Under the Weather

Under the Weather พลิกวิกฤตสัตว์เลี้ยงป่วย สู่ธุรกิจอาหารสัตว์มูลค่ากว่า 300 ล้าน

Kyla Sternlieb ผู้ก่อตั้งแบรนด์ Under the Weather ธุรกิจที่เกิดจาก Pain Point ส่วนตัว เมื่อสุนัขที่เลี้ยงป่วยด้วยปัญหาทางเดินอาหาร สัตวแพทย์แนะนำต้องกินอาหารสูตรอ่อนโยน ซึ่งต้องทำเอง แถมมีความยุ่งยาก นี่จึงเป็นไอเดียที่จะทำอาหารสำเร็จรูปขึ้นมา เพื่อแก้ปัญหาให้กับเจ้าของที่มีสัตว์เลี้ยงป่วย

 

ในยุคที่ “Pet Humanization” หรือการเลี้ยงสัตว์เหมือนลูกกำลังเบ่งบาน ความเจ็บป่วยของสัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นเพียงเรื่องของค่ารักษาพยาบาล แต่เป็น “ความกังวลใจ” ขั้นสูงสุดของผู้เจ้าของ แบรนด์ Under the Weather จึงถือกำเนิดขึ้นไม่ใช่ในฐานะแค่ผู้ผลิตอาหารสัตว์ แต่ในฐานะผู้ช่วยกู้วิกฤตที่เข้ามาตอบโจทย์ในช่วงเวลาที่เปราะบางที่สุดของผู้เลี้ยง ด้วยนวัตกรรมที่เปลี่ยนเรื่องยุ่งยากในครัวให้กลายเป็นความสะดวกสบายเพียงปลายนิ้ว

 

จากเหตุการณ์ “Ruffy” สุนัขที่เลี้ยงไว้ป่วย และมีอาการท้องเสีย สัตวแพทย์แนะนำให้ทำ “Bland Diet” หรืออาหารรสอ่อน (ข้าวต้มผสมไก่) ให้ทาน ซึ่งแม้จะดูง่าย แต่สำหรับคนทำงานที่มีเวลาน้อย การต้องตื่นมาหุงข้าวต้มไก่ทุกมื้อเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก และเสียเวลา

 

 

Kyla จึงเกิดคำถามสำคัญว่า “ทำไมถึงไม่มีใครทำอาหารสูตรนี้แบบสำเร็จรูปขาย?” นั่นจึงเป็นจุดประกายให้เธอคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์แบบฟรีซดราย (Freeze-dried) ที่คงคุณค่าทางอาหารและรสชาติไว้ เพียงแค่เติมน้ำร้อนก็พร้อมเสิร์ฟ ช่วยให้เจ้าของสัตว์เลี้ยงประหยัดเวลา และมั่นใจได้ว่าลูกรักสี่ขาจะได้รับสารอาหารที่เหมาะสมในการฟื้นฟูร่างกาย

 

“ในช่วงแรกต้องใช้เวลาช่วงกลางคืน และวันหยุดสุดสัปดาห์ค้นคว้าเรื่องสัตว์เลี้ยงอย่างละเอียด อ่านบทความนับไม่ถ้วน ศึกษาสินค้าทั้งออนไลน์/ออฟไลน์ รวมถึงดูงานแสดงสินค้าเพื่อดูคู่แข่ง” Kyla กล่าว

 

 

จุดเด่นที่เหนือกว่าของแบรนด์ คุณภาพ Human Grade และความสะดวกขั้นสุด ที่ทำให้แตกต่างจากอาหารสัตว์ทั่วไปคือการวางตำแหน่งผลิตภัณฑ์เป็น “Premium Bland Diet” โดยใช้วัตถุดิบเกรดเดียวกับคนทาน (Human Grade) ไม่มีการแต่งสี กลิ่น หรือใส่สารกันบูด เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของสัตว์ป่วย รวมถึงการแก้ Pain Point เรื่อง “ความสะดวก” ได้อย่างตรงจุด จากเดิมที่ต้องเตรียมวัตถุดิบ และปรุงเองนานนับชั่วโมง เหลือเพียงไม่กี่นาที ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์จึงไม่ได้เป็นเพียงอาหาร แต่เปรียบเสมือน “ชุดปฐมพยาบาลเบื้องต้น” ที่ควรมีติดบ้านไว้ เพื่อรับมือกับอาการป่วยฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด สร้างความอุ่นใจให้กับเจ้าของว่ามีตัวช่วยพร้อมเสมอเมื่อสัตว์เลี้ยง “รู้สึกไม่สบาย”

 

“ฉันเป็นคนรักสัตว์มาตลอดชีวิต เราไม่เพียงแต่ช่วยเหลือสัตว์เท่านั้น แต่เรายังช่วยเหลือเจ้าของพวกมันอีกด้วย ผลิตภัณฑ์ถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ไม่กินอาหาร เผชิญกับโรค หรือแม้กระทั่งเข้าสู่วัยชรา” Kyla กล่าว

 

กลยุทธ์การตลาดของ Under the Weather ถือเป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจของการ “เจาะตลาดเฉพาะกลุ่ม” แทนที่จะลงไปแข่งในสมรภูมิอาหารเม็ดประจำวันที่มียักษ์ใหญ่ครองตลาดอยู่แล้ว แบรนด์เลือกโฟกัสที่กลุ่ม “สัตว์ป่วยและต้องการการฟื้นฟู” ซึ่งเป็นตลาดที่มีคู่แข่งน้อยแต่มีความต้องการซื้อสูง

 

แน่นอนว่าแบรนด์ไม่ได้ขายแค่ผลิตภัณฑ์เท่านั้น แต่ยังขายความห่วงใยที่มีต่อสัตว์เลี้ยง โดยเข้าใจผู้ที่รักสัตว์ดีว่าสัตว์เลี้ยงที่ป่วยเป็นเรื่องเลวร้ายจึงเลือกสื่อสารด้วยความเข้าอกเข้าใจ ต่อความรักของเจ้าของที่มีต่อสัตว์เลี้ยง ทำให้แบรนด์กลายเป็นแบรนด์ที่ไม่ได้ขายแค่สินค้า แต่ขาย “ความห่วงใย” และเข้าไปนั่งอยู่ในใจคนรักสัตว์ทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว

 

ที่มา: undertheweatherpet, entrepreneur

 

เรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง