Idea

Family Mart ญี่ปุ่นทำร้านสะดวกซื้อเคลื่อนที่ เมื่อทำเลดีแต่ไม่มีที่เลยขอใช้รถเข้าไปจอด

จะดีแค่ไหนหากมีร้านสะดวกซื้อมานำเสนอสินค้า และบริการอยู่ตรงหน้าคุณ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ส่วนสำคัญของร้านสะดวกซื้อ คือ “ทำเลที่ตั้ง” อย่างไรก็ตาม ยังมีปัญหาตามมาอีกหากทำเลนั้นมีศักยภาพ แต่ไม่มีพื้นที่ให้สร้างร้านสะดวกซื้อ นี่เองจึงเป็นโจทย์ให้ Family Mart ญี่ปุ่น ต้องหาวิธีแก้ปัญหาด้วยการสร้างนวัตกรรมเป็นร้านสะดวกซื้อที่จูงลากด้วยรถยนต์สามารถเดินทางไปได้ทุกที่ที่ต้องการ โดยภายในร้านไม่เพียงแค่เป็นร้านราเมงสำเร็จรูป และเครื่องดื่มชาเขียวอุ่น ๆ อยู่ภายในร้านเท่านั้น แต่ยังมีสินค้ามากกว่า 280 รายการ รวมถึงของแช่เย็น นอกจากนี้ หลังคาของร้านยังติดแผงโซลาร์เซลล์ และเป็นร้านไร้พนักงาน ทำงานด้วยระบบอัตโนมัติที่เปิด/ปิดเครื่องปรับอากาศให้อยู่ในระดับอุณหภูมิที่เหมาะสมกับสินค้า โดยลูกค้าจะต้องบริการตัวเองทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกสินค้า นำไปจ่ายเงินกับเครื่องชำระเงินแบบไร้เงินสด ซึ่งภายในร้านจะมีขนาดความยาว 6.06 เมตร กว้าง 2.44 เมตร สำหรับการดีไซน์นั้น Family Mart ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก “รถบ้านเคลื่อนที่” โดยถูกพัฒนาจากพาร์ทเนอร์สำคัญอย่าง Hitachi และ Takenaka บริษัทสถาปัตยกรรม/ก่อสร้างของญี่ปุ่น ที่เข้ามามีส่วนร่วมเป็นที่มาของร้านสะดวกซื้อเคลื่อนที่ชื่อว่า Mobile Convenience Store อย่างไรก็ตาม รถร้านสะดวกซื้อเคลื่อนที่ของ Family Mart มีแค่ 1 […]

ร้านคาเฟ่ญี่ปุ่นไอเดียเจ๋งทำไอศกรีมช่อดอกไม้ เหมือนของจริงจนไม่กล้ากิน

(THISIS)SHIZEN ร้านคาเฟ่ในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สร้างสรรค์เมนูไอศกรีมที่มีลักษณะเป็นช่อดอกไม้ มีความประณีตคล้ายกับงานศิลปะ ทำออกมาสวยจนลูกค้าต้องทึ่ง ไม่อยากที่จะกิน ทางร้านใช้วลี “สวยเกินกว่าที่จะกิน” เพื่ออธิบายถึงเมนูนี้ที่ทำมาเป็นไอศกรีมช่อดอกไม้ ที่ลูกค้าไม่กล้าจะกิน แม้ว่าจะอร่อยแค่ไหนก็ตาม โดยไอศกรีมจะอยู่ในโคนคล้ายกับกระถางต้นไม้ โดยเมื่อลูกค้าคนมาชิม และมีการโพสต์ภาพลง TikTok และ Instagram จนกลายเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ กลายเป็นของหวานที่เหล่านักชิมต้องหามากินสักครั้งหนึ่งให้ได้ (THISIS)SHIZEN ตั้งอยู่ภายในศูนย์การค้า ShinPuhKan โดยเป็นคาเฟ่ที่มีชื่อเสียงในด้านการนำเสนอไอศกรีมที่สวยที่สุดในโลก จึงทำให้เป็นที่รู้จัก และได้รับความนิยมจากลูกค้า ซึ่งส่วนผสมสำหรับไอศกรีมดอกไม้อันงดงามเหล่านี้ คืออังโกะ ซึ่งเป็นถั่วแดงกวนที่ทำจากถั่วอะซึกิตัม บดให้เป็นเนื้อข้น ผสมกับน้ำตาล มีเนื้อ รสชาติเทียบได้กับมันเทศปรุงสุก ไอศกรีมช่อดอกไม้มีหลากหลายสี และรสชาติ สามารถคละตามความต้องการของลูกค้า โดยจะขายเป็นช่อ ช่อละ 1,650 เยน (ประมาณ 395 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่สมน้ำสมเนื้อสำหรับงานศิลปะที่ทำมือรับประทานได้ ที่มา: odditycentral

Airbnb เปิดจองจุดกางเต็นท์ ไม่ได้อยู่ท่ามกลางธรรมชาติ แต่อยู่ในห้องรับแขก คืนละ 3,000 บาท

ปกติหากเราจะไปกลางเต็นท์ จุดหมายปลายทางของใครหลายคนคงมองไปที่ภูเขา น้ำตก อุทยานเป็นปกคลุมไปด้วยธรรมชาติ ต้นไม้ กับบรรยากาศน่าอภิรมย์ เหมาะกับการนั่งพักผ่อนหย่อนใจไปกับความเงียบสงบ อย่างไรก็ตาม ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ มีไอเดียสุดแหวกแนวให้เป็นที่พูดถึงเกิดขึ้น เมื่อ Airbnb กำลังเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวผู้โชคดีได้นานในเต็นท์ในห้องนั่งเล่นของพวกเขาในราคาคืนละ 68 ปอนด์ หรือประมาณ 3,000 บาท ซึ่งราคานี้เป็นราคาที่ตั้งเอาไว้ก่อน แต่บางวันก็มีส่วนลดเหลือคืนละ 38 ปอนด์ หรือประมาณ 1,700 บาท สำหรับเต็นท์แห่งนี้ตั้งอยู่ย่านโซโห มาพร้อมกับสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงห้องน้ำ, ห้องครัว, WiFi และพื้นที่ทำงาน แม้ว่าจะดูแหวกแนวไปสักหน่อย แต่ที่พักแห่งนี้ก็ได้คะแนนเฉลี่ย 4.45 ดาว โดยภายในห้องจะมีเต็นท์ 3 หลังกางอยู่ นั่นหมายความว่าหากคุณจองเข้าพักก็จะมีโอกาสอยู่ร่วมกับคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ซึ่งได้มีผู้เข้าพักแล้ว ซึ่งบางรายให้ความคิดเห็นว่า “ที่พักไม่ได้โอ้อ่าในบริเวณใจกลางเมือง เหมาะแก่การพักผ่อนระยะสั้น เจ้าของที่พักสื่อสารได้ดีเยี่ยมมาก” ส่วนอีกคนก็ให้ความเห็นว่า “ห้องพัก/ห้องอาบน้ำ/เต็นท์ ทำเลดีเยี่ยม แต่มีเสียงดัง” และยังมีการบ่นห้องน้ำที่ต้องใช้รวมกับผู้อื่นทำให้ไม่มีความเป็นส่วนตัว และไม่สะอาด ที่มา:independent, nowthisnews

ร้านคาเฟ่ในโตเกียวเปิดไอเดียเป็นสถานที่ของคนคิดลบ เพราะการมองโลกในแง่ร้ายไม่ได้แย่เสมอไป

การมองโลกในแง่ร้ายกับบริบทแวดล้อมในยุคปัจจุบันไม่ได้เป็นเรื่องแย่ เพราะอีกด้านหนึ่งก็เป็นการเตือนตัวเองว่าอย่าประมาท พร้อมรับกับสถานการณ์เลวร้ายที่พร้อมเกิดขึ้นอยู่เสมอ แต่ในแง่ของธุรกิจหากเปิดกิจการที่มีไอเดียอยากจะนำเสนอให้เป็นสถานที่ของคนคิดลบคงดูแปลก และน่าสนใจไม่ใช่น้อยกับการจินตนาการว่าบรรยายกาศจะอึมครึมขนาดไหน Mori Ouchi ร้านกาแฟบรรยากาศสบาย ๆ ในย่านชิโมตะซา กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น สร้างจุดเด่นให้กับร้านด้วยการให้บริการลูกค้าเฉพาะผู้ที่มองโลกในแง่ร้าย และผู้มีทัศนคติเชิงลบโดยทั่วไป ที่ผ่านมาคนคิดลบจะถูกมองว่าไม่ใช่เรื่องดี และมักจะถูกบอกให้คิดบวกมากขึ้นอยู่เสมอ แต่ถ้าคุณลองคิดดูแล้ว มีอะไรที่ผิดปกติกับการเป็นคนคิดลบหรือไม่? เรื่องนี้ Mori Ouchi ผู้ก่อตั้งคาเฟ่แห่งนี้บอกเขาว่าเขาไม่คิดแบบนั้นอย่างแน่นอน โดยสถานการณ์ช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 ตนมักจะรู้สึกว่าคนคิดลบเป็นคนที่อ่อนไหว และเจ็บปวดง่ายกว่าคนอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงสร้างพื้นที่สำหรับคนลักษณะนี้โดยเฉพาะ “ผู้คนมักพูดกันว่าการคิดบวกเป็นสิ่งที่ดี และการคิดลบนั้นไม่ดี แต่ผมไม่คิดว่าการคิดลบจะเป็นสิ่งเลวร้ายขนาดนี้ ผมคิดว่าคนคิดลบจำนวนมากมักจะมีทัศนคติที่สงวนไว้ และคิดว่าคงจะดีถ้ามีสถานที่พักผ่อนสำหรับพวกเขา” Mori Ouchi กล่าว สำหรับคาเฟ่ถูกตกแต่งสไตล์ชนบทด้วยป่าไม้ที่เจ้าของสร้างเอง หากมองดูทั่วไปไม่เหมือนสถานที่ของคนมองโลกในแง่ร้าย แต่มีห้องส่วนตัวที่ลูกค้าสามารถเป็นตัวของตัวเองได้ โดยไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะจ้องมอง สิ่งเดียวที่บอกเป็นนับถึงแง่ลบคือเมนู เช่น ค็อกเทลที่มีชื่อยาวจนน่าประหลาด ที่มา: odditycentral

เคส iPhone ย่อยสลายได้ เมล็ดหย่อนลงพื้นกลายเป็นดอกไม้-พืชสมุนไพร

เคส iPhone รุ่นเก่าที่เราไม่ใช้แล้วมักจะถูกทิ้ง หรือไม่ถูกยัดอยู่ในลิ้นชักแบบหมดความหมาย มี่ประโยชน์อีกต่อไป แต่จะดีกว่านี้หรือไม่ หากเคสไอโฟนเหล่านี้สามารถนำต่อยอดส่งคืนความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม iGreen Cover สร้างสรรค์โดย iGreen Gadgets แบรนด์อุปกรณ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ทำเคส iPhone แบบแรก และแบบเดียวในโลกที่ย่อยสลายได้แบบสมบูรณ์แบบ มีเมล็ดพืชสามารถนำไปปลูกได้เมื่อไม่ใช้งานแล้ว ทั้งดอกไม้-พืชสมุนไพร แบบน่าทึ่งตามเป้าหมายที่อยากสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เคส iPhone มีส่วนประกอบที่มาจากวัตถุดิบธรรมชาติ 100% โดยมีแป้งข้าวโพดเป็นวัตถุดิบหลัก และมีสารประกอบอินทรีย์ที่ไม่ใช่เพียงแต่ให้ความแข็งแกร่งแก่เคสเท่านั้น แต่ยังช่วยบำรุงเมล็ดพืชที่ซ่อนอยู่ภายในโครงสร้างของเคสอีกด้วย แน่นอนว่าจะช่วยให้เคสสามารถย่อยสลายได้อย่างแท้จริง ซึ่งรากของพืชที่กำลังเติบโตจะกินแป้งข้าวโพด ช่วยให้มันละลาย และกลับคืนสู่ดินเร็วขึ้น ผู้ใช้สามารถนำเคสไปปลูกลงดินได้ เมื่อเคสสลายตัวจะปล่อยเมล็ดออกมา ทำให้คุณปลูกสมุนไพร หรือดอกไม้ได้ตรงฝาที่ถูกทิ้ง แบ่งเป็น 3 เวอร์ชัน ได้แก่ 1.สีเขียวสำหรับโหระพา 2.สีเหลืองสำหรับเดซี่ และ 3.สีฟ้าอ่อน หากต้องการปลูก iGreen Cover เพียงฝัง โดยทำมุม 30 องศากับพื้น ซึ่งเมล็ดที่อยู่ภายในจะได้รับการปกป้องด้วยฟิล์มที่ละลายน้ำ และจะละลายเมื่อสัมผัสกับพื้น ทำให้เมล็ดมีอิสระจะหยั่งรากได้ ที่มา: designtaxi

Nissin เปิดตัวแพคเกจจิ้งใหม่ “มาม่าในกล่องกระดาษ” เข้าไมโครเวฟได้ อุ่นพร้อมกินใน 2 นาที

ปัจจุบันหลายแบรนด์สินค้าเริ่มหันมาให้ความสำคัญกับความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ด้วยการนำนวัตกรรมมาผสมผสานกับวัตถุดิบจนกลายเป็นแพคเกจจิ้งใหม่ขึ้นมา Nissin หนึ่งในแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยอดนิยมของโลกกำลังสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประวัติศาสตร์ของธุรกิจ เมื่อเตรียมจะเปลี่ยนไปใช้แพคเกจจิ้งที่ทำมาจากกล่องกระดาษ โดยจะเริ่มในปี 2024 ที่สหรัฐฯ ก่อน บริษัทออกมาเปิดเผยว่าตั้งแต่ต้นปีหน้าเป็นต้นไป บริษัทจะเลิกใช้โฟมสำหรับทำถ้วย พร้อมเปลี่ยนมาเป็นถ้วยกระดาษ ซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์สามารถเข้าไปไมโครเวฟ ใช้เวลา 2 นาที ก็รับประทานได้ และไม่ต้องใช้น้ำเดือดแต่อย่างใด ด้าน Michael Price ประธานและซีอีโอของ Nissin Foods สหรัฐฯ กล่าวว่าบะหมี่ถ้วยของเรายังคงรสชาติ และรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์เหมือนเดิม แต่เรายังคงค้นหาวิธีพัฒนาแบรนด์อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับความต้องการในปัจจุบันของผู้บริโภคทั้งในเรื่องสิ่งแวดล้อม และโลก “แพคเกจจิ้งที่ได้รับการปรับปรุง และถ้วยกระดาษใหม่ ถือเป็นก้าวสำคัญของ Nissin ที่มีความมุ่งมั่นในเรื่องเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม” Michael Price กล่าว สำหรับ Nissin เป็นแบรนด์บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยอดนิยมที่ใช้บรรจุภัณฑ์โฟมตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรกในปี 1973 อย่างไรก็ตาม ผู้ที่ชื่นชอบในแบรนด์นี้จะได้เห็นรสชาติโปรดทั้งหมดอยู่ในบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบใหม่ซึ่งประกอบด้วยเส้นใยรีไซเคิล 40% ไม่มีพลาสติก ส่วนฝาบนทำจากกระดาษรีไซเคิล 100% พร้อมที่จะวางจำหน่ายช่วงต้นปี 2024 จะเห็นได้ว่าเทรนด์เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมกำลังได้รับความนิยมในหมู่แบรนด์สินค้าที่ตระหนักถึงสิ่งแวดล้อมมากขึ้นจากที่ผ่านมาการทำธุรกิจจะไม่ค่อยใส่ใจเรื่องนี้สักเท่าไหร่ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปแล้ว โดยการใช้แพคเกจจิ้งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมย่อมส่งผลดีกับตัวแบรนด์ที่แสดงออกถึงความใส่ใจ เช่นเดียวกับผู้บริโภคก็ใช้เรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจว่าจะซื้อสินค้าหรือไม่ เรียกได้ว่าแบรนด์ไหนไม่ปรับ อนาคตอาจสายเกินไป […]

Krispy Kreme ใน UK แจก ‘Ghosted Boxes’ กล่องเปล่าที่ใครได้รับมาแลกโดนัทฟรี 4 ชิ้น

ไม่ใช่แค่ผีที่หลอกเท่านั้น คนก็ยังหลอกได้เหมือนกัน บางทีอาจจะน่ากลัวกว่าผีอีก มีผลการศึกษาพบว่า 2 ใน 5 ของชาวอังกฤษถูกผี ซึ่งเป็น “เพื่อน” หรือ “สมาชิก” ในครอบครัว หลอก จึงเป็นไอเดียแคมเปญของ Krispy Kreme ที่ต้องการใช้โดนัทเป็นสื่อกลางในการสานความสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจระหว่างกันให้กลับมาดีอีกครั้ง ปรากฏการณ์นี้ส่งผลต่อมิตรภาพของชาวอังกฤษที่หดตัวในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา โดยค่าเฉลี่ยของชาวอังกฤษบอกว่าพวกเขามีเพื่อสนิท 5.1 คน แต่ทุกวันนี้เหลือ 3.7 คน ลดลง 27% เลยทีเดียว ไม่เพียงเท่านั้น เกือบ 1 ใน 10 บอกว่าตอนนี้พวกเขาไม่มีเพื่อนสนิทเลย ซึ่งเพิ่มขึ้น 50% จากทศวรรษก่อน ด้วยเหตุนี้ Krispy Kreme จึงใช้ช่วงเวลาที่น่ากลัวที่สุดของปีอย่างเทศกาลฮาโลวีน เชิญชวนชาวอังกฤษ กลับมาสานสัมพันธ์กับเพื่อนเก่าอีกครั้งด้วยการ “หลอก” เลี้ยงโดนัทฟรีหนึ่งกล่อง สร้างมิตรภาพให้กลับมาอีกครั้ง สำหรับวิธีการก็ง่าย ๆ ไม่มีอะไรซับซ้อน Krispy Kreme จะให้กล่อง ‘Ghosted Boxes’ […]

บริษัทญี่ปุ่นออกแบบขวดนมลาย “มังงะ” อยากให้เด็กดื่มนม หากหมดขวดได้อ่านการ์ตูน

ผู้ผลิตนมในญี่ปุ่นคิดค้นวิธีอันชาญฉลาดเพื่อกระตุ้นให้เด็ก ๆ ดื่มนมจนหมดขวดในมื้อกลางวัน ผ่านการตกแต่งขวดด้วยการ์ตูนมังงะ Seki Milk ผู้ผลิตและแปรรูปนมในจังหวัดกิฟุของญี่ปุ่น ดำเนินธุรกิจจำหน่ายนมให้กับโรงเรียนในท้องถิ่น แต่พบว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาการบริโภคนมลดลงอย่างมาก โดยจากการวิจัยของบริษัท ชี้ให้เห็นว่านักเรียนส่วนใหญ่ (ประมาณ 65%) ไม่ได้กินนมหมดขวดในมื้อกลางวัน ซึ่งก่อให้เกิดการสิ้นเปลืองอาหารโดยไม่จำเป็น เช่นเดียวกับเด็ก ๆ ที่ทำให้ขาดแคลเซียม และสารอาหารอันทรงคุณค่าอื่น ๆ อีกด้วย อย่างไรก็ตาม คนที่เป็นพ่อแม่รู้ดีว่าการจะให้ลูกกินสิ่งที่ไม่ใช่เรื่องง่าย ดังนั้น Seki Milk จึงมีไอเดียคิดค้นวิธีแปลกใหม่ และสนุกสนานในการกระตุ้นเด็ก ๆ เพื่อให้กินนมหมดขวด นั่นคือ “การ์ตูน” สำหรับการ์ตูนที่นำมาคือ “การ์ตูนมังงะ” ซึ่งได้รับความนิยมในหมู่คนทุกวัย และทุกสาขาอาชีพทั่วโลก ใช้ดึงดูดใจเด็ก ๆ นำมาติดบนขวดนม ตกแต่งให้มีความสวยงาม โดยตอนแรกเมื่อนมเต็มขวดจะยังไม่เห็นเนื้อเรื่องของการ์ตูน แต่เมื่อเด็ก ๆ ดื่มนมหมดขวดเนื้องเรื่องจะปรากฏขึ้น และสุดท้ายเด็ก ๆก็จะได้อ่านการ์ตูนเรื่องนี้ได้ตั้งแต่เริ่มเรื่องจนจบเรื่อง (มีทั้งหมด 10 ตอน) เป็นไอเดียสร้างแรงกระตุ้นอยากให้เด็ก ๆ ดื่มนม ทั้งนี้ จากผลลัพธ์ของการทดลองพบว่า เด็ก […]

ดีไซเนอร์ชาวอังกฤษสร้างไอศกรีมวานิลลาจากพลาสติกรีไซเคิล สะท้อนปัญหาขยะล้นโลก

จากความรู้สึกไม่เห็นด้วย หงุดหงิดที่ยังเห็นพลาสติกยังถูกนำมาใช้มารีไซเคิลใหม่ อยู่ในการผลิตสินค้า จนทำให้นักออกแบบชาวอังกฤษเกิดไอเดียทำไอศกรีมวานิลาจากพลาสติกเป็นคนแรก พร้อมยืนยันว่ามีรสชาติเหมือนกับไอศกรีมทั่วไป ไอเดียเป็นส่วนหนึ่งของการทำโปรเจ็กต์ปีสุดท้ายของ Eleonora Ortolani ที่กำลังศึกษาปริญญาระดับปริญญาโทที่ Central Saint Martins Design School โดยเจ้าตัวมุ่งมั่นอยากทำสิ่งที่ไม่เคยทำก่อน ซึ่งไอศกรีมวานิลาทำจากพลาสติกอยู่ในโครงการชื่อว่า Guilty Flavours ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากความหงุดหงิดที่ยังเห็นการรีไซเคิลของพลาสติกทั่วไปที่ยังคงมีอยู่ และถูกกลับนำมาใช้ใหม่อีกครั้ง ทำให้เธอมองว่ายิ่งทำให้ปัญหาแย่ลงจากเดิม อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ Ortolani ได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับหนอนสายพันธุ์หนึ่งที่สามารถย่อยถุงพลาสติก ดังนั้น เธอจึงเกิดความสงสัยว่ามนุษย์สามารถกินพลาสติกได้หรือไม่ หลังจากนั้น Ortolani ได้เจอกับ Joanna Sadler นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Edinburgh ที่ช่วยเธอสังเคราะห์วานิลินจากพลาสติกที่มีโมเลกุลให้กลิ่นคล้ายกับวานิลลา โดยไอศกรีมวานิลลาลูกแรกที่ทำจากพลาสติกถูกเก็บไว้ที่ Central Saint Martins Ortolani หวังว่าโปรเจ็กต์จะประสบความสำเร็จ รวมถึงเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับการรีไซเคิล และวิธีมองผลิตภัณฑ์สังเคราะห์ และผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ “หากบอกกับคุณว่าไอศกรีมนี้ทำมาจากไอศกรีมพลาสติก คุณจะต้องรังเกียจมันแน่นอน แต่เมื่อคุณเข้าใจว่าโดยพื้นฐานแล้วทุกสิ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบนิเวศเดียวกัน เราอาจจะมองพลาสติกเปลี่ยนไป ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดูสมเหตุสมผลดี” Ortolani กล่าว ทั้งนี้ ไอศกรีมวานิลลาทำจากพลาสติกนี้ไม่ได้ทำมาเพื่อวางขายในตอนนี้ แต่จะถูกในนิทรรศการ CSM […]

ฟินกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว! โรงภาพยนตร์จีนจัดชาบูเสิร์ฟถึงที่ ได้ทั้งดูหนัง แถมยังอิ่มท้อง

ปกติเมื่อเราไปดูหนังในโรงภาพยนตร์ อาหารที่สามารถเอาเข้าไปนั่งรับประทานได้ยอดนิยมคงหนีไม่พ้นป๊อปคอร์น หรือน้ำอัดลมใส่แก้ว แต่หากเปลี่ยนเป็นอาหารจานหลักคงดูเป็นไปได้ยาก แต่ล่าสุดโรงภาพยนตร์ในประเทศจีนสร้างความแตกต่างแบบไม่เหมือนใคร เมื่อมีบริการเสิร์ฟชาบูให้ลูกค้าได้นั่งรับประทานขณะรับชมภาพยนตร์ โดยผู้ใช้ Reddit ที่มีบัญชีชื่อว่า winleskey ได้โพสต์ข้อความว่า “คุณสามารถกินชาบูในโรงภาพยนตร์ประเทศจีนได้แล้ว” พร้อมกับถ่ายรูปเป็นชุดชาบู ประกอบไปด้วย หอยแมลงภู่, กุ้ง, ปูอัด, เห็ด, ผัก พร้อมกับหม้อชาบูที่วางอยู่ตรงหน้า หลังจากถูกเผยแพร่ออกไปก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นมากมาย เช่น เหมือนร้านอาหารที่มีภาพยนตร์เป็นฉากหลัง, ได้ยินเสียงคนกินป๊อปคอร์นไม่พอ ต้องมานั่งฟังเสียงชาม กระเบื้องดังเอี๊ยด ๆ อีก, หวังว่าพวกเขาจะใส่คำบรรยายด้วย เพราะมันคงเป็นเรื่องยากที่จะยินเสียงที่มาจากทุกทิศทุกทาง เมื่อมองในแง่ของทำธุรกิจแล้วถือว่าเป็นการสร้างมิติใหม่ในการรับชมภาพยนตร์แบบไม่ค่อยมีใครทำ หรือเกิดขึ้นมาก่อน แน่นอนว่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกให้กับลูกค้าที่ต้องการได้รับความบันเทิงควบคู่ไปกับการนั่งรับประทานอาหาร เป็นการสร้างความประทับใจให้กับผู้ใช้บริการอีกรูปแบบหนึ่ง ที่มา: reddit

ไอเดียเจ๋ง! ‘Sushi Pen’ ปากกาซูชิที่การกดทุกครั้งจะเปลี่ยนจานซูชิไปเรื่อย

“ซูชิ” ถือว่าเป็นอาหารยอดนิยมของชาวญี่ปุ่นที่มาวันนี้เกิดไอเดียน่ารักขึ้น เมื่อหน้าซูชิต่าง ๆ ถูกประยุกต์ให้มาอยู่บนอุปกรณ์เครื่องเขียน สร้างความดึงดูดใจให้กับผู้พบเห็นที่อยากจะควักเงินซื้อมาเป็นเจ้าของเก็บเอาไว้ ที่ผ่านมาเราได้เห็นเครื่องเขียนจากประเทศญี่ปุ่นถูกดีไซน์ออกมามากมาย แต่ผลิตภัณฑ์ล่าสุดที่ออกมาใหม่อย่าง ‘Sushi Pen’ หรือปากกาซูชิก็สร้างความน่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อย โดยปากกาดังกล่าวเป็นปากกาหมึกดำ ซึ่งการกดในแต่ละครั้งจานที่อยู่บนปากกาจะเปลี่ยนหน้าซูชิไปเรื่อย ผ่าน 2 รูปแบบ คือ จานที่มีซูชิ กับจานเปล่าที่มีเพียงเครื่องปรุงหลงเหลือ ราวกับว่าคุณได้กินซูชิไปแล้วก่อนหน้านี้ เมื่อมองดูจานแต่ละจานอย่างละเอียด จะเห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดในการออกแบบเป็นพิเศษ เพราะมีลักษณะใกล้เคียงกับซูชิจริงเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น หน้าแซลมอน, ทูน่า, กุ้ง และไข่แซลแมน ส่วนจานเปล่าไม่มีอะไรนอกจากซอสถั่วเหลือง และไข่ปลา 2-3 ชิ้นที่เหลืออยู่ สำหรับ ‘Sushi Pen’ มีกำหนดวางจำหน่ายในร้านค้าทั่วไป รวมถึงร้านขายของที่ระลึกในสนามบิน, พื้นที่ให้บริการทางหลวง, ร้านเครื่องเขียน และช่องทางออนไลน์ ในราคา 1,078 เยน (ประมาณ 260 บาท) แน่นอนว่าผู้ที่ชื่นชอบการรับประทานซูชิต้องหาซื้อไว้ติดตัว เหมาะแก่การหนีบไว้ที่กระเป๋าเสื้อ เป็นจุดเด่นที่ก่อให้เกิดการทักทาย เริ่มต้นบทสนทนาระหว่างกัน ที่มา: soranews24

ร้านอาหารแห่งความผิดพลาด สั่งอย่างได้อีกอย่าง สะท้อน “สมองเสื่อม” ที่ไม่อะไรอยู่เหมือนเดิมตลอดไป

ญี่ปุ่นถูกขนานนามว่าเป็นประเทศของสังคมสูงวัย โดยถูกคาดการณ์ว่าภาวะสมองเสื่อมจะส่งผลกระทบต่อประชากร 1 ใน 5 ภายในปี 2025 จนเป็นที่มาของการทดลองทางสังคมเชิงนวัตกรรมที่เป็นเรื่องดึงดูดความสนใจของผู้คน การทดลองในครั้งนี้ทำผ่านร้านอาหารที่กล้าประกาศว่า “Restaurant of Mistaken Orders” หรือ “ร้านอาหารแห่งการสั่งออเดอร์ผิดพลาด” ที่พนักงานเสิร์ฟภายในร้านนั้นจะมีความบกพร่องทางสติปัญญาระดับหนึ่ง จึงทำให้การสั่งอาหารของลูกค้าแต่ละครั้งอาจไม่ได้อาหารตรงตามเมนูที่สั่ง แนวคิดนี้เกิดขึ้นโดย Shiro Oguni ซึ่งตระเวนเปิดร้านอาหารแบบทดลองในลักษณะของ pop-up ไปตามชุมชนต่าง ๆ เพื่อสร้างความตระหนักรู้ในการอยู่ร่วมกัน เนื่องจากคนภาพลักษณ์ในแง่ลบเกี่ยวกับคนสมองเสื่อมที่มักหลงลืมอย่างรุนแรง และเร่ร่อนไปอย่างไร้จุดหมาย แต่แท้จริงแล้วพวกเขาสามารถทำอาหาร ซักผ้า ซื้อของ ได้เหมือนกับคนปกติทั่ว ๆ ไป ซึ่งอาจจะมีการออกนอกเส้นทางไปครั้งคราว แน่นอนว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการภายในร้านอาจต้องเตรียมใจ เพราะออเดอร์ที่สั่งอาจได้ไม่ตรงกับที่ตั้งใจ เช่น สั่งแฮมเบอร์เกอร์ อาจได้ข้าวปั้นมาแทน อย่างไรก็ตาม มีการเปิดเผยตัวเลขความผิดพลาดในการรับออเดอร์ พบว่า ความผิดพลาดคิดเป็นร้อยละ 37 โดยลูกค้าก็ไม่ได้โกรธอะไรกับการได้เมนูอาหารที่ไม่ได้สั่ง แม้ว่าร้านอาหาร “Restaurant of Mistaken Orders” จะประสบความสำเร็จระดับหนึ่ง แต่ก็ไม่พ้นที่จะถูกวิพากษ์วิจารณ์ ไม่ว่าจะเป็น […]

ครบรสชาติ! จีนออกเมนู ‘ช็อกโกแลตผสมเหล้า’ เจาะกลุ่มคนรุ่นใหม่

การทำธุรกิจที่ดีคือการสร้างความแตกต่างจากสินค้าเดิมที่มีอยู่ตามทั่วไปตามท้องตลาด หากศึกษา ทำการบ้านมาดี ย่อมได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้บริโภค Luckin coffee เชนร้านกาแฟสัญชาติจีน ที่มีเป้าหมายการทำธุรกิจที่ชัดเจนว่าจะต้องเอาชนะมีสาขามากกว่าสตาร์บัคส์ในจีนให้ได้ โดยปัจจุบันดูเหมือนว่าพวกเขาจะทำได้ตามที่ตั้งใจเอาไว้แล้ว ดูได้จากจำนวนสาขาล่าสุดในเดือนมิถุนายน ที่ Luckin coffee มี 10,829 สาขา ส่วนสตาร์บัคส์มี 6,480 สาขา ในแง่ของกลยุทธ์ของการตลาดก็แข่งขันกันไป แต่ในมุมของเมนู Luckin coffee ไม่ได้หยุดอยู่กับที่เพราะแบรนด์ได้รังสรรค์เมนูใหม่ ๆ ออกมาอยู่เสมอ เพื่อเป็นทางเลือก สร้างความแตกต่างให้กับผู้บริโภค โดยก่อนหน้านี้ Luckin coffee จับมือกับ Kweichow Moutai บริษัทสุรา เปิดตัว “ลาเต้ผสมเหล้าขาว” ผลปรากฏว่าได้รับกระแสตอบรับจากลูกค้าเป็นอย่างดี เพียงวันเดียวสร้างรายได้กว่า 100 ล้านหยวน ขายได้สูงสุด 5.42 ล้านแก้ว คิดเป็นเงินไทยประมาณ 489 ล้านบาท ดูเหมือนว่า Kweichow Moutai จะไม่หยุดอยู่เพียงแค่นี้ […]

ใจบุญอีกแล้ว! MrBeast ส่งคนเข้าช่วยผู้ดูแลสุนัขจรจัด ที่ทำทุกอย่างคนเดียวในไทย

หากเอ่ยถึงยูทูปเบอร์ระดับโลกที่ทำประโยชน์คืนสู่สังคม ชื่อ MrBeast คงเป็นชื่อที่หลายคนต้องนึกถึง โดยที่ผ่านมาเราได้เห็นคลิปที่เป็นไอเดีย มีเป้าหมายที่จะทำเพื่อคนอื่นเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็น คลิปการทุ่มเงินช่วยคนหูหนวกให้กลับมาได้ยินอีกครั้ง หรือจะเป็นคลิปพาคนตาบอดจำนวน 1,000 คน ไปรักษาให้กลับมามองเห็นอีกครั้ง เหล่านี้ได้รับความชื่นชมกับผู้ที่พบเห็นเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม คลิปล่าสุดที่ MrBeast เผยแพร่บนช่องยูทูป Beast Philanthropy ในชื่อเรื่อง We Rescued a Dog Shelter ได้มีความเกี่ยวข้องกับประเทศไทย เป็นที่ทราบกันดีว่าปัญหาเรื่องสุนัขจรจัด ไม่มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่งเป็นอีกหนึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นมาอย่างยาวนาน และเราก็จะเห็นผู้ใจบุญนำสุนัขเหล่านั้นมาเลี้ยงดู พร้อมแบกภาระค่าใช้จ่าย ทั้ง ค่าอาหาร, ค่าน้ำ-ค่าไฟ, เครื่องใช้ ในแต่ละเดือน โดยคลิปวิดีโอที่ถูกเผยแพร่นั้น ที่ MrBeast ได้ส่งทีมงานไปเจอกับคุณไมเคิลที่ได้อุทิศตนเองดูแลสุนัขจรจัดจำนวนหลายชีวิต แน่นอนว่าด้วยระยะเวลาที่ผ่านมาหลายปีทำให้สภาพสิ่งของที่ใช้งานเสื่อมโทรมไปตามกาลเวลา และเสียหายเป็นอย่างมาก ซึ่ง MrBeast ได้มอบอาหาร, ยารักษาโรค, อุปกรณ์ดูแลสุนัขที่มีความทันสมัย รวมถึงรถยนต์คันใหม่อีกด้วย ความตั้งใจของ MrBeast ไม่ได้เพียงช่วยเหลือสุนัขจรจัดเพียงอย่างเดียว แต่ต้องการทำให้คุณภาพชีวิตของคุณไมเคิลดีขึ้นกว่าเดิม ที่มา: YouTube […]

จะกินตอนร้อนหรือเย็น? เมนูใหม่สุดแปลก “น้ำแข็งย่าง” สตรีทฟู้ดที่ได้รับความนิยมในจีน

กลายเป็นวิดีโอที่ถูกพูดถึงอยู่ในประเทศจีน เมื่อมีคนถ่ายคลิปวิดีโอเผยแพร่ลงบนโซเชียลมีเดียเป็นร้านสตรีทฟู้ดกำลังย่างน้ำแข็ง พร้อมปรุงรสด้วยซอส และเครื่องเทศ นำมาสู่คำถามตามมาอย่างมากมายว่าเมนูนี้ควรกินตอนร้อนหรือตอนเย็นดี ตามรายงานข่าว พบว่าอาหารริมถนนสุดแปลกโด่งดังจากการถ่ายคลิปสั้น ๆ ที่แผงขายอาหารข้างทางในเมืองหนานชาง มณฑลเจียงซี ซึ่งน้ำแข็งก้อนขนาดใหญ่กำลังถูกปรุงรสบนตะแกรงแบบเปิดด้วยซอส และเครื่องเทศ ก่อนที่จะเสิร์ฟใส่จาน อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเห็นว่ามีคนกินอาหารนี้แบบไหน แต่ดูเหมือนว่าเมนูจะได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงฤดูร้อน หลังจากคลิปวิดีโอนี้กลายเป็นไวรัลมีความพยายามที่จะติดตามเจ้าของแผงขายอาหารรายนี้ และเรียนรู้เมนูอาหารที่จะกลายเป็นที่นิยม โดยผู้ขายรายนี้ เผยว่าไอเดียการทำน้ำแข็งย่างเกิดขึ้นในวันที่อากาศร้อน เพื่อหวังให้ผู้คนได้คลายร้อน แม้ฟังดูเป็นเรื่องตลก แต่ผู้คนกลับชื่นชอบ ดังนั้น จึงทำต่อไป มีคนตั้งข้อสงสัยว่าอาหารประเภทนี้เป็นของเย็นหรือของร้อน แล้วต้องกินตอนไหน ตลอดจนเกิดคำถามที่ว่า ทำไมน้ำแข็งที่มีความเย็นพอนำไปย่างกลับไม่ละลายทั้งหมด ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่าอาจเป็นเพราะกระบวนการย่างที่ไม่โดนไฟโดยตรง ส่วนเรื่องการกินนั้นก็ไม่ได้ระบุชัดเจนว่าจะให้กินน้ำแข็งกับซอสพร้อมกันไปเลย หรือดูดเอารสชาติเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ด้วยความแปลกของเมนูดังกล่าวทำให้มีผู้คนต่อแถวเพื่อเข้าซื้อกันเป็นจำนวนมาก ที่มา: odditycentral เรื่องที่เกี่ยวข้อง “ผัดก้อนหิน” เมนูสตรีทฟู้ดกลายเป็นไวรัลในจีน ไม่ได้ให้กิน แต่ไว้ให้ดูดเพื่อเพิ่มรสชาติ

ชุมชนอยุธยาทำคราฟต์เบียร์จากผักตบชวา ทำสิ่งไร้ค่าให้มีมูลค่า

ที่ผ่านมาเราเคยเห็นไอเดียที่นำวัตถุดิบเหลือใช้ หรือสร้างสรรค์วัตถุดิบที่มีความแปลกใหม่มาทำเป็นคราฟต์เบียร์ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจอยู่ไม่ใช่น้อยกับแนวทางรูปแบบนี้ ล่าสุด ประเทศไทยก็มีแบบนี้เหมือนกัน โดยที่ชุมชนตำบลตำบลหนองน้ำใส จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีการทำคราฟต์เบียร์ ภายใต้แบรนด์ที่มีชื่อว่า “NAMSAI” ด้วยการนำเอาต้นอ่อนผักตบชวามาเป็นวัตถุดิบหลักในการผลิตน้ำเวิร์ท จนเกิดกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ หมักบ่มจนไปสู่รสชาติที่หอม มีความชัดเจนในรสชาติ เน้นความสดชื่น นอกจากนี้ในเรื่องของสิ่งแวดล้อมยังเป็นการแก้ปัญหาจำนวนผักตบชวาล้นลำคลอง สร้างมูลค่าจากสิ่งไร้ค่า ลดปัญหาในชุมชน สร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ก่อนหน้านี้ ชุมชนแห่งนี้ได้มีการผลิตคราฟท์เบียร์ทำจากวัตถุดิบตอซังข้าวที่มาจากทุ่งนาในอำเภอภาชี ซึ่งเป็นการลดปัญหาการเผานา และฝุ่น PM 2.5 ที่มา: กศน.ตำบลหนองน้ำใส อำเภอภาชี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เรื่องที่เกี่ยวข้อง ท้าให้ลอง! สิงคโปร์เปลี่ยน “น้ำเสียจากส้วม” เป็น “คราฟต์เบียร์” สุดแปลก ขายดีแบบเทน้ำเทท่า

หญิงวัย 23 ปี แชร์ทริคเก็บเงิน 1.3 ล้านบาท ด้วยวิธีง่ายๆ ที่ใครก็ทำตามได้

เมื่อมีรายได้เข้า หากคนที่มองถึงอนาคตก็ต้องมีการออมเงินเป็นเรื่องธรรมดา โดยการออมเงินมีหลากหลายวัตถุประสงค์ เช่น ออมเงินเพื่อเกษียณ, ออมเงินเพื่อเปิดธุรกิจ, ออมเงินไว้ซื้อสิ่งของที่ต้องการ เหล่านี้จะคอยสร้างความมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลาใช้เงินจริง ๆ จะได้ไม่เป็นภาระของผู้อื่น เรื่องราวของ Vanessa ที่เป็นกรณีศึกษาของการออมเงินได้เป็นอย่างดีกับผู้ที่อยากเริ่มต้นทำในเรื่องนี้ เมื่อเธอมีเงินเก็บในบัญชีธนาคารมากถึง 30,000 ปอนด์ (ประมาณ 1.3 ล้านบาท) ในวัยแค่ 23 ปีเท่านั้น Vanessa บอกว่าเธอสามารถประหยัดเงินได้มากกว่าเงินเดือนต่อปีของเธอ และคิดว่าทักษะทางการเงินของเธอมีต้นกำเนิดมาจากภูมิหลังที่พ่อแม่อพยพจากโปรตุเกสไปอังกฤษเมื่อ 30 ปีที่แล้ว ซึ่งครอบครัวของเธอเป็นรุ่นแรกที่เกิดในสหราชอาณาจักร น้องสาว และเธอเกิดที่นี่ “ฉันรู้สึกถึงราวกับว่าสิ่งนี้ได้สอนให้เห็นถึงคุณค่าของเงิน และการทำงานหนัก รวมถึงกำหนดกรอบแนวคิดทางการเงิน ตลอดจนค่านิยมอันแข็งแกร่งให้กับตัวเอง” Vanessa กล่าว Vanessa เผยเคล็ดลับการเก็บเงินที่ใครก็สามารถนำไปทำได้แบบง่าย ๆ ว่า ทั้งในเรื่องของการเปิดบัญชีออมทรัพย์ที่เจ้าตัวบอกว่าหากคิดจะฝากเงินแล้วต้องไม่คิดถึงเงินนั้น และพอได้เงินมาควรหักออมเข้าบัญชีทันที เช่นเดียวกับในเรื่องการชอปปิ้ง ที่การเลือกซื้อเสื้อผ้าในช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูกาลจะช่วยประหยัดเงิน และต้องคิดให้รอบคอบตั้งคำถามเวลาใช้เงินว่า นี่คือความต้องการหรือความจำเป็น? ซึ่งจะช่วยให้การตัดสินใจได้ง่ายขึ้น Vanessa ทิ้งท้ายว่าคุณต้องทำรายการสินค้าที่ต้องซื้อ หากไม่ทำจะกลายเป็นการใช้จ่ายแบบไม่มีระบบ นอกจากนี้ การศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับราคาสินค้าของแต่ละร้านก็เป็นประโยชน์เช่นกัน อีกทั้ง Vanessa ยังหาความรู้ให้กับตัวเองอยู่เสมอด้วยการเข้าร่วมกลุ่ม […]

จะเป็นอย่างไร? เมื่อญี่ปุ่นอยากให้คุณดื่มสุราที่สกัดทำจาก “ไม้”

ญี่ปุ่นกำลังสร้างความฮือฮาอีกครั้ง เมื่อเตรียมสกัดสุราที่ทำมาจาก “ไม้สน” เป็นอีกทางเลือกในการสร้างประโยชน์ หลังความต้องการนำไม้ไปใช้ในงานก่อสร้างน้อยลง สำนักงานป่าไม้ของญี่ปุ่นกำลังวางแผนที่จะจำหน่ายสุราที่ทำจากไม้ เพื่อจุดประกายให้กับอุตสาหกรรมป่าไม้ที่เผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อความต้องการใช้งานลดลง สถาบันวิจัยป่าไม้และผลิตผลป่าไม้ ตั้งอยู่ในสึคุบะ ซึ่งเป็นศูนย์กลางของนวัตกรรมในการพัฒนาสุรา โดยใช้ไม้ต้นสนซีดาร์ และต้นโอ๊กมิซูนาระ ตามรายงานจากห้องแลป พบว่าต้นไม้แต่ละต้นนำไปสู่จิตวิญญาณอันโดดเด่น ทั้งต้นสนซีดาร์ที่ให้กลิ่นหอมคล้ายกับถังสาเก ขณะที่ไม้โอ๊คมิซูนาระก็ถ่ายทอดแก่นแท้ของถังวิสกี้ สำหรับกระบวนการผลิต เริ่มต้นด้วยการสกัดเซลลูโลสออกจากเนื้อไม้ ซึ่งจะให้น้ำตาลกลูโคส โดยเซลลูโลสนี้จะถูกทำให้เป็นผงละเอียดในเวลาต่อมา ผสมกับเอนไซน์อาหาร และยีสต์ของผู้ผลิตเบียร์ทำให้เกิดเป็นสารละลาย หลังจากผ่านกระบวนการหมักนานถึงหนึ่งสัปดาห์ ส่วนผสมจะเปลี่ยนเป็นของเหลวที่มีปริมาณแอลกอฮอลล์ตั้งแต่ 1%-1.5% และจึงนำไปกลั่นเพื่อทำเป็นสุราในขั้นตอนสุดท้าย ทั้งนี้ ต้นสนซีดาร์ 1 ท่อน จะนำมาผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ประมาณ 100 ขวด ที่มา: vino-joy

ไอเดียเจ๋ง! รถไฟชินคันเซ็นของญี่ปุ่นถูกรีไซเคิลเป็นไม้เบสบอล

รถไฟชินคันเซ็นของญี่ปุ่นถูกนำมารีไซเคิลกลายเป็นไม้เบสบอลสำหรับเด็ก Mizuno Corp. และ Central Japan Railway Co. ร่วมกันพัฒนาไม้เบสบอลอะลูมิเนียมสำหรับเด็กจากวัสดุรีไซเคิลของรถไฟหัวกระสุนชินคันเซ็น Tokaido มีทั้งสีขาว สีเงิน และสีเหลือง ซึ่งถูกออกแบบให้คล้ายกับรถไฟรุ่น N700 และรถไฟทดสอบ Doctor Yellow เมื่อเปิดการสั่งจองล่วงหน้าพบว่าสินค้าถูกสั่งจองหมดภายในเวลาเพียง 1 สัปดาห์ จึงทำให้ Mizuno พิจารณาว่าจะเพิ่มการผลิตอีกหรือไม่ สำหรับรถไฟซีรีส์ N700 ถูกหลอมเพื่อสกัดเอาอลูมิเนียมอัลลอยด์ที่มีความบริสุทธิ์สูงออกมา ซึ่งทำให้สามารถทำไม้ตีที่มีความทนทาน เช่นเดียวกับไม้ตีอะลูมิเนียมทั่วไป การรีไซเคิลวัสดุช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 97% เมื่อเทียบกับกระบวนการที่ใช้ในการผลิตอะลูมิเนียมใหม่ โดยไม้เบสบอลสำหรับเด็กจะมีให้เลือก 3 ขนาด ได้แก่ 74 เซนติเมตร (440 กรัม), 76 เซนติเมตร (450 กรัม) และ 78 เซนติเมตร (460 กรัม) ขายในราคา 14,300 เยน (ประมาณ 3,474 บาท) […]

ญี่ปุ่นไอเดียเจ๋ง ปลูกแตงโมเป็นรูปสี่เหลี่ยม ขนส่งสะดวก แถมสร้างเพิ่มมูลค่า

คุณอาจจะไม่เชื่อสายตาตัวเองว่าแตงโมรูปกลมที่เราเห็นกันชินตาสามารถปลูกให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมได้ และเรื่องนี้เกิดขึ้นจริงแล้วที่ประเทศญี่ปุ่น แตงโมสี่เหลี่ยมลูกแรกประสบความสำเร็จในการปลูก และพัฒนาเมื่อปี 1975 โดยเรื่องนี้ไม่ใช่เกิดขึ้นแบบบังเอิญ แต่ถูกสร้างขึ้นในเมือง Zentsuji ที่ตั้งอยู่ในจังหวัด Kagawa ซึ่งได้รับการปลูกอย่างระมัดระวัง ผ่านการค้นคว้า, ทดลอง มาเป็นอย่างดี เมือง Zentsuji ถือว่าเป็นสถานที่เหมาะสำหรับการปลูกแตงโมที่มีสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย และทางเมืองมีแนวคิดที่จะทำแตงโมเป็นของตัวเองจึงเป็นที่มาของแตงโมสี่เหลี่ยมจะกลายเป็นเครื่องหมายการค้าของเมือง สร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ แน่นอนว่าด้วยรูปทรงของแตงโมที่เป็นสี่เหลี่ยมไม่เหมือนใครย่อมสร้างมูลค่าเพิ่มขึ้น โดยราคาขายเฉลี่ยในญี่ปุ่นจะมีราคาตั้งแต่ 100-500 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 3,490-17,000 บาท) ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัยด้วยกัน ไม่เพียงเท่านั้น ซัพพลายเออร์ยังบอกอีกว่าด้วยความที่แตงโมเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมทำให้สะดวกต่อการขนส่ง เคลื่อนย้าย ตลอดจนการเก็บรักษา ปัจจัยที่ทำให้แตงโมรูปทรงสี่เหลี่ยมมีราคาแพง สิ่งแรกที่ต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับอุตสาหกรรมผลไม้ของญี่ปุ่น คือความสวยงามที่ไม่เหมือนกับแตงโมอื่น ๆ ทั่วไป อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ทุกสายพันธุ์แตงโมจะปลูกออกมาเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมได้หมด โดยการปลูกต้องมีวิธีการที่มีความระมัดระวังเป็นพิเศษ นั่นหมายความว่าไม่ใช่แตงโมที่จะปลูกง่าย ๆ หลังสวนหลังบ้าน ที่มา: a-z-animals เรื่องที่เกี่ยวข้อง เด็กญี่ปุ่นไอเดียเจ๋งปลูกเมล่อนคล้ายผลปีศาจการ์ตูนดัง “ONE PIECE” แถมมีคนขอซื้อ 127 ล้านบาท

บริษัทญี่ปุ่นทำเครื่องปั้นโอนิกิริ ใช้เวลาเพียง 30 วินาที ได้ข้าวปั้นพร้อมเสิร์ฟ

โอนิกิริ หรือข้าวปั้นสไตล์ญี่ปุ่น เป็นอาหารที่ทำได้ง่าย แต่จะทำให้ถูกต้องนั้นเป็นเรื่องยาก เพราะต้องใช้การกดข้าวให้เข้ากันอย่างเบามือ ซึ่งปัญหาคือโอนิกิริจะแยกออกจากกันก่อนที่จะถูกนำเข้าปาก ทำให้ไม่น่ารับประทานสักเท่าไหร่นัก ด้วยเหตุนี้จึงเป็นความท้าทายควบคู่ไปกับอุปสรรคว่าจะทำอย่างไรให้ข้าวปั้นออกมาดูดี ไม่ให้ข้าวจับตัวแน่นจนเกินไป หรืออ่อนจนข้าวไม่จับตัวกัน เรียกได้ว่าเป็นปัญหาชวนปวดหัวกับการปั้น “โอนิกิริ” ครั้งหนึ่ง อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ได้มีการคิดค้นวิธีการที่รับประกันได้ว่า “โอนิกิริ” ที่ปั้นออกมานั้นจะเกิดความสมบูรณ์แบบมากที่สุด ผ่านเครื่องที่มีชื่อเรียกว่า Kyukoku no Onigiri ซึ่งเป็นนวัตกรรมของบริษัท Takara Tomy Arts แม้ว่าจะรู้จักกันดีในฐานะผู้ผลิตของเล่น แต่ก็ออกแบบอุปกรณ์ในครัวด้วย สำหรับ Kyukoku no Onigiri เป็นเครื่องปั้นโอนิกิริที่ใช้งานง่ายมาก เพียงตักข้าวสวยหุงสุกใส่กล่องสามเหลี่ยมแล้วเสียบเข้ากับขาตั้ง กดสวิตช์ หลังจากนั้นเครื่องก็จะดำเนินการจัดการเองภายในระยะเวลา 30 วินาที และเมื่อเสร็จ คุณจะได้โอนิกิริที่ได้รูปทรงเหมาะสม และโครงสร้างที่แข็งแรง บวกกับเนื้อสัมผัสที่นุ่มเมื่อกัดเข้าไป แม้ดูว่าจะเป็นเครื่องที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการทำโอนิกิริ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีพื้นที่สำหรับแสดงแนวคิดการทำอาหารที่สร้างสรรค์ของคุณเอง เพราะนอกจากข้าวแล้ว คุณสามารถใส่ท็อปปิ้งอื่น ๆ ที่ต้องการลงไปในกล่อง เช่น เครื่องไม่ได้ห่อโอนิกิริ ดังนั้น คุณสามารถแปะแผ่นสาหร่ายที่ให้รสชาติเค็มกรอบได้ ทั้งนี้ Kyukoku no Onigiri […]

บริษัทญี่ปุ่นทำคราฟท์เบียร์แนวใหม่ทำจากข้าวหุงสุก กินแล้วให้ความสุข แถมช่วยรักษ์โลก

Zojirushi Corp เปลี่ยนข้าวที่หุงแล้วให้เป็นส่วนผสมของคราฟท์เบียร์ หวังลดผลกระทบจากขยะ Zojirushi Corp ร่วมกับ Nikenjaya Mochi Kadoya Honten พัฒนาเบียร์ข้าว Hare to Ho โดยจะใช้ข้าวประมาณ 30 ตันต่อปีในกระบวนการพัฒนา ซึ่งวิศวกรของบริษัทได้ทดสอบ และชิมข้าวเหล่านั้นมาตลอด ก่อนหน้านี้ Zojirushi นำเข้าทดลองส่วนใหญ่มารีไซเคิลเป็นปุ๋ยหมัก แต่บางส่วนถูกทิ้ง ดังนั้น จึงต้องหาวิธีอื่น ๆ เพื่อให้เกิดประโยชน์ สำหรับเบียร์คราฟท์นี้ถูกสร้างขึ้นโดยการผสมข้าวขาวในระหว่างกระบวนการบด ซึ่งเป็นแป้งธัญพืชเป็นน้ำตาล และเติมน้ำองุ่นขาวเพื่อให้ได้รสชาติที่สดชื่น ทั้งนี้ เบียร์ขวดจะมีขนาด 330 มิลลิลิตร ราคารวมภาษีแล้วอยู่ที่ 660 เยน (ประมาณ 158 บาท) จำหน่ายทั้งหมด 5,000 ขวด ที่ร้าน Zojirushi “Gohan” ในโอซาก้า และร้านค้าออนไลน์ของ Isekado Brewery ที่มา: japannews

ครั้งแรก! สหราชอาณาจักรเผาศพด้วยน้ำให้สิ้นสุดชีวิตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

“ความตาย” เป็นสิ่งที่ทำเราทุกคนล้วนหนีไม่พ้น แต่เมื่อถึงเวลานั้นก็ขอจากไปแบบยังทำประโยชน์ให้กับสิ่งแวดล้อมได้ Smartsme จะพามาที่สหราชอาณาจักร เมื่อผู้ให้บริการดูแลศพรายใหญ่ประกาศว่าจะเริ่มให้บริการฌาปนกิจทางน้ำ หรือที่เรียกว่าการรีโซเมชันในปลายปีนี้ สหราชอาณาจักรนำเสนอการเผาศพด้วยน้ำเป็นครั้งแรกในปีนี้ ตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการเลือกสิ้นสุดชีวิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นทางเลือกใหม่จากแต่ก่อนที่มีแค่ฝังศพ หรือเผาศพแบบดั้งเดิม อธิบายการเผาศพด้วยน้ำคือการใช้น้ำนำเข้าร่างกายยกกลับเข้าสู่โครงกระดูก โดยร่างของผู้เสียชีวิตจะถูกวางในภาชนะโลหะที่เต็มไปด้วยน้ำ และสารละลายด่าง หลังจากนั้นใช้ความร้อนทำให้เนื้อของร่างกายกลายเป็นส่วนหนึ่งของส่วนประกอบทางเคมี ไม่ว่าจะเป็น กรดอะมิโน เปปไทด์ น้ำตาล และเกลือ เมื่อเวลาผ่านไป 3-4 ชั่วโมง ร่างผู้เสียชีวิตจะเหลือแค่กระดูก และจะถูกบดเป็นผงสีขาว ใส่โกศ พร้อมมอบให้กับครอบครัว วิธีนี้จะสร้างความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้ดีกว่าการเผาศพที่ทำให้เกิดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ประมาณ 245 กก. ต่อการเผา 1 ครั้ง เช่นเดียวกับการฝังศพที่บางครั้งสารเคมีที่อยู่ในกระบวนอาจรั่วไหลลงดินได้ ที่มา: euronews

เกษตรกรฮอกไกโดพัฒนาผลไม้สายพันธุ์ใหม่ ผสมผสาน “เลมอน” กับ “เมลอน” เข้าด้วยกัน

เกษตรกรในฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่นร่วมพัฒนาผลไม้สายพันธุ์ใหม่มีชื่อเรียกว่า “เลมอน เมลอน” โดยมีลักษณะกลม และฉ่ำ รสชาติหวานเหมือนเมลอน เปรี๊ยวเล็กน้อยเหมือนมะนาว ลักษณะ “เลมอน เมลอน” คล้ายกับแตงโม แต่ไม่มีลาย โดยด้านในเป็นสีขาว ซึ่งเนื้อของผลไม้มีความกรอบเหมือนลูกร์ แต่เมื่อมันสุกจะนุ่มขึ้นมาก ดังนั้น ผู้บริโภคจึงมีหลายวิธีในการเพลิดเพลินกับผลไม้ชนิดนี้ ตามรายงานของ Japan Today ระบุว่า Suntory Flowers บริษัทพืชสวนของญี่ปุ่นผู้พัฒนา “เลมอน เมลอน” กล่าวว่าการเพาะพันธุ์เมลอนที่ไม่เหมือนใคร เป็นการนำเข้ามาจากต่างประเทศ และดำเนินการมาตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา โดยผลิตภัณฑ์ปัจจุบันเป็นผลมาจากการทดลองวิธีการเพาะปลูกมา เวลาเก็บเกี่ยวมานับครั้งไม่ถ้วน และเป็นปีแรกที่ขายได้ นอกจากนี้ เว็บไซต์ Suntory บอกว่าเมลอนเป็น “รางวัลของหวานที่สมบูรณ์แบบสำหรับฤดูร้อน พร้อมความเปรี๊ยวที่สดชื่น โดยบริษัทคาดการณ์ว่าในปีนี้จะปลูกเมลอนได้ 3,800 ลูก โดยจะส่งขายที่ซัปเปาโร ซูเปอร์มาร์เก็ต ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน ในราคาลูกละ 3,220 เยน (ประมาณ 763 บาท) หากพูดถึงในแง่ของการตลาด นี่เป็นส่วนเสริมล่าสุดในตลาดผลไม้สุดหรูของญี่ปุ่น […]

ไอเดียเจ๋ง! เลบานอนเปิดไดรฟ์ทรูให้คนนำขยะมารีไซเคิลแลกเงินสด

เลบานอนแก้ปัญหาขยะล้นเมืองด้วยการเปิดสถานีไดร์ฟทรูรับซื้อขยะรีไซเคิล ไม่ว่าจะเป็น ขวดเปล่า-กระดาษแข็ง แลกเป็นเงินสด ถือเป็นไอเดียแปลกใหม่หลังภายในประเทศพบกับวิกฤตขยะมายาวนาน เลบานอนเผชิญกับวิกฤติขยะฝังกลบล้น รวมถึงขยะถูกเผาอย่างผิดกฎหมายสถานที่ที่ห้ามทำ ดังนั้นจึงมีแนวทางลดขยะด้วยวิธีรีไซเคิล และเพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจึงเป็นที่มาของสถานีไดร์ฟทรูรับซื้อขยะ Pierre Baaklini ผู้ก่อตั้ง Lebanon Waste Management กล่าวว่า ประมาณปีที่แล้วตนได้ริเริ่มสถานีรีไซเคิลไดร์ฟทรูแห่งแรก และเปิดแห่งที่สองในเดือนกุมภาพันธ์ที่ Burj Hammoud ชานเมืองเบรุต ซึ่งเป็นพื้นที่ใกล้กับหลุมฝังกลบขยะ ด้วยจำนวนประชากรมากกว่า 80% ของเลบานอนที่อาศัยอยู่ในความยากจน แต่พวกเขาสามารถนำสิ่งของจากถังขยะมาขายเพื่อรีไซเคิลได้ สำหรับขยะที่รับรีไซเคิล ได้แก่ ขวดเปล่า, เศษกระดาษแข็ง, แก้ว, โลหะ, ขยะอิเล็กทรอนิกส์, แบตเตอรี่ ที่มา: france24 #Smartsme #เลบานอน #ขยะ เรื่องที่เกี่ยวข้อง• ร้านเบเกอรี่ในเลบานอนใช้พลังงานแสงอาทิตย์อบขนมปัง ลดใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แถมขายถูกกว่า https://www.smartsme.co.th/content/250583

หนุ่มญี่ปุ่นเดินทางมากรุงเทพฯ เพื่อซื้อ “กระบอกเก็บตั๋วรถเมล์” กลับไปเป็นของฝาก

ปกติเวลานักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางมายังประเทศไทยก็จะมักซื้อของฝากที่แสดงถึงความหมาย บ่งบอกความเป็นประเทศที่ไปเยือนกลับไป แน่นอนว่าหากซื้อเหมือนกับนักท่องเที่ยวทั่วไปจะดูธรรมดาไปสักหน่อย เพราะของฝากที่กลับไปจะดูซ้ำ และไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่สำหรับประเทศไทยบางทีของที่เราเห็นกันอยู่เป็นประจำสามารถเป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวได้เช่นกัน อย่างกรณี หนุ่มญี่ปุ่นที่ตั้งใจเดินทางข้ามประเทศมาไทยเพื่อซื้อกระบอกเก็บตั๋วรถเมล์ ผู้ใช้ทวิตเตอร์ชาวญี่ปุ่นชื่อว่า @Kouhei50 ได้โพสต์ข้อความแปลเป็นภาษาไทยว่า ในที่สุดก็ได้แล้ว! ผมมากรุงเทพฯ เพื่อสิ่งนี้ ราคา 650 บาท (ประมาณ 2,600 เยน) แพงกว่าที่คิดไว้ แต่เป็นของฝากสำหรับตัวเอง นี่คือกระบอกเก็บค่าโดยสารของพนักงานเดินรถที่ถือไว้ นี่อาจจะเป็น Soft Power ที่อยู่ใกล้ตัวเราแบบคาดไม่ถึงก็ได้ ที่มา: ทวิตเตอร์ @Kouhei50 เรื่องที่เกี่ยวข้อง บริษัทญี่ปุ่นเปิดบริการรับจ้างลาออกแทนพนักงาน จบปัญหาไม่อยากเจอหน้าเจ้านาย

Null Stern Hotel โรงแรมไร้กำแพง อยู่ติดปั๊มน้ำมัน อยากให้คนพักตระหนักปัญหาวุ่นวายรอบตัว

เมื่อนึกถึงโรงแรม คนส่วนใหญ่มักจะมองในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวก ความสวยงามของบรรยากาศโดยรอบ ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของตัวเอง แน่นอนว่าโรงแรมก็จะมีการแบ่งระดับความหรูหราแตกต่างกันออกไป แต่มันจะแปลกหรือไม่ หากมีโรงแรมที่สร้างขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออยากให้คนเข้าพักคิดถึงปัญหาวุ่นวายที่มีอยู่รอบตัว ตลอดจนปัญหาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ จึงเป็นที่มาของ “The Null Stern Hotel” โรงแรม 0 ดาว ที่เปิดให้บริการอยู่ข้างสถานีบริการน้ำมัน โดยห้องพักนั้นแตกต่างจากโรงแรมอื่น ๆ เพราะ ไม่มีกำแพง, ผนังกั้น, หลังคา เรียกได้ว่าเปิดโล่งเลยทีเดียว แนวคิดนี้เกิดขึ้นจาก Frank-Patrik Riklin ศิลปินสองพี่น้อง และ Daniel Charbonnier เจ้าของโรงแรม ที่ออกแบบโรงแรมแห่งนี้อย่างพิถีพิถัน มีพื้นที่เพื่อให้คุณตื่นขึ้นมาในยามค่ำคืน เพื่อให้คนเข้าพักเห็นเหตุการณ์ ความวุ่นวายที่อยู่โดยรอบ แม้ว่าห้องพักจะเห็นเทือกเขาแอลป์ และวิวเนินเขาเซลลอน แต่ความสวยงามเหล่านี้ก็ถูกกลบด้วยเสียงรถยนต์บนท้องถนน กลิ่นน้ำมันที่โชยเข้ามา เป้าหมายของผู้สร้างคือต้องการให้ผู้คนให้ความสนใจต่อสถานะของโลก เปรียบเทียบให้เห็นความแตกต่างระหว่างความสวยงามของโลก และวิธีที่เรากำลังทำลายมัน ทั้งนี้ ห้องพักดังกล่าวมีราคาอยู่ที่ 340 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 12,450 บาท) ต่อคืน ที่มา: designtaxi

จีนเปิดห้องพักหรู ขายคืนละ 43,000 บาท พร้อมดูหมูหายากแบบใกล้ชิด

นักท่องเที่ยวจีนจ่ายเงิน 8,888 หยวน (ประมาณ 43,000 บาท) เข้าพักในโรงแรงเพื่อชมชีวิตความเป็นอยู่ของหมูที่หายากและมีมูลค่าสูงสุดของประเทศ สำหรับพื้นที่ถูกจัดออกมาในรูปแบบของสวนสนุก โดยจะมีรูปทรงปราสาท รวมถึงหน้าต่างที่ปิดสนิทซึ่งสามารถมองไปยังหมูที่อยู่ชั้นล่างได้ และกลิ่นของหมูจะไม่ลอยขึ้นมาข้างบนแต่อย่างใด นอกจากนี้ คลิปวิดีโอของห้อง และมุมมองที่เป็นเอกลักษณ์ได้รับการดูมากถึง 6 ล้านครั้งบน Douyin ซึ่งเป็น TikTok เวอร์ชันจีน หลังมีการโพสต์ไปเมื่อวันที่ 25 มิ.ย. โดย Jinhua ถูกขนานามว่าเป็น Disneyland เปิดให้บริการในปี 2021 เพื่อส่งเสริมสายพันธุ์หมูที่มีชื่อเรียกว่า “panda pig” มีลักษณะเด่นคือส่วนหัว และท้ายมีสีดำ ตรงกลางมีสีขาวคล้ายกับแพนด้า อย่างไรก็ตาม รายงานจาก Qianjiang Evening News เมื่อปี 2016 พบว่าจำนวนหมู “Panda pig” ที่มีอยู่ใน Jinhua คิดเป็น 75,000-80,000 ตัว หรือร้อยละ 3-4 ของหมูทั้งหมดในเมือง ซึ่งกลายเป็นสายพันธุ์ที่หายากมาก ดังนั้น […]

ร้านเบเกอรี่ในเลบานอนใช้พลังงานแสงอาทิตย์อบขนมปัง ลดใช้น้ำมันเชื้อเพลิง แถมขายถูกกว่า

บนดาดฟ้าของร้านเบเกอรี่ในหมู่บ้าน Remhala ในประเทศเลบานอน บริษัท Partners With Sun ได้ติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ที่เข้มข้นสร้างความร้อนเพื่อควบคุมการอบขนมปัง “Partners With Sun” เป็นบริษัทสตาร์ทอัพที่ทำธุรกิจในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ทำการติดแผงโซลาร์เซลล์โดยรวบรวมความร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์มาไว้ในที่ ๆ เดียว และจะถูกส่งผ่านตัวกลางคือน้ำมันสกัดเย็นแทนน้ำมันดีเซล หรือใช้ไฟฟ้าเพื่อสร้างความร้อน เมื่อมีความร้อนเพียงพอก็จะส่งไปที่เครื่องอบขนมปังให้อุณหภูมิสูงถึง 300 องศาเซลเซียส ทำให้ช่วยลดการเผาไหม้ของน้ำมันเชื้อเพลิงไปถึง 80% ต่อเดือน Hitaf Ghazal ผู้ร่วมก่อตั้ง Partners With Sun และผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการและสื่อสาร กล่าวว่านี่คือเตาอบที่จะช่วยเจ้าของร้านเบเกอรี่ประหยัดการใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 80% ต่อเดือน และทำให้ราคาขนมปังที่ส่งไปถึงมือผู้บริโภคมีราคาลดลง เตาอบพลังงานแสงอาทิตย์ใช้นวัตกรรมแลกเปลี่ยนความร้อน ซึ่งขณะนี้สิทธิบัตรอยู่ระหว่างการตรวจสอบในประเทศเนเธอร์แลนด์ ที่ถูกออกแบบมาสำหรับการใช้ในอุตสาหกรรมเบเกอรี่ โดยแนวทางนี้ไม่เพียงแค่ผลิตพลังงานสะอาดช่วยลดต้นทุนด้านพลังงานเท่านั้น แต่ยังลดผลกระทบที่มีต่อสิ่งแวดล้อมจากเชื้อเพลิงอีกด้วย ด้าน Toufic Hamdan ผู้ร่วมก่อตั้ง “Partners With Sun” กล่าวว่าเรามีเป้าหมายไปจนถึงปี 2030 เพื่อใช้ไฟฟ้าในการผลิตอาหาร และเครื่องดื่ม ที่มา: aajenglish

ญี่ปุ่นจัดประมูลเชอร์รี่เกรดพรีเมียมกล่องละ 1.2 แสนบาท ย้ำภาพของดีต้องมีมูลค่า

สินค้าไม่มีคุณภาพอย่างเดียว ต้องสร้างมูลค่าด้วยการตลาดควบคู่กันไป เพื่อการรับรู้ในเรื่องของภาพลักษณ์ให้กลายเป็นของดูหรู ดูแพง และเกิดความต้องการของลูกค้าที่อยากจะควักเงินซื้อมาเป็นเจ้าของ ที่ประเทศญี่ปุ่น ฤดูกาลเก็บเกี่ยวเชอร์รี่เริ่มต้นขึ้นแล้ว แน่นอนว่าจะให้ช่วงเวลาพิเศษนี้ปล่อยผ่านไปก็คงไม่ดีสักเท่าไหร่นัก จึงเกิดการประมูลเชอร์รี่เซ็ตพรีเมียมจำนวน 15 ลูก ภายในกล่อง มูลค่า 500,000 เยน (1.2 แสนบาท) ที่ตลาดค้าส่งทางตอนเหนือของญี่ปุ่น การประมูลเชอร์รี่ “จูโนฮาร์ท” ระดับไฮเอนด์ของจังหวัดอาโอโมริในตลาดค้าส่งกลางของเทศบาล โดย “จูโนฮาร์ท” เป็นเชอร์รี่ที่มีลักษณะคล้ายเป็นรูปหัวใจ มีขนาดใหญ่ และมีคุณภาพดีเยี่ยม ถูกประมูลไปในราคา 500,000 เยน (1.2 แสนบาท) แม้ว่าจะเป็นตัวเลขที่ต่ำกว่าครั้งที่แล้วที่ประมูลไว้ 600,000 เยน (ประมาณ 1.4 แสนเยน) ของปีที่แล้ว เชอร์รี่สายพันธุ์ “จูโนฮาร์ท” เป็นหนึ่งในสายพันธุ์ของญี่ปุ่นที่ใหญ่ที่สุด และเป็นที่ยอดนิยมกับการให้เป็นของขวัญ เพราะว่ามีความสวยงามที่มีลักษณะเป็นรูปหัวใจ รวมถึงมีรสชาติที่ยอดเยี่ยม สำหรับการขนส่งเชอร์รี่นี้เกิดขึ้นมา 4 ปีแล้ว โดยเริ่มผลิตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมี 114 กล่องในการประมูลครั้งแรกของปีนี้ มากกว่า 2 เท่าเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา Hideki […]

“Epic OneWater Brew” เบียร์รักษ์โลกรียูสจากน้ำทิ้งผ่านการกรองนำกลับมาดื่มได้

ด้วยปัญหาการขาดแคลนน้ำที่คาดว่าจะสร้างความสั่นคลอนในสหรัฐฯ อย่างเร็วที่สุดในปี 2024 จึงทำใหผลิตภัณฑ์อย่างเบียร์เกิดไอเดียที่จะน้ำเสียมารียูสเป็นเครื่องดื่มที่กำลังวางบนชั้นขายสินค้าเร็ว ๆ นี้ ตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือ “Epic OneWater Brew”เบียร์กระป๋องสไคล์คอลช์เตรียมนำน้ำเหลือทิ้งจากน้ำฝักบัว, น้ำซักผ้า และน้ำล้างจาน มาผ่านการกรองให้สามารถนำกลับมาดื่มได้ ของบริษัท Epic Cleantec บริษัทเทคโนโลยีที่ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการนำน้ำกลับมาใช้ใหม่ ซึ่งแจ้งเกิดจากโครงการ “Reinvent the Toilet Challenge” ของมูลนิธิ Bill และ Melinda Gates สำหรับ “Epic Cleantec” เป็นบริษัทที่สร้างระบบบำบัดน้ำเสีย และนำกลับมาใช้ใหม่เป็นหลัก ไม่ใช่ผลิตเบียร์แต่อย่างใด โดยมีผู้ก่อตั้งร่วม 4 คน ได้แก่ llan Levy, Oded Halperin และ lgor กับ Aaron Tartakovsky (สองพ่อลูก) ที่ได้รับทุนสนับสนุนจากมูลนิธิ Gates ในปี 2012 ก่อนที่บริษัทจะเริ่มธุรกิจอย่างเป็นทางการในปี 2015 Aaron […]

Krispy Kreme ในญี่ปุ่นใช้เศษโดนัทเหลือทิ้งมาทำ “เหล้าจิน” แก้ปัญหาลดขยะอาหาร

เมื่อ Krispy Kreme ในญี่ปุ่นบอกว่าพวกเขาจะทำ “เหล้าจิน” จากโดนัท ปฏิกิริยาแรกของผู้คนคือการเปิดปฏิทินดูว่าวันนี้ใช่วัน April Fools’ Day หรือไม่ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องโกหก หรือตลกแต่อย่างใด โดย Krispy Kreme เตรียมที่จะทำ “เหล้าจิน” จากโดนัทจริงจากความร่วมมือกับบริษัท Ethical Spirits ผ่านแบรนด์ที่มีชื่อเรียกว่า “Little Joy Spirits” แนวทางนี้ของ Krispy Kreme ถือว่าเป็นความเคลื่อนไหวในการจัดการเศษขยะ โดยก่อนหน้านี้ได้นำไปทำปุ๋ย แต่เวลานี้แป้งส่วนเกินจากโดนัทถูกนำมาใช้ทำ “เหล้าจิน” ซึ่งเป็นเหล้ากลั่นที่เกิดจากการนำแอลกอฮอล์ไปหมักกับเครื่องเทศ หรือสมุนไพร สำหรับแป้ง และน้ำตาลที่เคลือบโดนัทรสชาติดั้งเดิมที่เกิดขึ้นในระหว่างการผลิต สามารถนำไปปรับใช้ในกระบวนการหมักได้ โดยกระบวนการทำนั้นจะนำเข้าไปอบเป็นบิสกิตก่อน หลังจากนั้นจะราดซอสคาราเมลเคลือบ และเข้าสู่กระบวนการกลั่นกับวัตถุดิบอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น ส้มวาเลนเซีย, ลูกจูนิเปอร์, เมล็ดผักชี และผงกระวาน เพื่อสร้างรสชาติ ซึ่งความหวานของโดนัทจะรวมกันกลายเป็น “เหล่าจิน” ในที่สุด “เหล้าจิน” แบรนด์ The Little […]

สิงคโปร์ผุดไอเดีย “ตู้คีบทุเรียน” แก้ปัญหาทุเรียนล้นตลาด เล่นหนึ่งครั้งใช้เงิน 25 บาท

ปกติทั่วไปเราจะเห็นตู้คีบที่ส่วนใหญ่สิ่งของที่อยู่ภายในจะเป็นตุ๊กตา แต่ตอนนี้ที่สิงคโปร์มีการผุดไอเดีย “ตู้คีบทุเรียน” ขึ้นมา วางให้บริการอยู่ในห้างสรรพสินค้าเพื่อแก้ปัญหาทุเรียน มาเลย์-อินโดนีเซีย ล้นประเทศ ตู้คีบทุเรียนดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้คนที่เข้ามาลองเล่น โดยจะต้องใช้เงิน 1 ดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 25 บาท) ในการเล่น 1 ครั้ง ซึ่งไอเดียนี้เป็นส่วนหนึ่งของการแก้ปัญหาผลผลิตทุเรียนจากมาเลเซีย และอินโดนีเซีย ที่ล้นทะลักเข้ามาจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ตู้ดังกล่าวได้รับความสนใจจากผู้คน โดยชายคนหนึ่งบอกว่าตนต้องมาเล่นคีบทุเรียนทุกวัน วันละ 3 ชั่วโมง ซึ่งตนสามารถคีบทุเรียนได้ 5 ลูก ภายในระยะเวลา 15 นาที เช่นเดียวกับ ชายวัย 45 ปี ที่รู้ข่าวว่ามีตู้คีบทุเรียนก็ตัดสินใจมาลองเล่นทันที ใช้เวลาอย่างน้อย 2-3 ชั่วโมง บางครั้งได้พาครอบครัวมาด้วย ทั้งนี้ ตู้คีบทุเรียน ตั้งอยู่ที่ พาซาร์มาลาม เชา ชู กัง และห้างสรรพสินค้าอีก 2 แห่งในสิงคโปร์ ที่มา: World Forum ข่าวสารต่างประเทศ, asiaone

“ผัดก้อนหิน” เมนูสตรีทฟู้ดกลายเป็นไวรัลในจีน ไม่ได้ให้กิน แต่ไว้ให้ดูดเพื่อเพิ่มรสชาติ

กลายเป็นไวรัลเป็นสื่อโซเชียลมีเดียบนจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อปรากฏเมนูสุดแปลก “ผัดก้อนหิน” วางขายตามข้างทางในตลาดกลางคืน คลิปวิดีโอเมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ดึงดูดผู้ชมมากกว่า 4 ล้านครั้งบน Douyin โดยปรากฏพ่อค้ารายหนึ่งในมณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีนกำลังผัดหินขนาดเล็กเข้ากับพริก, กระเทียม, เพอริลลาสีม่วง และโรสแมรี่ ก่อนจะวางขายในราคา 16 หยวน (ประมาณ 80 บาท) ตามที่ผู้ขายบอก ก้อนหินที่ผัดไม่ได้มีไว้กิน แต่จะเป็นลักษณะการดูด และเสริมเพื่อเพิ่มรสชาติของส่วนผสมอื่น ๆ ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อย ลูกค้าสามารถเก็บก้อนหินที่เหลือนำกลับมาปรุงอาหารด้วยส่วนผสมใดก็ได้ในมื้อถัดไป เรื่องดังกล่าวมีการแสดงความคิดเห็นแตกต่างกันไปมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เจ้าของร้านอาหารที่บอก “ก้อนกรวดนี้ถูกส่งต่อมาชั่ว 3 อายุคน แม้คุณอาจจากไปแล้วแต่ก้อนหินยังคงอยู่ ขณะที่ผู้สังเกตการณ์ออนไลน์ต่างตกตะลึงกับอาหารอันโอชะสุดแปลกที่พวกเขายกย่องว่าเป็นอาหารจานด่วนที่ยากที่สุดในโลก ขณะเดียวกันก็มีบางส่วนที่ออกมาเหน็บ โดยระบุว่า “มันอาจจะจริงตราบใดที่เครื่องปรุงยังดี แม้แต่รองเท้าผัดก็ยังเป็นอาหารอันโอชะได้” ส่วนอีกคนก็บอกว่า “นี่คืออาหารที่สมบูรณ์แบบสำหรับการอดอาหาร” เมื่อสืบค้นประวัติจะพบว่าเมนูนี้มีมาหลายร้อยปี โดยได้รับความนิยมในช่วงปี 1937-1945 ซึ่งมักถูกกินคู่กับไวน์ ที่มา: scmp #Smartsme #ผัดก้อนหิน #จีน #สตรีทฟู้ด

บริษัทญี่ปุ่นเปิดบริการรับจ้างลาออกแทนพนักงาน จบปัญหาไม่อยากเจอหน้าเจ้านาย

วัฒนธรรมการทำงานในประเทศญี่ปุ่น การตัดสินใจจะลาออกจากองค์กรถือเป็นเรื่องเรื่องที่ยากครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะด้วยความผูกพัน และความซื่อสัตย์ที่มีจึงกลายเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำใจลำบากเมื่อถึงเวลาบอกลา เรื่องนี้กลายเป็นโอกาสทางธุรกิจ เมื่อบริษัทญี่ปุ่นชื่อว่า Exit ผุดไอเดียเสนอวิธีแก้ปัญหาให้กับพนักงานที่อยากจะลาออก แต่กลัวการเผชิญหน้ากับเจ้านายด้วยการรับจ้างลาออกแทน Toshiyuki Niino ผู้ร่วมก่อตั้ง Exit กล่าวกับ AI Jazeera ว่าเมื่อคุณพยายามที่จะลาออก พวกเขาจะทำให้คุณรู้สึกผิด โดยในอดีตผมต้องเผชิญกับความอึดอัดกับการต้องยื่นใบลาออกจากที่ทำงาน ดังนั้น ไอเดียรับจ้างลาออกแทนจึงเกิดขึ้นมาเพื่อแก้ไขปัญหานี้ Niino เริ่มก่อตั้งบริษัทในปี 2017 กับเพื่อนสมัยเด็กเพื่อบรรเทา “ความยุ่งยากที่บีบคั้นจิตใจ” ของผู้คนเวลาออกจากงาน โดยบริการรับจ้างลาออกจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 144 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 4,900 บาท) ซึ่งเป็นราคาที่ลดลงประมาณ 450 ดอลลาร์สหรัฐฯ เมื่อ 5 ปีที่แล้ว สำหรับขั้นตอนการทำงานของบริการนั้น อ้างอิงจากบทความ Financial Times พบว่ามีความเรียบง่าย โดย Exit จะติดต่อกับหัวหน้างานของผู้ว่าจ้างเพื่อบอกว่าพนักงานจะส่งหนังสือแจ้งล่วงหน้า 2 สัปดาห์ และจะไม่รับโทรศัพท์ หรืออีเมลต่อไป ซึ่งชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะมีวันลาที่ได้รับค่าจ้างเพียงพอสำหรับระยะเวลา 2 สัปดาห์ ดูเหมือนว่าบริษัทในญี่ปุ่นจะมีปัญหากับพนักงานที่แสดงความไม่พอใจ […]

อาชีพนี้ก็มีด้วย! “นักจับจิ้งจกมือเปล่า” พร้อมแนวทางจับแบบออแกนิค ปลอดสารพิษ ไม่บาป

หนึ่งในสัตว์ที่มักจะอยู่คู่กับที่พักอาศัยคือ “จิ้งจก” ที่มักจะวิ่งเล่นอยู่ภายในที่พักบางครั้งก็สร้างคว่ามน่ารำคาญ หรือความหวาดกลัวให้กับผู้พบเห็น แต่ใครจะไปคิดว่าปัญหาเล็ก ๆ นี้ จะกลายเป็นโอกาสสร้างอาชีพที่ไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นมา ผู้เฟซบุ๊กชื่อว่า น้องเคน นักจับจิ้งจกด้วยมือเปล่า โพสต์ข้อความ ขอบพระคุณลูกค้าโครงการบ้านหลังแรกค่ะ ตะครุบจับแบบออแกนิค ปลอดสารพิษ ไม่บาปเจอจิ้งจกเมื่อไหร่ อย่าลืมนึกถึงเรานะคะ#จับจิ้งจก #รับจับจิ้งจก #เพราะคนกับจิ้งจกฮักกั๋นบ่ได้ ถือว่าเป็นไอเดียสร้างอาชีพที่น่าสนใจ เพราะหลังถูกเผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นไวรัลบนโลกออนไลน์มีผู้พูดถึงกันเป็นจำนวนมาก ที่มา: น้องเคน นักจับจิ้งจกด้วยมือเปล่า

ไอเดียเจ๋ง! คนจีนมอบ “ช่อผักสด” สื่อความหมายทรัพย์งอกเงย แถมยังดีต่อสุขภาพ

ปกติเวลาแสดงความยินดีในโอกาสต่าง ๆ ส่วนใหญ่ผู้คนจะมอบช่อกุหลาบให้เป็นของขวัญ เพื่อสื่อถึงความหมายดี แน่นอนว่าหากเป็นช่อกุหลาบ ผ่านไปนานวันย่อมเหี่ยวเฉาเป็นเรื่องธรรมดา และต้องทิ้งลงถังขยะไปในที่สุด อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ที่ประเทศจีนกำลังเทรนด์ที่กำลังมาแรง คือการส่งช่อผักแทนคำอวยพร โดยจุดเริ่มต้นมาจากร้านซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งที่นำมาผักมาจัดเป็นช่อดอกไม้ ซึ่งคำว่า “生菜” แปลว่า ผักสด มีการอ่านออกเสียงว่า “เซิง ไช่” ไม่เพียงเท่านั้น การอ่านออกเสียงดังกล่าวไปพ้องกับคำว่า “生财” ที่อ่านว่า “เซิง ไฉ” หมายความว่าทรัพย์งอกเงย เหมาะกับการให้คนรู้จัก, เปิดธุรกิจ ตลอดจนยินดีกับเพื่อนฝูงในวาระต่าง ๆ เทรนด์นี้กลายเป็นกระแสอย่างรวดเร็วในประเทศจีน นอกจากจะเป็นการสื่อความหมายดี ๆ ให้กับคนรับแล้ว อีกด้านยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายเมื่อเทียบกับสื่อช่อดอกกุหลาบ และยังเป็นประโยชน์ในด้านสุขภาพให้กับผู้รับที่สามารถนำไปทำอาหารเพื่อรับประทานอีกด้วย ที่มา: weibo

ร้านอาหารในไต้หวันเสิร์ฟ “ราเมงไอโซพอดยักษ์” สัตว์น้ำ 14 ขา หายาก ชามละ 1,600 บาท

เป็นเรื่องธรรมดาที่หาร้านอาหารสามารถสรรหาวัตถุดิบที่ไม่มีอยู่ตามท้องตลาดทั่วไป เป็นของหายาก ย่อมได้รับความสนใจจากลูกค้า และเพิ่มมูลค่าให้กับอาหารจานนั้นเข้าไปอีก ร้าน TheRamen Boy ในกรุงไทเป ของไต้หวัน คิดค้นเมนูสุดแปลกที่ไม่เหมือนใครขึ้นมานั่นคือ “ราเมงไฮโซพอดยักษ์” โดยเป็นสัตว์น้ำที่มาจากใต้ทะเลน้ำลึกอย่างน้อย 550 ฟุต ในมหาสมุทรแอตแลนติก มีขนาดใหญ่ 14 ขา ซึ่งทางร้านโพสต์เฟซบุ๊กบอกเลยว่านี่คือวัตถุดิบในฝันที่จะเสิร์ฟกับราเมงซุปไก่ชามยักษ์ โปะหน้าด้วยไอโซพอดยักษ์นึ่งสุก ทางร้านยืนยันกับลูกค้าว่าไอโซพอดยักษ์นี้มีรสชาติเหมือนกุ้งก้ามกราม และเนื้อปูเมื่อนำไปนึ่ง อีกทั้งต่อมสีเหลืองก็มีรสชาติเหมือนไข่ปู สำหรับที่มาที่ไปของการนำไฮโซพอดยักษ์มาทำเป็นราเมง เริ่มต้นจากเจ้าของ Ramen Boy เดินทางไปญี่ปุ่น และพบกับไฮโซพอดกำลังว่ายอยู่ในอะความเรียม ซึ่งตนมองว่า “น่ารัก” หลังจากนั้นก็คิดต่อว่าหากนำมาปรุงอาหารในรูปแบบราเมงจะเป็นอย่างไร เมื่อเมนูนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าที่มาต่อคิวเพื่อชิมเมนูนี้มากกว่า 100 คน ทั้งนี้ ทางร้านตั้งราคาเมนูชามนี้ไว้ที่ 1,480 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 1,600 บาท) ที่มา:https://news.yahoo.com/ramen-shop-wants-know-offering-205041854.html?guccounter=1&guce_referrer=aHR0cHM6Ly93d3cuZ29vZ2xlLmNvbS8&guce_referrer_sig=AQAAACVgrd6Fqku9jNcuvmeS0BAdbxG2S1BOLKTgY9OSya9A5poyoBEHEE3nZ0rJ7Ix-QmvbWJlHLMTHKEtKbcMMSrYwPkHZA3ccqSLZzjs9ClP9fcp7K6Rzqvk_UrD1k7JfuXY-8iDthkSqCFMA5FCgC51clXHn4mqd3C7AwZXW6kSf https://www.devdiscourse.com/article/technology/2467206-locust-invasion-causes-huge-losses-to-farmers-in-afghanistans-northern-provinces

เนเธอร์แลนด์สร้างนวัตกรรม “โลงศพรักษ์โลก” ทำจากเส้นใยเห็นรา ย่อยสลาย 45 วัน

สตาร์ทอัพเนเธอร์แลนด์ สร้างการเปลี่ยนแปลงเมื่อกำลังขายโลงศพย่อยสลายได้ภายใน 45 วัน หลังจากการฝัง Loop Biotech สตาร์ทอัพที่ก่อตั้งในปี 2020 ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างโลงศพ-โกศจำลอง ขนส่งไปยังยุโรป และสหรัฐฯ โดยบริษัทยังลงทุนในสหรัฐฯ และเนเธอร์แลนด์ Lonneke Westhoff และ Bob Hendrikx ผู้ก่อตั้ง กล่าวผ่านเว็บไซต์ว่า พวกเขาต้องการทำอะไรบางอย่างเพื่อสร้าง footprint เชิงบวก ทั้งคู่รู้สึกทึ่งกับเห็ดชนิดนี้มาก และสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับธุรกิจที่ทำอยู่ได้เพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลง Hendrikx กล่าวกับ USA TODAY ว่าโลงศพที่เป็นนวัตกรรมของพวกเขาจะช่วยให้ซากศพของมนุษย์กลายเป็นแหล่งอาหารของโลก ซึ่งเป็นไอเดียที่เป็นประโยชน์ เพราะว่าอุตสาหกรรมงานศพนำมาสู่มลพิษสิ่งแวดล้อมมากมาย ดังนั้น บริษัทจึงใช้ป่านรีไซเคิล รวมกับไมซีเลียมจากเส้นใยเห็ดราเข้าด้วยกัน สามารถย่อยสลายทางชีวภาพภายใน 45 วัน ผลิตภัณฑ์ของบริษัทสามารถใช้ในการฝังศพแบบดั้งเดิม, การเผา, การฝั่งตามธรรมชาติ ยิ่งไปกว่านั้นในบางพื้นที่สามารถปลูกต้นไม้ทับซากศพมนุษย์ได้เลย เมื่อเป็นเช่นนั้น ซากศพของมนุษย์จะกลายเป็นแหล่งอาหารใหม่สำหรับต้นไม้ Hendrikx กล่าวเพิ่มเติมว่าตนค้นคว้าเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติมามาก โดยเฉพาะเห็ด และเรียนรู้ว่าพวกเขาคือผู้รีไซเคิลรายใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้น ตนจึงคิดว่าเราไม่นำมาเป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรของชีวิต ทั้งนี้ โลงศพดังกล่าวมีราคา 995 ยูโร […]

1 2 … 13