แบรนด์คุกกี้ Sweet Loren ก่อตั้งโดย Loren Castle จากคนไม่มีอาชีพที่อยากทำในใจเมื่อเรียนจบมหาวิทยาลัยในปี 2006 จนใช้เงินเปลี่ยนงานเสริมในครัวให้เป็นธุรกิจ สร้างรายได้ 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,284 ล้านบาท) ต่อปี
Loren Castle จบการศึกษาด้านการสื่อสาร และมีความชื่นชอบเรื่องสุขภาพ และธุรกิจ แต่ก็ไม่ได้มีไอเดียจะต่อยอดเรื่องนี้ในชีวิตแต่อย่างไร แต่ชีวิตเหมือนเล่นตลกเพราะเธอถูกวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลืองฮอดจ์กินระยะที่ 2 ซึ่งเป็นมะเร็งที่โจมตีระบบภูมิคุ้มกัน และต้องเข้ารับเคมีบำบัดเป็นระยะเวลา 6 เดือน โดยการได้พบกับนักบำบัดช่วยให้มองเห็นช่วงเวลาแห่งพลัง รวมถึงโอกาสมากมายที่สามารถควบคุมได้
หนึ่งวิธีที่ทำได้คือการรับประทานอาหารที่เจ้าตัวมั่นใจจะกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ แม้ว่าจะได้รับการรักษาแล้วก็ตาม Castle เริ่มเรียนรู้หลักสูตรโภชนาการ และการทำอาหาร แต่ก็พบบางอย่างที่ขาดหายไปนั่นคือ “ของหวาน” ที่ส่วนตัวเป็นคนที่ชื่นชอบเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอไม่สามารถหาเบเกอรี่ที่ไม่ผ่านการแปรรูปได้ ดังนั้นจึงเริ่มไอเดียทำขนมหวานที่ดีต่อสุขภาพให้กับตัวเอง โดยใช้สูตรคุกกี้ช็อกโกแลตชิปแบบทั่วไป ซึ่งปรับเปลี่ยนสูตรไปทีละเล็กทีละน้อย
ที่มา: sweetlorens.com
“เราใช้แป้งโฮลเกรนแทนแป้งขาวฟอกขาว เช่น แป้งข้าวโอ๊ต และน้ำตาลทรายแดงขัดขาวแทนน้ำตาลอ้อยกับกากน้ำตาล จนในที่สุดลงเอยด้วยสูตรที่ทำจากส่วนผสมจากธรรมชาติเกิดเป็นคุกกี้ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยกินมา” Castle เล่าให้ฟัง
เกือบ 20 ปีต่อมา Castle ได้ก่อตั้งและซีอีโอของแบรนด์ Sweet Loren’s ซึ่งจำหน่ายแป้งคุกกี้แช่เย็นแบบวีแกน ปราศจากกลูเตน และไม่มีสารก่อภูมิแพ้ในหลากหลายรสชาติ รวมถึงสินค้าอื่น ๆ อีกไม่ว่าจะเป็น เพสตรี้แช่เย็น, แป้งพิซซ่า และแป้งพาย ที่วางขายในร้านค้า 35,000 แห่งทั่วประเทศ และสร้างรายได้รวมถึง 97 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ((ประมาณ 3,284 ล้านบาท) ในปี 2024
สำหรับเส้นทางการสร้างธุรกิจขึ้นมาต้องย้อนกลับไปในช่วงที่การรักษาเสร็จสิ้นในปี 2007 Castle ต้องอยู่ที่นิวยอร์กเป็นเวลาหลายปีเพื่อตรวจสุขภาพกับแพทย์ประจำ โดยในช่วงกลางคืนเธอจะกลับบ้านมาเข้าครัว และอบขนมจากสูตรคุกกี้ที่ส่งผลดีต่อสุขภาพ
“ฉันอยากทำคุกกี้ข้าวโอ๊ตแครนเบอร์รี่ ฉันอยากสร้างสูตรคุกกี้บราวนี่ฟัดจ์” Castle พูดถึงไอเดียที่อยากทำ
ในปี 2010 Castle เริ่มขยายขอบเขตสิ่งที่ทำอยู่ หลังได้รับผลตอบรับที่จากครอบครัว และเพื่อนๆ โดยเข้าร่วมการแข่งขันอบขนม ซึ่งเชฟชื่อดังอย่าง Gina DePalma ซึ่งเป็นกรรมการถึงต้องบอกว่า “คุณต้องทำอะไรสักอย่างกับสิ่งนี้” นี่จึงเป็นครั้งแรกที่คนที่มีความเชี่ยวชาญเอ่ยปากชมกับสิ่งที่ทำอยู่
ที่มา: sweetlorens.com
ในปี 2011 เธอได้เข้าแข่งขันอีกรายการ และก็คว้ารางวัลชนะเลิศอีกครั้ง โดยช่วงเวลานี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นของแบรนด์รวมถึงการเริ่มเรียนหลักสูตรการเขียนแผนธุรกิจที่เน้นเรื่องโลจิสติกส์, การเช่าพื้นที่, ต้นทุนการบริหารจัดการ เช่นเดียวกับการหาพื้นที่จำหน่าย ซึ่งเธอมีเพื่อนทำงานอยู่ที่ Whole Foods เลยได้สอบถามถึงการนำสินค้าเข้าไปจำหน่าย
นอกจากนี้ Castle ยังใช้เงิน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อค้นหาโรงงาน, ออกแบบบรรจุภัณฑ์, ขยายสูตร และในที่สุดคุกกี้แบรนด์ก็ได้เข้าไปขายที่ Whole Foods ในที่สุด และยังมีการปรับปรุงสูตร รวมถึงขยายช่องทางขายไปยังซูเปอร์มาร์เก็ต ไม่ว่าจะเป็น Kroger และ Publix ซึ่งได้รับผลตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดีกับแนวคิดการทำคุกกี้ที่ให้ประโยชน์ต่อสุขภาพ
ต่อมาในปี 2018 ผลิตภัณฑ์ทั้งหมดของบริษัทได้ถูกเปลี่ยนเป็นมังสวิรัติ และปราศจากสารก่อภูมิแพ้ พร้อมทั้งปรับราคาคุกกี้เป็นชิ้นละ 1 ดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อครอบคลุมค่าใช้จ่าย จนทำให้ธุรกิจมีกำไรเรื่อยมา โดยในปีนี้คาดการณ์ว่าจะสร้างรายได้ 120 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ
ที่มา: sweet lorens, cnbc
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
Post Views: 99
