีที่สุด ผ่านการบอกต่อ

 

[อนาคตที่ไร้ขีดจำกัด จากร้านอาหารสู่ Smart City]

ปัจจุบัน QueQ ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ร้านอาหาร แต่ขยายไปสู่ศูนย์บริการ โรงพยาบาล อุทยาน และอีเว้นต์ต่าง ๆ ด้วยยอดดาวน์โหลดกว่า 15 ล้านครั้ง และผู้ใช้งาน Active 3-4 ล้านคนต่อเดือน แพลตฟอร์มนี้กำลังกลายเป็นรากฐานสำคัญของแนวคิด Smart City ที่เน้นการจัดการ Traffic ของผู้คน ยกตัวอย่างเช่น การเข้าไปช่วยโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ลำปาง ในการจัดการคิวการพยาบาล ซึ่งช่วยลดความแออัด และแก้ปัญหาความเข้าใจผิดในการจองคิวของผู้สูงอายุ ทำให้การเข้ารับบริการของทุกคนมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

 

แน่นอนว่า “เวลา” เป็นสิ่งที่มีค่า และทุกคนมีเท่ากัน อยู่ที่ว่าจะบริหารจัดการอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ เช่นเดียวกับการรอคิวเพื่อใช้บริการในเรื่องต่างๆ ที่บางครั้งก็กินเวลาชีวิตไปมาก การมีเครื่องมือเข้ามาช่วยจัดการย่อมส่งผลดีกับการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เหมือนกับ QueQ แอปพลิเคชัน ที่มองเห็นปัญหาตรงนี้ และเข้ามาแก้ไขอย่างตรงจุด

 

เรืื่องอื่นๆ ที่นาสนใจ