TikTok x Data Center จุดเปลี่ยนไทย กลายเป็น Tech Hub อาเซียน

การเติบโตของ TikTok ในประเทศไทยไม่เพียงสะท้อนถึงความนิยมที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มผู้บริโภคชาวไทย แต่ยังเป็นสัญญาณของการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้งาน ที่หันมาใช้แพลตฟอร์มวิดีโอสั้นเป็นเครื่องมือสำคัญในการเรียนรู้ ความบันเทิง และการซื้อขายออนไลน์ ซึ่งเป็นปัจจัยที่เปิดโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจและการลงทุนในยุคดิจิทัล

คนไทยใช้ TikTok ทำอะไรบ้าง

  • การช้อปปิ้งออนไลน์: 77% ของคนไทยช้อปออนไลน์ทุกสัปดาห์ โดย TikTok Shop กลายเป็นตัวเลือกสำคัญสำหรับนักช้อปออนไลน์
  • การใช้จ่ายเฉลี่ย: ในช่วงเทศกาลลดราคาในปี 2024 นักช้อปบน TikTok มียอดการใช้จ่ายเฉลี่ย 14,000 บาทต่อคน
    การติดตามข่าวสาร: ประเทศไทยเป็นประเทศที่ใช้ TikTok ในการติดตามข่าวสารมากที่สุดในโลก

ในช่วงต้นปี 2025 TikTok ได้ประกาศการลงทุนครั้งสำคัญมูลค่า 126,790 ล้านบาท (3,800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อพัฒนาโครงการ Data Hosting ขนาดใหญ่ในประเทศไทย ซึ่งถือเป็นโครงการที่สำคัญที่สุดในภูมิภาคนี้

แผนการลงทุนดังกล่าวนำโดย TikTok Pte. Ltd. ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของแพลตฟอร์มวิดีโอคอนเทนต์ยอดนิยม โดยจะทุ่มงบประมาณมหาศาลเพื่อติดตั้งเซิร์ฟเวอร์และอุปกรณ์เทคโนโลยีขั้นสูงใน Data Center ที่มีประสิทธิภาพสูงในพื้นที่สำคัญ ได้แก่ กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ และฉะเชิงเทรา

สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) ระบุว่า โครงการ Data Hosting ของ TikTok เป็นหนึ่งในหลายโครงการขนาดใหญ่ที่กำลังเกิดขึ้นในประเทศไทย โดยก่อนหน้านี้ Google, Microsoft และ AWS รวมถึงบริษัทเทคโนโลยีระดับโลกอีกหลายแห่ง ได้ประกาศลงทุนใน Data Center ในประเทศไทย เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดดิจิทัล

การลงทุนครั้งนี้เป็นก้าวสำคัญที่ไม่เพียงขยายขีดความสามารถของ TikTok เท่านั้น แต่ยังเป็นเครื่องยืนยันถึงศักยภาพของประเทศไทยในฐานะ “Digital Hub” ของภูมิภาค ซึ่งพร้อมรองรับอนาคตของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ

ทำไมประเทศไทยถึงดึงดูดการลงทุนใน Data Center

1. ทำเลศูนย์กลางของอาเซียน
ประเทศไทยมีตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ที่ช่วยให้ธุรกิจดิจิทัลสามารถเชื่อมต่อกับตลาดในภูมิภาคได้อย่างสะดวก รายงานของ JLL ชี้ว่า ทำเลที่ตั้งของไทยมีศักยภาพในการเชื่อมโยงเครือข่ายดิจิทัลระดับโลกอย่างมีประสิทธิภาพ โดยพื้นที่สำคัญอย่างกรุงเทพฯ ชลบุรี และบริเวณตอนเหนือและตะวันออกของกรุงเทพฯ กำลังกลายเป็นศูนย์กลางของการพัฒนา Data Center

2. โครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรองรับ
ประเทศไทยมีอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงและโครงสร้างโทรคมนาคมที่รองรับเทคโนโลยีระดับโลก ทำให้เป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล

3. พลังงานที่พร้อมใช้งานและแนวโน้ม Green Data Center
Data Center ต้องการพลังงานจำนวนมาก และประเทศไทยกำลังพัฒนา Green Data Center ที่ใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐาน ESG ซึ่งเป็นแนวทางสำคัญสำหรับอนาคตของอุตสาหกรรมนี้

4. แรงจูงใจด้านการลงทุนจากภาครัฐ
BOI ได้ออกมาตรการส่งเสริมการลงทุนที่มุ่งเน้นอุตสาหกรรมดิจิทัลและการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งช่วยสร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการลงทุน

นอกจากนี้ BOI ยังเผยว่า การลงทุนใน Data Center ครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพในการประมวลผลข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) อีกทั้งยังยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลของประเทศไทยให้ทันสมัย รองรับการเติบโตของเทคโนโลยี และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนในอนาคต

โครงการนี้ไม่เพียงตอกย้ำศักยภาพของประเทศไทยในยุคดิจิทัล แต่ยังช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ เปิดโอกาสใหม่ให้กับธุรกิจ และส่งเสริมประเทศไทยให้เป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญในระดับโลกอีกด้วย