Startup

สตาร์ทอัพสุดล้ำเปิดตัวคอนแทคเลนส์อัจฉริยะ ที่จับเอา AR มาใส่ไว้ในดวงตา

สตาร์ทอัพรุ่นเก๋าทำการยกเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ไปใส่ไว้ในดวงตา สร้างคอนแทคเลนส์อัจฉริยะที่ทำให้การแสดงผลบนโลก AR ออกมาสมจริงที่สุดเท่าที่เคยมีมา เมื่อทำการสวมคอนแทคเลนส์ของ Mojo Vision คุณจะพบกับการนำเสนอข้อมูลและการแสดงผลที่ดีที่สุด สามารถตอบโต้เลือกการทำงานด้วยการเพ่งสายตาไปยังไอคอนต่าง ๆ บนหน้าจอ ซึ่งก็คือดวงตาของคุณนั่นเอง ผลิตภัณฑ์ที่ซุ่มทำการพัฒนามานานกว่า 10 ปี จะถูกนำมาใช้เพื่อช่วยเหลือผู้ที่มีความบกพร่องทางสายตา โดยใช้ AR ในการการซ้อนทับภาพที่ปรับปรุงแล้วทำให้เห็นเหมือนปกติได้ และหากทำได้มันจะกลายเป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ ในการสาธิตแสดงให้เห็นว่าคอนแทคเลนส์สามารถฉายจอแสดงผล LED ขนาดเล็กไปยังเรตินาของดวงตาทำให้คนที่สวมใส่มองเห็นส่วนประกอบเพิ่มเติมต่าง ๆ ขึ้นมาได้ นอกจากนั้นยังสามารถใช้การเพ่งสายตาให้โฟกัสส่วนต่าง ๆ เพื่อทำการควบคุมการทำงานได้อีกด้วย เวอร์ชั่นปัจจุบันจะเป็นการส่งและรับข้อมูลแบบไร้สายผ่านกล่องส่งสัญญาณแบบพกพา ซึ่งสามารถติดตั้งไว้กับเข็มขัด แต่พวกเขาหวังว่ามันจะสามารถเชื่อมโยงโดยตรงกับสมาร์ทโฟนได้ในอนาคต อ้างอิง: https://japantoday.com/category/tech/’invisible-computing’-startup-unveils-smart-contact-lens

Vessel สตาร์ทอัพที่ต้องการเพิ่มการใช้ซ้ำ เพื่อลดจำนวนขยะกว่า 40 ล้านชิ้นต่อปี

ตอนนี้ทุกประเทศกำลังหาทางลดจำนวนของขยะพลาสติกกันอย่างเร่งด่วน สตาร์ทอัพรายนี้ก็พยายามช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้อยู่เช่นกัน บริการที่ว่านี้คือบริการให้ยืมแก้วนั่นเอง Vessel จะมีการเริ่มต้นทดลองใช้ใน California จากร้านกาแฟในท้องถิ่นจำนวน 9 ร้าน ซึ่งร้านกาแฟเหล่านั้นไม่ต้องลงทุนอะไรเพิ่มเติม สิ่งที่ร้านจะมอบให้กับ Vessel ก็คือเงินจำนวน 25 เซ็นค์ต่อการใช้งานแก้ว 1 ใบเท่านั้นเอง โดยแก้วของ Vessel นั้นเป็นแก้วสแตนเลสมีฝาปิดเป็นซิลิโคน ผ่านการออกแบบมาอย่างทันสมัย ลูกค้าที่ต้องการใช้บริการ สามารถทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชันของ Vessel พร้อมเชื่อมต่อกับระบบการตัดเงินที่ใช้ในการมัดจำแก้ว โดยเมื่อทำการคืนแก้วในจุดที่ให้บริการก็จะได้เงินมัดจำคืนเต็มจำนวน แต่ถ้าหากต้องการใช้งานแก้วของ Vessel เป็นการถาวรหรือไม่คืนก็ต้องสามารถทำได้ เพียงเลือกจ่ายเงินเพียง 15 เหรียญก็จะกลายเป็นเจ้าของแก้วทันที โมเดลของธุรกิจสตาร์ทอัพรายนี้จะต้องบริหารจัดการเรื่องของการรับและล้างแก้ว ที่จะถูกส่งคืนในจุดต่าง ๆ ที่จะต้องเพิ่มขยายออกไปตามจำนวนคนใช้งาน ส่วนอีกเรื่องหนึ่งก็คือการปรับตัวของผู้บริโภคที่จะหันมาใช้แก้วแบบใช้ซ้ำ แล้วจึงค่อยเปลี่ยนเป็นการใช้แก้วส่วนตัวในที่สุด ความคาดหวังที่ทำเรื่องนี้ก็คือ ต้องการลดจำนวนแก้วกระดาษแบบใช้แล้วทิ้งที่มีจำนวนมากถึง 40 ล้านใบต่อปีนั่นเอง ต้องมาคอยลุ้นกันต่อว่า Vessel จะสามารถทำการระดมทุนเพิ่มได้หรือไม่ในรอบต่อไป อ้างอิง: https://www.fastcompany.com/90450872/at-a-growing-number-of-coffee-shops-getting-a-coffee-to-go-means-checking-out-a-cup

แก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำจืดด้วย เครื่องสร้างน้ำจากอากาศ

สตาร์ทอัพจากอิสราเอล ได้คิดค้นและพัฒนาเทคโนโลยีการดึงน้ำจากความชื้นในอากาศมาผลิตเป็นน้ำจืดสามารถบริโภคได้ มีความสะอาดปราศจากมลพิษ นี่คือวิทยาการสมัยใหม่ที่สามารถแก้ไขการขาดแคลนน้ำจืดจากแหล่งน้ำธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน “การแปลงอากาศเป็นน้ำด้วยเครื่องผลิตน้ำจากอากาศ” หรือ Atmospheric Water Generator : AWG เป็นผลงานจากสตาร์ทอัพของอิสราเอล ความน่าสนใจของนวัตกรรม AWG อยู่ที่กระบวนการผลิตน้ำ ซึ่งนอกจากจะมีความปลอดภัยและสะอาดแล้ว เครื่องมือดังกล่าวยังสามารถผลิตน้ำดื่มสะอาดได้ในปริมาณมาก สามารถช่วยลดปริมาณขยะพลาสติกจากการใช้น้ำดื่มแบบบรรจุขวด น้ำดื่มที่ได้จากการผลิตเป็นน้ำที่สะอาดบริสุทธิ์รสชาติคล้ายน้ำฝน ไม่มีการบำบัดด้วยสารเคมีหรือคลอรีน นอกจากนี้ ยังจะช่วยในเรื่องของระบบชลประทานในพื้นที่ฟาร์ม ที่สามารถลดการกักเก็บน้ำ เหมาะกับการปลูกพืชแนวดิ่งที่มีคุณภาพสูงลดอุปสรรคในการขนส่งหรือลำเลียงน้ำ เนื่องจากสามารถติดตั้งได้ในทุกพื้นที่แม้สภาพแวดล้อมจะไม่มีความเหมาะสม รวมถึงช่วยแก้ปัญหาเรื่องการผูกขาดของตลาดสินค้าน้ำดื่มได้เป็นอย่างดีอีกด้วย คาดการณ์ว่าเครื่องผลิตน้ำจากอากาศจะขยายตัวเพิ่มขึ้นเนื่องจากปริมาณน้ำจืดสำรองที่ลดลงและจำนวนประชากรที่เพิ่มขึ้น โดยอัตราการเติบโตของตลาดจะอยู่ที่ 9.5% ต่อปี ส่วนแนวโน้มการใช้เทคโนโลยี AWG ระหว่างปี 2019 – 2022 คาดว่าจะมีการใช้เพิ่มขึ้นอย่างแพร่หลาย โดยในปี 2019 AWG จะถูกนำไปประกอบการชลประทานขนาดใหญ่ของพื้นที่เพาะปลูกในเขตแห้งแล้งและกึ่งแห้งแล้ง ปี 2020 จะมีการใช้ AWG ขนาดใหญ่ในที่พักตามเมืองเล็กๆ และชุมชน ซึ่งจะทำให้ไม่มีมลพิษ มีน้ำสะอาดเพื่ออุปโภคบริโภค และช่วยลดการใช้น้ำตามแหล่งธรรมชาติ ขณะที่ปี 2021 คาดว่าจะมีการติดตั้งระบบ AWG ในรถยนต์ที่ใช้เชื้อเพลิงไฮโดรเจน […]

ห้องน้ำแบบใหม่ที่ทำขึ้นมาเพื่อแก้ไข ปัญหาพนักงานชอบอู้ทั้งหลาย

สตาร์ทอัพในประเทศอังกฤษคิดค้นวิธีในการจัดการกับพนักงานจอมอู้ทั้งหลาย ที่ชอบเข้าไปนั่งเล่นโทรศัพท์มือถือในห้องน้ำเป็นเวลานาน StandardToilet เป็นผลงานของบริษัทสตาร์ทอัพในประเทศอังกฤษ ที่มาพร้อมกับแนวคิดที่ว่า อยากให้คนที่เข้าห้องน้ำรีบวางโทรศัพท์มือถือแล้วกลับไปทำงานโดยเร็ว ส่วนวิธีการนั้นก็คือห้องน้ำแบบใหม่นี้จะมีพื้นที่่ลาดเอียงไปข้างหน้า 13 องศา ซึ่งจะสร้างความไม่สบายให้กับคนที่นั่งเกิน 5 นาที แนวคิดนี้กำลังถูกถกเถียงกันมากตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา หลายเสียงบอกว่า มันก็มีพนักงานบางคนที่ชอบเข้าไปนั่งอู้งานในห้องน้ำจริง แต่ก็มีอีกหลายคนที่มีความจำเป็น หากห้องน้ำกลายเป็นที่ที่นั่งไม่สบายแล้วคนที่มีความจำเป็นต้องนั่งนาน ๆ จะมีปัญหาได้ การจะนำมาใช้ต้องคิดให้รอบคอบ และหวังว่ามันคงจะไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงห้องน้ำทุกแห่งให้กลายเป็นแบบนี้ สตาร์ทอัพก็ทำงานตามหน้าที่ เมื่อมีปัญหาให้แก้ไขก็ต้องมีการนำเสนอทางออกให้ ส่วนจะประสบความสำเร็จหรือไม่นั้นก็อยู่ที่ตลาดให้การยอมรับหรือไม่ เจอแบบนี้ห้องสุขาอาจจะต้องเปลี่ยนชื่อใหม่ก็เป็นได้ อ้างอิง: https://www.usatoday.com/story/tech/2019/12/18/uncomfortably-sloped-toilet-targets-procrastinating-employees/2693794001/

ใช้ AR เพิ่มข้อมูลบนขวดสำหรับนักดื่ม

แบรนด์เครื่องดื่มแอลกอฮอล์นั้นถูกจำกัดด้วยจำนวนข้อมูลทางการตลาดที่พวกเขาสามารถวางลงบนผลิตภัณฑ์ สตาร์ทอัพจากสิงคโปร์รายนี้ทำให้ข้อมูลมากมายไปอยู่บนขวดผ่านทาง AR เทคโนโลยีได้ ไวน์และเบียร์ทุกขวดมีข้อมูลมากมายที่สามารถยกระดับประสบการณ์การดื่ม ไม่ว่าจะเป็นที่มาของส่วนผสมส่วนผสม วิธีการจับคู่กับอาหารเพื่อเพิ่มรสชาติ วิธีการดื่ม ข้อมูลเหล่านี้มากเกินกว่าที่จะนำไปใส่ไว้บนขวดจริงของไวน์และเบียร์ ปัญหานี้กำลังจะหมดไปด้วยการนำเอาเทคโนโลยี AR เข้ามาใช้ นี่เป็นที่มาของแอปพลิเคชันจากสตาร์ทอัพอย่าง Omniaz ผลิตแอปฯ ที่ชื่อว่า DRNK AR ออกมาให้พร้อมจะทำให้ข้อมูลเพิ่มเติมไม่ว่าจะเป็นเคล็ดลับในการดื่ม ข้อมูลสถานที่ของผู้ผลิตว่าอยู่ภูมิภาคไหนหรือผลิตจากประเทศใด รวมถึงข้อมูลต่าง ๆ อีกมากมายที่อยากจะใส่เข้าไป โซลูชันนี้จะทำให้ข้อจำกัดของฉลากบนขวดหมดไป ด้วยคุณสมบัตินี้จะทำให้ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สามารถนำเสนอเนื้อหาเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ของตนต่อผู้บริโภค รวมถึงการออกแคมเปญทางการตลาดร่วมกับร้านค้าต่าง ๆ ได้อีกด้วย ตอนนี้บริษัทกำลังมองหาการสนับสนุนภาษาเอเชียอย่างญี่ปุ่น เกาหลี และไทย เนื่องจากเป้าหมายหลักของลูกค้าคือภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นี่เป็นอีกหนึ่งผลงานของสตาร์ทอัพในสิงคโปร์ที่มีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจออกไปทั่วโลก อ้างอิง: https://www.dtcdaily.com/2019/12/singapore-startup-taps-ar-on-bottles-to-engage-drinkers/

สตาร์ทอัพให้บริการด้านการส่งของด้วยโดรน เตรียมส่งอาหารในไอร์แลนด์ต้นปี 2020

เรามักจะได้ยินข้อมูลเกี่ยวกับการใช้งานโดรนในการส่งของว่า “วันหนึ่งจะถึงเวลาของการส่งอาหารด้วยโดรน แต่ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้” ข้อมูลใหม่ล่าสุดบอกว่าปีหน้ามันจะเริ่มต้นแล้วในไอร์แลนด์ Mana คือสตาร์ทอัพที่ให้บริการเรื่องของ Drone Delivery – As a Service โดยบริการจัดส่งโดรนสำหรับส่งของสำหรับธุรกิจที่ต้องการ มันมีความสามารถในการบินได้นานและไกล นอกจากนี้ยังทนทานในทุกสภาพอากาศ มันบินอยู่ในระดับสูงไม่เกิน 500 ฟุต ทำให้หมดปัญหาเรื่องรบกวนการบินของเครื่องบิน ที่สำคัญมันถูกสร้างด้วยเทคโนโลยีระดับการบินและอวกาศของสหรัฐฯ เลยทีเดียว บริการแรกที่จะเริ่มทำคือการส่งอาหารจากแพลตฟอร์มการสั่งอาหารออนไลน์ ซึ่งเมื่อทำการเลือกรายการอาหารแล้ว จะได้รับการส่งมอบอาหารภายใน 3 นาที เห็นได้ชัดว่าวิธีการนี้ถูกและเร็วกว่าการขนส่งแบบอื่น ๆ โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกลอย่างชานเมืองและชนบท บริการโดรนส่งอาหารนี้จะเริ่มเปิดให้บริการในประเทศไอร์แลนด์ต้นปีหน้า หลังจากนั้นมีแผนจะเข้าไปให้บริการในสหรัฐอเมริกาต่อไป อ้างอิง: https://techcrunch.com/2019/12/18/drone-delivery-startup-manna-boosts-seed-funding-ahead-of-launch-in-ireland/

Intel ทุ่ม 2 พันล้านเหรียญซื้อสตาร์ทอัพด้าน AI ของอิสราเอล

Intel Corpได้ทำการซื้อ บริษัทฮาบาน่าแล็บซึ่งเป็นบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ในอิสราเอล ในมูลค่าสูงถึง พันล้านเหรียญสหรัฐ เพื่อเสริมศักยภาพทางการแข่งขัน ตลาดชิปของ intel ขึ้นอยู่กับยอดขายของอุปกรณ์ในศูนย์ข้อมูลมาระยะหนึ่งแล้ว และมีแนวโน้วจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในขณะที่ยอดขายชิปบนเครื่องพีซีลดน้อยลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ Intel ต้องมองหานวัตกรรมที่จะสร้างความแตกต่างให้กับธุรกิจของตนเอง โดยเฉพาะการแข่งขันในเรื่องของชิปด้าน AI ที่กลายเป็นการแข่งขันกันในอนาคต บริษัทฮาบาน่าก่อตั้งในปี 2016 เป็นสตาร์ทอัพที่ทำเกี่ยวกับชิปด้าน AI ที่มีจุดเด่นในเรื่องของการทำ Deep Learning ของ AI ซึ่งความสามารถนี้บรรดาศูนย์ข้อมูลต่าง ๆ ทั่วโลกมีความต้องการสูง เพราะนับวันจะมีความซับซ้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ AI ถูกนำมาใช้ในการบริหารจัดการมากขึ้น อย่างไรก็ตามทีมงานของฮาบาน่าจะยังคงทำงานต่อไปตามปกติ เพิ่มขึ้นมาก็เป็นเรื่องการรายงานผลความคืบหน้าต่าง ๆ ที่ต้องส่งให้ Intel เท่านั้น นี่คือสตาร์ทอัพอีกแห่งหนึ่งที่ประสบความสำเร็จอย่างที่ตั้งใจไปแล้วในการถูกซื้อ อ้างอิง: https://www.reuters.com/article/us-habana-labs-m-a-intel/intel-buys-israeli-ai-startup-habana-labs-for-2-billion-idUSKBN1YK1BU

ยุโรปกำลังส่งหุ่นยนต์ไปเก็บขยะนอกโลก

ในขณะที่เรากำลังเร่งทำการแก้ไขปัญหาขยะบนพื้นโลกอยู่นั้น องค์การอวกาศยุโรป (ESA) กำลังเตรียมการส่งหุ่นยนต์ออกไปไล่เก็บขยะอวกาศที่ลอยอยู่เต็มวงโคจรของโลก องค์การอวกาศยุโรป บอกว่าได้เวลาที่เราจะต้องทำการเก็บกวาดขยะอวกาศที่เกิดจากเศษซากของดาวเทียมที่หมดอายุ ส่วนประกอบที่ไม่ได้ใช้ของจรวด ซึ่นตอนนี้คาดว่ามีชิ้นส่วนเหล่านี้มากกว่า 170 ล้านชิ้นลอยอยู่ในวงโคจรของโลก หากทิ้งไว้จะเป็นอันตรายและอุปสรรคต่อการขนส่งทางอวกาศ เพราะชิ้นส่วนเหล่านี้จะมีการชนกันเองแล้วแตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย บางชิ้นส่วนวิ่งด้วยความเร็วที่เร็วกว่ากระสุนปืน ภารกิจ ClearSpace-1 จึงเกิดขึ้น นี่เป็นครั้งแรกที่จะมีการส่งหุ่นยนต์ขึ้นไปทำการเก็บซากชิ้นส่วนที่เกิดการสะสมในอวกาศตั้งแต่ปี 1957 โดยหุ่นยนต์ที่ว่านี้เป็นผลงานของสตาร์ทอัพชื่อ ClearSpace จากประเทศสวิสเซอร์แลนด์ การทำงานของมันก็คือการไล่เก็บขยะอวกาศ จากนั้นก็ทำการพุ่งตัวเองพร้อมขยะเข้าสู่ชั้นบรรยากาศ เพื่อให้ทุกอย่างถูกเผาไหม้ให้หายไป โครงการนี้มีแผนจะเริ่มในต้นปี 2020 ซึ่งจะเป็นการทดสอบการเก็บขยะในวงโคจรต่ำ ก่อนที่จะเริ่มทำอย่างเต็มรูปแบบในปี 2025 อ้างอิง: https://edition.cnn.com/2019/12/12/tech/space-junk-robot-esa-intl-hnk-scli-scn

RaySecur ระบบสแกนหาสิ่งแปลกปลอมในพัสดุ ก่อนนำเข้าสำนักงาน

ในแต่ละวันมีคนส่งพัสดุจำนวนมากมายเข้ามาไปยังสำนักงานต่างๆ แล้วคุณเชื่อได้อย่างไรว่ามันจะไม่มาพร้อมกับวัตถุอันตรายในรูปแบบต่างๆ RaySecur ช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ให้คุณได้ สตาร์ทอัพจากบอสตันรายนี้ ใช้เทคโนโลยีการสแกนแบบเรียลไทม์ 3 มิติ ทำให้สามารถสกัดกั้นและตรวจจับภัยคุกคามที่มารวมกันอยู่ในห้องจดหมายก่อนที่จะถูกกระจายไปยังพื้นที่ต่างๆ ของสำนักงาน ความปลอดภัยห้องจดหมาย ฟังแล้วอาจจะไม่ค่อยน่าสนใจ แต่มีหลายองค์กรที่ถูกทำการโจมตีผ่านช่องทางนี้มาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการส่งสารพิษในรูปแบบแบบผงหรือของเหลวไปยังบุคคลต่างๆ ในสำนักงาน หรือแม้แต่การส่งฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการ hack wifi เพื่อเปิดช่องทางในการโจมตีด้านไซเบอร์ ทั้งหมดนี้ล้วนเคยเกิดขึ้นมาแล้ว Raysecur ใช้เทคโนโลยีใกล้เคียงกับการรักษาความปลอดภัยที่สนามบิน เพื่อตรวจสอบจดหมายที่น่าสงสัยไม่ว่าจะเป็นซองแบน ๆ หรือพัสดุขนาดเล็ก มันสามารถตรวจจับผงได้แม้มีปริมาณเพียงเล็กน้อย ด้วยความสามารถในการเพิ่มความปลอดภัยตอนนี้มีบริษัทใน Fortune 500 หลายสิบรายเป็นลูกค้าของ Raysecur ตอนนี้ได้รับการระดมทุนในระดับเริ่มต้น เป็นเงินจำนวน 3 ล้านดอลลาร์ ซึ่งจะเป็นการยืนยันว่าเทคโนโลยีนี้น่าสนใจ และพร้อมจะออกสู่ตลาดที่กว้างขึ้น อ้างอิง: https://techcrunch.com/2019/12/08/raysecur-mailroom-security-seed-round/

The Ocean Cleanup สตาร์ทอัพระดับโลก ทำการวิจัยและพัฒนาขยะจากแม่น้ำเจ้าพระยา

ธุรกิจเคมิคอลส์ เอสซีจี จับมือ The Ocean Cleanup สตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม ทำการวิจัยเรื่องขยะในแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อนำมาศึกษาความเป็นไปได้ในการจัดการขยะและนำมาสร้างประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน The Ocean Cleanup ได้ร่วมกับ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยสถานเอกอัครราชทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดทำข้อตกลงความร่วมมือในการติดตั้ง InterceptorTM เพื่อป้องกันขยะจากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเลในประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับปัญหาขยะทะเลเป็นปัญหาที่ทั่วโลกตระหนักและมุ่งแก้ไขอย่างเร่งด่วนเพื่อสิ่งแวดล้อมในทะเล ประเทศไทยมีขยะในทะเลเป็นอันดับ 6 ของโลก ซึ่งจากการศึกษาของสถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) พบว่า ขยะทะเลส่วนใหญ่มาจากชุมชน ร้านค้า อุตสาหกรรมที่อยู่ใกล้แหล่งน้ำ การท่องเที่ยวตามชายหาด และหลุมฝังกลบที่จัดการไม่ถูกต้อง ดังนั้น การแก้ไขปัญหาขยะทะเลจึงจำเป็นต้องมีมาตรการหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการบริหารจัดการขยะจากบกเพื่อป้องกันไม่ให้ไหลลงสู่ทะเล ในขณะเดียวกันการเก็บขยะทะเล (cleanup) ก็ต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนเช่นกัน The Ocean Cleanup ตั้งเป้าที่จะจัดการปัญหานี้ โดยพุ่งเป้าไปที่แม่น้ำที่มีปริมาณขยะสูง 1,000 แห่งทั่วโลกภายในปี 2568 และคาดว่าจะช่วยลดปริมาณขยะไหลลงสู่ทะเลและมหาสมุทรได้ร้อยละ 80 และในการจะกำจัดขยะทะเลนั้น นอกจากการเก็บขยะทะเลแล้ว การป้องกันไม่ให้ขยะไหลลงสู่ทะเลก็สำคัญอย่างยิ่ง เราต้องปิดกั้นไม่ให้รั่วไหล โดยมีการร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนทั่วโลกเพื่อช่วยกันแก้ปัญหานี้ ด้วยนวัตกรรม InterceptorTM […]

Donzo สตาร์ทอัพไอเดียดี ที่แม้แต่ Google ยังต้องร่วมลงทุน

Dunzo สตาร์ทอัพที่ต้องการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการจราจรในอินเดีย มีความน่าสนใจและสร้างความแตกต่างได้อย่างไร จนทำให้ Google ยังอดใจไม่ไหวที่จะควักกระเป๋าร่วมลงทุนด้วย Dunzo สตาร์อัพที่เสนองานบริการในการจัดส่งสิ่งของทุกอย่างที่คุณต้องการ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อของจากร้านขายของชำ การซื้อยาจากร้านขายยา การไปเอาโทรศัพท์มือถือที่ลืมไว้ที่บ้าน หรือแม้แต่จะให้เอาเสื้อผ้าไปซัก ทั้งหมดนี้คืองานของ Dunzo ที่มีพนักงานหลายพันคนพร้อมให้บริการภายใต้หมวกกันน็อกสีเขียวและโลโก้สายฟ้า Kabeer Biswas ผู้ก่อตั้งกล่าวถึงจุดเริ่มต้นของเรื่องนี้ว่า มันเกิดขึ้นตอนที่เขาย้ายไปที่บังกาลอร์ ในปี 2014 เขาพบกับปัญหามากมายรอบตัวเขา จึงมีความคิดอยากจะได้ “มือวิเศษ” ที่จะคอยช่วยทำนู้นทำนี่ให้ เขาจึงเริ่มต้นจากการตั้งกลุ่มบน WhatsApp เพื่อเป็นเวทีของการร้องขอให้มือวิเศษช่วย เริ่มต้นจากงานง่ายๆ อย่างการซื้อเสบียงอาหาร การช่วยเปลี่ยนแบตเตอรี่รถยนต์ ไม่นานมันก็กลายเป็นที่กล่าวขานและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว จนเมื่อโทรศัพท์ของเขาล้นทะลักไปด้วยข้อความ เขาจึงต้องทำการยกระดับของบริการให้ใหญ่ขึ้นด้วยการสร้างแพลตฟอร์มใหม่ขึ้นมา Donzo ถูกสร้างขึ้นมาด้วยผู้ร่วมก่อตั้ง 3 คน บริษัทมีธุรกรรมให้ทำมากกว่า 2 ล้านรายการต่อเดือน จากการให้บริการใน 9 เมืองของอินเดีย ตอนเริ่มต้นเป็นการใช้จักรยานก่อนจะพัฒนาไปสู่ยานพาหนะอื่น Dunzo เรียกเก็บเงินจากลูกค้าตามภารกิจและระยะทาง แต่ค่าใช้จ่ายในการจัดส่งโดยเฉลี่ยน้อยกว่า 1 ดอลลาร์ ทำให้รายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทต้องเอามาจากค่าคอมมิชชั่นของธุรกิจ 12,000 แห่งที่เรียกใช้บริการของบริษัท สิ่งที่ทำให้ Dunzo […]

Bounce สตาร์ทอัพสกู๊ตเตอร์เช่าในอินเดียกำลังมาแรง

Bounce สตาร์ทอัพจากบังกาลอร์ที่ดำเนินกิจการสกู๊ตเตอร์ไฟฟ้าและน้ำมันมากกว่า 17,000 คันใน 36 เมืองของอินเดียได้รับการระดมทุนประมาณ 150 ล้านดอลลาร์ เป็นเครื่องยืนยันความนิยมได้เป็นอย่างดี จุดเด่นของ Bounce อยู่ที่การให้ลูกค้าเช่าสกู๊ตเตอร์ในราคาเพียง 1 รูปี (0.1 เซนต์) ต่อกิโลเมตร และแบบจ่าย 1.5 รูปีต่อชั่วโมง สะดวกตรงที่เมื่อเลิกใช้ก็ให้จอดในจุดจอดที่เตรียมไว้จำนวนมากมาย ด้วยราคาค่าเช่าที่ถูกมากขนาดนี้ กลายเป็นจุดขายของบริการสกู๊ตเตอร์เช่ารายนี้ไปเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้กำลังได้รับความนิยมและเพิ่มการรับรู้ขยายวงกว้างขึ้นเรื่อยๆ เพราะด้วยสภาพการจราจรที่แออัดการเลือกใช้สกู๊ตเตอร์เป็นทางออกที่ดีกว่ารถยนต์แน่นอน Bounce ผู้ให้บริการสกู๊ตเตอร์อัจฉริยะกำลังสร้างความท้าทายให้กับ Ola และ Uber ยักษ์ใหญ่ผู้ให้บริการแท็กซี่ตามสั่ง โดยมองว่ารูปแบบดั้งเดิมของทั้งสองรายนั้นกำลังจะถึงขีดจำกัดแล้ว โดยเฉพาะการให้บริการแท็กซี่ในเมืองใหญ่ ผู้บริการของ Bounce ให้ความคิดเห็นว่า “คุณไม่สามารถให้บริการราคาถูกได้ตราบใดที่มาพร้อมคนขับ แต่ถ้าเปลี่ยนมาเป็นสกู๊ตเตอร์คนขับรถก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็นอีกต่อไป” ซึ่งเรื่องนี้ทั้ง Ola และ Uber ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะได้ทำการสนับสนุนผู้ให้บริการด้านนี้กันบ้างแล้ว โดย Ola ให้การสนับสนุน Vogo ส่วน Uber ก็ให้การสนับสนุน Yulu ซึ่งล้วยแต่เป็นผู้ให้บริการสกู๊ตเตอร์เช่าเหมือนกัน อินเดียเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกสำหรับรถจักรยานยนต์ จากการประมาณการของอุตสาหกรรมพบว่าประชาชนมากกว่า […]

วิศวกรอินเดียผุดไอเดียช่วยโลก สร้างอิฐที่ทำจากพลาสติกรีไซเคิล

อิฐที่ทำจากพลาสติกของเขาหนึ่งก้อน ช่วยกำจัดขยะพลาสติกไปได้ 1.6 กิโลกรัม ขั้นตอนการทำไม่ได้ใช้การเผาไหม้จึงช่วยลดการส่งคาร์บอนขึ้นไปในชั้นบรรยากาศได้อีก อินเดียมีเตาเผาอิฐมากกว่า 140,000 แห่ง ตัวเลขจากงานวิจัยคาดการณ์ว่าเตาเผาเหล่านี้ทำการเผาไหม้ถ่านหินประมาณ 15 – 20 ล้านตันต่อปี สิ่งนี้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่ชั้นบรรยากาศมากกว่า 40 ล้านตัน หากลดการเผาไหม้นี้ลงได้คงช่วยลดอุณหภูมิของโลกลงไปได้ นอกจากนี้ยังพบว่าในอินเดียมีขยะพลาสติกในแต่ละวันมากกว่า 25,000 ตัน และประมาณ 40% เป็นขยะที่ถูกปล่อยทิ้งไว้ หากสามารถนำขยะพลาสติกเหล่านั้นมาใช้ทำอะไรบางอย่างก็จะช่วยลดปัญหาขยะพลาสติกไปได้ จากแนวคิดเพื่อทำการแก้ไขปัญหาทั้งสองอย่างนี้ Jadavpur Banerjee นักศึกษาคณะวิศวกรรมทำงานร่วมกับเพื่อนๆ เพื่อนำเสนอ Plastiqube อิฐทางเลือกที่ทำมาจากขยะพลาสติก ผ่านทางกิจการเพื่อสังคมที่ชื่อว่า Qube Plastiqube เกิดขึ้นจากขยะพลาสติกอย่างขวดน้ำและถุงพลาสติกที่นำมาทำความสะอาด แล้วทำการตัดเป็นชิ้นๆ เพื่อนำไปอัดเข้ากับแม่พิมพ์เพื่อให้ได้ก้อนอิฐพลาสติกออกมา ความพิเศษของอิฐชนิดนี้คือมันไม่ต้องใช้ปูนในการเชื่อมต่ออิฐแต่ละก้อน เนื่องจากตัวของอิฐมีการออกแบบมาให้คล้ายคลึงกับชิ้นส่วนของ Lego ทำให้อิฐแต่ละก้อนสามารถเชื่อมต่อกันได้เอง Plastiqube สามารถลดการใช้พลังงานได้ถึง 70 เปอร์เซ็นต์ทำให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้จำนวนมาก นอกจากนี้ตัวอิฐแต่ละก้อนช่วยกำจัดขยะพลาสติกได้มากถึง 1.6 กิโลกรัม นี่คือผลงานที่เกิดจากการพยายามแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม อย่างการปล่อยคาร์บอนไอออกไซด์และเรื่องของขยะพลาสติก หากก้อนอิฐของเขาได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ก็จะทำให้อินเดียสามารถแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมในประเทศได้ถึง 2 เรื่องเลยทีเดียว อ้างอิง: […]

Unocups แก้วกาแฟที่ได้รับการออกแบบใหม่ ช่วยลดการใช้ฝาพลาสติกได้ 100%

Unocups ผลิตผลของนักออกแบบผลิตภัณฑ์และสถาปนิก สามารถเก็บของเหลวร้อนได้โดยไม่ต้องใช้ฝาพลาสติกแบบเดิมอีกต่อไป Unocup มุ่งมั่นที่จะลดปริมาณขยะพลาสติกจำนวนกว่า 8 ล้านตันต่อปีที่ไหลลงสู่มหาสมุทร โดยแทนที่ฝาพลาสติกด้วยการออกแบบแก้วแบบใหม่ ที่พับด้านบนให้เป็นฝาได้ ทำให้ลดจำนวนของฝาพลาสติกได้ 100% ถ้ามีการใช้อย่างกว้างขวาง แก้วกาแฟได้รับการออกแบบมาเพื่อลดของเสียเป็นหลัก แต่ก็ยังคงสามารถใช้งานได้ถูกหลักสรีรศาสตร์ของแก้วทั้งหมด ส่วนที่พับเป็นฝาปิดสามารถเปิดปิดได้ง่าย และไม่มีชิ้นส่วนที่จะทำให้เกิดขยะพลาสติกแม้แต่ชิ้นเดียว ตอนนี้ความพยายามที่จะผลิตและจัดจำหน่ายแก้วกาแฟรีไซเคิลไปยังร้านกาแฟและร้านอาหาร พวกเขาได้ทำการเปิดแคมเปญ Kickstarter โดยหวังว่าจะได้ทุนระดับ 14,500 ดอลลาร์ เพื่อช่วยนำแก้วที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมนี้ออกสู่ตลาดอย่างเต็มรูปแบบ งานดีๆ แบบนี้คงต้องเข้าไปช่วยกันหน่อยแล้ว เพราะนอกเหนือจากเป็นการตัดพลาสติกออกไปแล้ว ผู้พัฒนา Unocups ยังบอกว่าการออกแบบของพวกเขายังเป็นมิตรกับผู้ใช้อีกด้วย. อ้างอิง: https://www.fastcompany.com/90433732/the-coffee-cup-gets-a-radical-desperately-needed-redesign

สตาร์ทอัพด้านหุ่นยนต์ ยกระดับการทำพิซซ่าให้กลายเป็นงานด้านบริการ

Picnic สตาร์ทอัพที่สร้างชื่อจากการใช้หุ่นยนต์ผลิตพิซซ่า ตอนนี้ได้ทำการระดมทุนเพิ่มเพื่อก้าวเข้าสู่ขั้นตอนของการรับผลิตอาหารให้กับร้านค้าต่างๆ ที่ไม่ต้องการลงทุนเรื่องของหุ่นยนต์ Picnic เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องของระบบประกอบพิซซ่าอัตโนมัติ ที่ทำการเปิดตัวไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ได้พัฒนาต่อเนื่องให้กลายเป็นแพลตฟอร์มการผลิตพิซซ่าจำนนวนมาก ในรูปแบบที่สามารถกำหนดการตั้งค่าในการผลิตได้แล้ว โดยสามารถเลือกได้ว่าจะผลิดพิซซ่าขนาด 18 นิ้ว ในความเร็ว 180 ถาดต่อชั่วโมง หรือจะเป็นขนาด 12 นิ้ว ในความเร็ว 300 ถาดต่อชั่วโมง นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาการออกแบบให้ใช้พื้นที่ในห้องครัวได้อย่างเหมาะสม สามารถติดตั้งบน food trucks และร้านแล้วตู้ kiosks ได้ด้วย ล่าสุดเปิดบริการแบบ “Robotics-as-a-Service” โดยให้ลูกค้าเลือกที่จะทำการสมัครสมาชิกเพื่อใช้บริการหุ่นยนต์ทำพิซซ่า โดยไม่ต้องทำการซื้อและลงทุนทั้งระบบ อ้างอิง: https://techcrunch.com/2019/11/19/robotics-startup-picnic-known-for-its-automated-pizza-assembly-system-raises-5-million/

ปืนยิงแมลงวัน สตาร์ทอัพที่เริ่มต้นจากความสนุก จนกลายเป็นเศรษฐีเงินล้าน

ทางออกสำหรับคนที่มีแมลงวันเป็นเจ้ากรรมนายเวร ไม่ว่าจะทำอะไรอยู่ที่ไหนก็มักจะโดนมันตามไปรบกวนอยู่เสมอ ทางออกของเรื่องนี้มีอยู่ทางเดียวคือ ยิงมันทิ้งซะ Lorenzo Maggiore ชายหนุ่มผู้มีหัวใจของความเป็นเด็กอยู่ตลอดเวลา เขาต้องการแก้ไขปัญหาแมลงรบกวน จึงทำการประดิษฐ์ “ปืน” ที่ใช้เกลือเป็นลูกกระสุนขึ้นมา สาเหตุที่ใช้เกลือเพราะว่ามันปลอดภัยไม่ว่าคุณจะยิงแมลงวันที่จุดใดของบ้าน ไม่ว่าจะเป็นบนโต๊ะอาหาร ห้องครัว หรือแม้แต่ในห้องนอน ก็ทำได้โดยไม่มีสารพิษตกค้าง Bug-A-Salt คือปืนที่ใช้ยิงแมลงวันที่มีราคา 40 ดอลลาร์ ใช้เกลือเป็น buckshot เพื่อทำการหยุดหรือฆ่าแมลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งแมลงวัน ความรุนแรงของมันไม่ได้ทำให้แมลงแตกออกเป็นชิ้นๆ มันเพียงแค่ทำให้มันมึนงงและย้ายออกไปจากพื้นที่ของคุณเท่านั้น ในปี 2018 Bug-A-Salt ขายได้ไปแล้ว 1 ล้านเครื่อง นั่นหมายถึงยอดขายจำนวน 40 ล้านดอลลาร์ ถือว่าเป็นยอดขายที่ไม่น้อยเลยทีเดียว แต่กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้เขาก็ต้องฝ่าฟันอะไรมาเยอะไม่ใช่น้อย จุดเริ่มต้นมันมาจากเมื่อ 10 ปีก่อนหน้านี้ ด้วยการข้ามน้ำข้ามทะเลไปเมืองจีนเพื่อทำการผลิตปืนยิงแมลงของเขา ทั้งๆ ที่ยังไม่มีแผนการตลาดใดๆ ร้อนถึงเพื่อนๆ ต้องมาคอยช่วยให้เริ่มต้นเปิดโครงการใน Kickstarter แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะผู้คนที่เข้ามาดูคลิปส่วนใหญ่คิดว่าเขาทำเล่นๆ ไม่ได้จริงจังอะไรมากมาย แล้วเขาก็สามารถระบายสินค้าที่ส่งมาจากโรงงานในจีนได้ด้วยการทำคลิปลงไปที่ Indiegogo วิดีโอต้นฉบับมีการชมมากกว่า 3.5 ล้านครั้ง ในที่สุด Bug-A-Salt […]

สตาร์ทอัพในซีแอตเทิลกำลังทำการสร้างกาแฟพันธุ์ใหม่ “กาแฟไร้เมล็ด”

Atomo สตาร์ทอัพแนวใหม่ที่ต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องของรสชาติกาแฟที่เปลี่ยนตามสภาพภูมิอากาศ ให้กลายเป็นกาแฟที่มีรสชาติคงที่ โดยผ่านกระบวนในห้องทดลอง งานนี้อาจจะไม่ต้องปลูกต้นกาแฟกันอีกเลย สองผู้ก่อตั้ง Andy Kleitsch และ Jarret Stopforth มีความต้องการที่จะสร้างกาแฟที่สมบูรณ์แบบให้กับผู้บริโภค โดยมีความต้องการสร้างกาแฟที่แท้จริงที่มีรสชาติคงที่ ไม่ต้องกังวลเรื่องระดับความสูงต่ำของพื้นที่ปลูก หรือความร้อนหนาวของอากาศที่กำลังเปลี่ยนแปลงอีกต่อไป นี่คือกาแฟที่เกิดจากห้องทดลองเขาเรียกมันว่า “กาแฟโมเลกุล” มันเกิดขึ้นจากกระบวนการวิศวกรรมย้อนกลับ เพื่อค้นหาสารตั้งต้นที่จะทำให้ได้กาแฟรสชาติต่างๆ ได้โดยที่ไม่ต้องทำการปลูกต้นกาแฟจริงๆ เพราะมีผลการศึกษาออกมาว่าการที่อุณหภูมิของโลกเปลี่ยน จะส่งผลให้กาแฟหลายชนิดอาจสูญพันธุ์ วิธีการนี้คือหนึ่งในรูปแบบของการเก็บรักษารสชาติกาแฟจากที่ต่างๆ เอาไว้ Atomo ทำการทดลองมากมายหลายร้อยครั้งเพื่อค้นหาสิ่งที่เรียกว่า “องค์ประกอบหลักของกาแฟ” แล้วทำการสร้างกาแฟของพวกเขาขึ้นมาจากสินค้าเกษตรชนิดอื่นอย่าง เมล็ดทานตะวัน, เมล็ดแตงโม, อะคาเซีย และคาเฟอีนธรรมชาติ จากการทดสอบกับผู้คนทั่วไปพบว่า ส่วนใหญ่จะบอกว่ามันมีรสหวานมากกว่ากาแฟแบบ cold brews ที่วางขายทั่วไป ซึ่ง Atomo บอกว่ารสหวานเป็นความตั้่งใจที่ทำออกมา เพราะผู้คนส่วนใหญ่ยังคงเติมน้ำตาลลงในกาแฟของพวกเขา Atomo วางแผนที่จะจัดส่งกาแฟแบบ cold brews ชุดแรกให้กับผู้ร่วมลงทุนใน Kickstarter ในต้นปี 2020 และหวังว่าจะเริ่มวางขายในกลางปีหน้า อ้างอิง: https://www.cnbc.com/2019/11/16/atomo-a-seattle-start-up-is-out-to-reverse-engineer-the-coffee-bean.html

สตาร์ทอัพแนวคิดใหม่ ที่ต้องการย้ายคนทำงานออกจากซิลิคอนวัลเลย์

ซิลิคอนวัลเลย์เป็นแหล่งรวมบริษัทไฮเทค ที่มักจะจ้างคนทำงานด้วยเงินเดือนสูง แต่ผลกระทบที่ตามมาก็คือมันทำให้ค่าครองชีพในซานฟรานซิสโกพุ่งขึ้นสูงตามไปด้วย โดยเฉพาะเรื่องของราคาที่อยู่อาศัยที่เป็นปัญหาใหญ่มานานแล้ว MainStreet สตาร์ทอัพพันธุ์ใหม่ ที่ต้องการแก้ไขปัญหาของการเดินทางเข้ามาทำงานในเมือง โดยนำเสนอวิธีการของการทำงานแบบ Remote ให้กับผู้คน โดยตั้งใจเอาไว้ว่าผู้คนควรจะได้ทำงานที่บ้านแต่ได้รับเงินเดือนระดับซิลิคอนวัลเลย์ MainStreet พยายามที่จะจับคู่ผู้เข้าร่วมโครงการที่เต็มใจที่จะย้ายไปนอกเมืองที่ที่มีค่าครองชีพน้อยกว่า โดยมีนายจ้างยินดีที่จะมีพนักงานที่ทำงานจากระยะไกล หากความร่วมมือนี้ประสบความสำเร็จมากขึ้นจะทำให้เมืองเล็กๆ ในอเมริกามีการเติบโตทางเศรษฐกิจ สิ่งที่น่าสนใจมากที่สุดตอนนี้คือ MainStreet เสนอเงื่อนไขการได้รับเงิน 10,000 เหรียญ สำหรับการย้ายไปทำงานยังเมืองเล็กๆ และยังคงได้รับเงินเดือนเท่ากับการทำงานในซิลิคอนวัลเลย์ แต่คนที่เข้าร่วมโครงการนี้จะต้องทำงานให้ครบ 12 เดือน เงิน 10,000 เหรียญถึงจะถูกโอนเข้าบัญชี แน่นอนว่าต้องเป็นการทำสัญญาว่าจ้างระหว่างบริษัทและพนักงานที่ผ่านการจับคู่ของ MainStreet เท่านั้น นอกจากการจับคู่พนักงานกับบริษัทให้แล้ว ยังมีการฝึกอบรมให้พนักงานสามารถใช้เครื่องมือที่จะช่วยในการทำงานจากระยะไกลให้อีกด้วย นี่คงเป็นคำตอบและทางออกสำหรับเมืองใหญ่ๆ ที่มีปัญหาเรื่องค่าครองชีพและการจราจรที่ติดขัด เปลี่ยนชีวิตที่ต้องอยู่บนถนนวันละไม่น้อยกว่า 4 ชั่วโมงต่อวัน ให้เป็นวันสบายๆ ที่คุณพร้อมจะทำงานทันทีที่ตื่นนอนดีกว่า อ้างอิง: https://edition.cnn.com/2019/11/13/business/mainstreet-silicon-valley-trnd/index.html

สตาร์ทอัพเสนอแผนกู้โลก ด้วยการจับเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาทำวอดก้า

สตาร์ทอัพรายนี้เสนอแผนกอบกู้เรื่องอุณหภูมิของโลกที่สูงขึ้นเรื่อยๆ โดยการจับเอาตัวการอย่างก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาทำการหมักเพื่อให้เกิดเอทานอลเกรดดี แล้วนำไปผลิตวอดก้าเกรดพรีเมี่ยม งานนี้โลกจะหยุดร้อนขึ้น แต่คนดูเหมือนจะเมาหนักกว่าเดิม บริษัทนี้มีชื่อว่าแอร์ กำลังมองหาวิธีการที่จะยกระดับเครื่องดื่มใหม่ผ่านโรงกลั่นในบรูคลิน พวกเขาได้คิดค้นวิธีการในการจับเอาก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาทำการผลิตเป็นวอดก้าชั้นดี โดยวอดก้าที่พวกเขาผลิตได้ 1 ขวดนั้นสามารถกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 1 ปอนด์ ผู้ก่อตั้งบริษัทกล่าวถึงไอเดียนี้ว่า แทนที่จะนำสิ่งที่ผลิตได้อย่างเอทานอลเข้าสู่ตลาดของอุตสาหกรรมเชื้อเพลิงหรืออื่นๆ เรากำลังมองไปที่การสร้างมูลค่าเพิ่มของสิ่งที่เราผลิตได้ เอทานอลบริสุทธิ์ของเรามันเหมาะมากที่จะนำไปทำเป็นวอดก้าระดับพรีเมียม ส่วนโรงงานที่จะใช้ทำนั้นก็เน้นที่การใช้พลังงานสะอาดอย่างไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก นอกจากนี้ยังมีแผนจะกระจายโรงงานไปยังส่วนต่างๆ ที่เป็นแหล่งของการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอีกด้วย เพราะเชื่อว่าจะสามารถช่วยลดปริมาณของคาร์บอนไดออกไซด์ในพื้นที่ต่างๆ ได้เป็นอย่างดี อ้างอิง: https://www.forbes.com/sites/alexandrawilson1/2019/11/07/air-company-startup-is-fighting-climate-change-by-turning-carbon-dioxide-into-vodka-forbes-under-30

Ganaz ซอฟต์แวร์สำหรับจัดการแรงงานเกษตรกร

Ganaz สตาร์ทอัพที่ต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องของการขาดแคลนแรงงานด้านการเกษตร ซึ่งตอนนี้กลายเป็นปัญหาใหญ่ไปทั่วโลกแล้ว นี่คือ SaaS (Software as a Service) ของภาคการเกษตรอย่างแท้จริง แพลตฟอร์มของ Ganaz ช่วยให้บริษัททำการสื่อสารกับแรงงานจำนวนมากผ่านทางข้อความจากศูนย์ควบคุมกลาง นอกจากจะทำการเชื่อมต่อแรงงานเพื่อมอบงานให้แล้ว ยังมีระบบที่คอยบริหารจัดการเรื่องเงินค่าจ้างให้อีก ช่วยให้แรงงานสามารถบริหารจัดการเงินค่าแรงของตนเองได้อย่างสะดวก แน่นอนว่ามันรวมถึงการโอนเงินกลับประเทศบ้านเกิดด้วย สตาร์ทอัพรายนี้มองเห็นโอกาสอันยิ่งใหญ่ในการสร้างซอฟต์แวร์สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องทำการจ้างแรงงนา ในภาคเกษตรกรรมแรงงานจำนวนมากเป็นแรงงานต่างชาติและเข้ามาทำงานตามฤดูกาล ทุกวันนี้มีจำนวนแรงงานเหล่านี้มากขึ้นเรื่อยๆ การที่มีซอฟต์แวร์คอยบริหารจัดการจะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้น ตั้งแต่การว่าจ้างจนถึงการจ่ายค่าแรง Ganaz ได้รับการระดมทุนที่ 2.1 ล้านดอลลาร์ สำหรับการสร้างแพลตฟอร์มที่ช่วยให้บริษัทต่างๆ จัดการเรื่องของคนงานในภาคเกษตรกรรมและภาคการผลิต ตอนนี้ Ganaz มีพนักงาน 7 คนและกำลังเปิดรับคนที่มีความสามารถทางด้านวิศวกรรมซอฟต์แวร์ อ้างอิง: https://www.geekwire.com/2019/seattle-startup-ganaz-raises-cash-workforce-management-software-aimed-farmers/

Mr.Speedy สตาร์ทอัพด้านโลจิสติกส์จากรัสเซีย ขอร่วมวงบุกโลจิสติกส์ไทย

จากการเติบโตของกระแสอีคอมเมิร์ซ รวมถึงเทคโนโลยีในการสื่อสาร ทำให้การเติบโตของโลจิสติกส์ไทยกลายเป็นสิ่งที่น่าลงทุนสำหรับชาวต่างชาติ ดังจะเห็นได้ว่ามีผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์จากต่างชาติเข้ามาเปิดให้บริการหลายราย นี่ก็เป็นบริษัทต่างชาติอีกหนึ่งราย มิสเตอร์สปีดี้ ผู้ให้บริการด้านการโลจิสติกส์สัญชาติรัสเซีย ที่อยู่ภายใต้บริษัทดอสต้าวิสต้า (Dostavista) ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2012 ดำเนินธุรกิจให้บริการจัดส่งพัสดุไปรษณีย์ในประเทศรัสเซีย ปัจจุบันให้บริการด้านโลจิสติกส์ใน 11 ประเทศ ได้แก่ รัสเซีย, บราซิล, อินเดีย, เกาหลี, เม็กซิโก, ตุรกี, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, เวียดนาม และไทย มาพร้อมกับแนวคิดที่ว่า “เราจะดำเนินการจัดส่งของที่สะดวกรวดเร็ว และมีค่าใช้จ่ายถูกกว่าการออกจากบ้าน” ทำให้มีการพัฒนาเทคโนโลยีในการบริหารและจัดการโลจิสติกส์มาใช้ ทำให้สามารถส่งของถึงมือผู้รับได้ภายในวันเดียวในราคาที่ถูกลง ล่าสุดได้มีการเพิ่มทุนกว่า 500 ล้านบาท เพื่อบุกตลาดโลจิสติกส์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้ชื่อ “มิสเตอร์สปีดี้” ให้บริการในอินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, มาเลเซีย, เวียดนาม และประเทศไทย รูปแบบการบริการในประเทศไทย -รถมอเตอร์ไซค์ ราคาเริ่มต้นที่ 60 บาท-รถยนต์ ราคาเริ่มต้นที่ 190 บาท-รถปิคอัพมีและไม่มีหลังคา ราคาเริ่มต้นที่ 380 บาท โดยลูกค้าสามารถเข้าไปใช้บริการได้ที่ […]

Golfkicks สตาร์ทอัพที่จะเปลี่ยนรองเท้าทุกคู่ให้กลายเป็นรองเท้ากอล์ฟ

อะไรทำให้ Mark Cuban เจ้าพ่อ Shark Tank ยอมลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับกีฬาที่เขาไม่ชอบเอาซะเลยอย่าง Golf บางครั้งไอเดียที่เข้าท่าก็อาจจะเอาชนะความชอบส่วนตัวได้ Mark Cuban เป็นคนหนึ่งที่มีประสบการณ์เลวร้ายเกี่ยวกับการเล่นกอล์ฟ เพราะหลังจากที่ลองเล่นแล้วมันกลับทำให้เขาไม่ชอบเอามากๆ ผลสรุปที่ได้ก็คือมันเป็นกีฬาที่ใช้เวลาเปลืองมาก อีกทั้งยังทำให้เขาอารมณ์เสียได้ตลอดเวลา แต่ในรายการ Shark Tank ตอนล่าสุด เขาเลือกที่จะลงทุนมากถึง 300,000 ดอลลาร์กับ Golfkicks สตาร์ทอัพที่จะเข้ามาปั่นป่วนวงการรองเท้ากอล์ฟ Golfkicks สตาร์ทอัพที่ต้องการแก้ไขปัญหาเรื่องของความซ้ำซากจำเจของรูปแบบรองเท้ากอล์ฟ โดยการเสนอเครื่องมือที่จะทำให้รองเท้าทุกคู่สามารถใส่เข้าไปในสนามกอล์ฟได้ ด้วยการใช้เวลาเพียงไม่กี่นาที พวกเขาเข้าไปในรายการ Shark Tank เพื่อหาเงินทุน 300,000 ดอลลาร์พร้อมให้หุ้น 8% ปัญหาเรื่องของราคาที่แพงและความน่าเบื่อของการออกแบบรองเท้ากอล์ฟจะหมดไป เมื่อคุณสามารถใช้ชุดเครื่องมือของ Golfkicks ที่ขายในราคา 32 ดอลลาร์ ซึ่งมันพร้อมที่จะทำให้รองเท้าคู่โปรดของคุณกลายร่างเป็นรองเท้าสำหรับใส่เล่นกอล์ฟได้ พวกเขาบอกว่า Golfkicks สามารถทำยอดขายได้ 120,000 ดอลลาร์ ในช่วงเวลา 3 เดือน และสามารถทำยอดขายได้ถึง 1 ล้านดอลลาร์ จากการขายในปี […]

นักวิจัยของ Google สอน AI ให้รู้จักกลิ่น

เป็นเวลาหลายสิบปีที่นักวิทยาศาสตร์พยายามที่จะทำนายความสัมพันธ์ระหว่างโครงสร้างของโมเลกุลและกลิ่นของมัน ในเรื่องของสีนักวิทยาศาสตร์สามารถดูที่ความยาวคลื่นของแสงแล้วระบุได้ว่ามันคือสีอะไร แต่เมื่อพูดถึงเรื่องของกลิ่นนักวิทยาศาสตร์ไม่สามารถใช้เพียงรูปร่างของโมเลกุลเพื่อระบุกลิ่นของมันได้ นักวิจัยจาก Google Brain Team หวังว่า AI อาจจะเปลี่ยนแปลงเรื่องนี้ได้พวกเขากำลังทำการฝึกฝน AI เพื่อให้รับรู้เรื่องของกลิ่น นักวิจัยได้สร้างชุดข้อมูลเกือบ 5,000 แบบของโมเลกุล ที่ระบุว่าเป็นโมเลกุลของส่วนประกอบต่างๆ ของน้ำหอม เพื่อใช้ในการฝึกฝน AI ให้รู้จักเชื่อมโยงรูปแบบของโมเลกุลเข้ากับคำอธิบายที่พวกมันได้รับ จากนั้นนักวิจัยก็เริ่มใช้กลิ่นเพื่อทำการทดสอบ พบว่า AI สามารถทำนายกลิ่นได้จากโครงสร้างโมเลกุล อย่างไรก็ตามนักวิจัยของ Google เชื่อว่าการฝึกฝน AI เพื่อเชื่อมโยงรูปแบบของโมเลกุลกับกลิ่น เป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญ มันจะนำไปสู่ความเข้าใจเกี่ยวกับประสาทสัมผัสเรื่องกลิ่นของมนุษย์ รวมถึงวิธีใหม่ๆ ในการผลิตน้ำหอมสังเคราะห์ งานวิจัยลักษณะนี้ Google ไม่ได้ทำอยู่บริษัทเดียว ที่ Barbican Center ของกรุงลอนดอนเมื่อต้นปีที่ผ่านมานักวิทยาศาสตร์ใช้การเรียนรู้ด้วยเครื่องเพื่อสร้างกลิ่นของดอกไม้ที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ในรัสเซียมีการใช้ AI ในการดมกลิ่นของก๊าซอันตราย และ IBM กำลังทดลองใช้น้ำหอมที่ AI สร้างขึ้น อ้างอิง: https://www.engadget.com/2019/10/24/google-researchers-train-ai-smells

OneDee.ai เปิดตัวระบบ HR Chatbot รายแรกในไทย

OneDee.ai เทคสตาร์ทอัพคนไทยที่ต้องการแก้ปัญหาด้าน HR ให้กับทุกองค์กร ล่าสุดได้ทำการระดมทุนระดับ Seed ทุ่มงบกว่า 10 ล้านบาท พัฒนาแอปพลิเคชันในรูปแบบใหม่ โดยสามารถทำงานผ่าน AI Chatbot มุ่งเน้นสร้างระบบอัจฉริยะเสมือนมีผู้ช่วยส่วนตัว เพื่อการบริหารจัดการทีมงาน สื่อสารภายในบริษัท ตอบคำถามให้กับพนักงาน ลงเวลาพนักงานออนไลน์ จัดการแบบฟอร์มต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและคล่องตัวมากขึ้น หวังเป็น “สุดยอดผู้ช่วยในการดูแลพนักงานสำหรับธุรกิจ SMEs” ระบบบริหารจัดการพนักงานออนไลน์ (HRMS) ผ่าน AI Chatbot ของ OneDee.ai นั้น ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการสื่อสารและเดินทางในองค์กรได้อย่างมาก เพราะไม่ว่าพนักงานจะทำงานอยู่ที่ไหนก็สามารถพูดคุยงานได้ทุกที่ผ่านระบบแชทในองค์กร พนักงานสามารถรายงานยอดขาย หรือผลการทำงานได้อย่างตรงไปตรงมา ช่วยให้บริษัทสามารถขยายทีมงาน และขยายกิจการได้อย่างรวดเร็วไม่ติดขัด ขณะเดียวกันก็ยังทำให้องค์กรเข้าถึงพนักงานได้ง่ายขึ้น เนื่องจากผู้ใช้งานสามารถเรียกเมนูคำสั่งต่างๆ ผ่าน AI Chatbot ไม่ว่าจะเป็นการแชทคุยกับบอท เพื่อเรียกคำสั่งต่างๆ ได้เหมือนพูดคุยกับเพื่อนร่วมงานหรือทีมงานได้สะดวก ทั้งยังตอบทุกคำถามที่พนักงานสนใจ ลดความยุ่งยากในการสื่อสารในบริษัท ช่วยเทรนพนักงาน และแจ้งเตือนทีมงานด้วย Chatbot หรือแจ้งข่าวสารต่างๆ ภายในบริษัทได้อย่างรวดเร็ว เป็นแอปที่ตอบโจทย์ทุกๆ ด้านเกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานร่วมกันในทีมได้อย่างครบถ้วน ส่วนวิธีการใช้งานนั้นก็ง่ายเหมือนแอปแชทที่ทุกคนคุ้นเคยอยู่แล้ว […]

หุ่นยนต์ทำสลัด Sally ตัวเลือกอาหารเพื่อสุขภาพ 24 ชั่วโมง

นักศึกษาที่ College of the Holy Cross ได้เชฟคนใหม่ที่พร้อมจะทำการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพอย่างสลัดผักชนิดต่างๆ ให้กับนักศึกษา และที่สำคัญเขาพร้อมจะทำหน้าที่นี้ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่ว่านักศึกษาจะนอนดึกกินไม่เป็นเวลามากมายขนาดไหน Sally เอาอยู่ Sally หุ่นยนต์นักทำสลัดเป็นผลงานของ Chowbotics เริ่มทำการติดตั้งเพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักศึกษาใน College of the Holy Cross งานนี้เป็นการให้บริการอาหารเพื่อสุขภาพ ทดแทนการสั่งพิซซ่าในยามค่ำคืน หุ่นยนต์นักปรุงตัวนี้จะถูกซ่อนเอาไว้ในเครื่องหยอดเหรียญที่มาพร้อมหน้าจอสัมผัส ลูกค้าสามารถทำการเลือกส่วนผสมที่หลากหลายของสลัดที่พวกเขาต้องการ ไม่ว่าจะเป็นชนิดของผัก ชนิดของน้ำสลัด เรื่อยไปจนถึงเนื้อสัตว์ที่ต้องการ จากนั้นลูกค้าก็แค่วางชามรอ หุ่นยนต์จะเริ่มกระบวนการทำสลัดตามส่วนผสมที่ลูกค้าเลือก แล้วก็ทำการวางลงในชามที่ลูกค้าเตรียมไว้ เท่านี้ก็พร้อมเสิร์ฟแล้ว การที่ได้เลือกให้ทำการติดตั้งและใช้งานใน Holy Cross ถือว่าหุ่นยนต์ตัวนี้สอบผ่านในทุกขั้นตอน ทั้งเรื่องของความสะอาดและความมีประสิทธิภาพ ตอนนี้ Sally กำลังได้รับความนิยมมีการนำไปติดตั้งมากกว่า 70 แห่งทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายอยู่ในสถานที่ต่างๆ ที่มีความต้องการตัวเลือกของอาหารเพื่อสุขภาพแบบ 24 ชั่วโมง อ้างอิง: https://www.roboticsbusinessreview.com/news/salad-making-robot-earns-good-grades-at-holy-cross/

สตาร์ทอัพพลังงานสะอาดที่มา Refill ถึงหน้าบ้าน

Algramo สตาร์ทอัพที่เริ่มต้นธุรกิจในชิลี โดยการให้บริการ Refill สบู่และผงซักฟอก เพื่อลดการทิ้งบรรจุภัณฑ์พลาสติก ตอนนี้ธุรกิจกำลังไปได้ดีและกำลังจะบุกเข้าตลาดสหรัฐอเมริกา หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ทิ้งขวดเปล่าของสบู่เหลวและน้ำยาซักผ้าอยู่เป็นประจำ เราแนะนำว่าต่อจากนี้ไปขอให้คุณเลิกทิ้งแล้วหันมาใช้บริการของ Algramo รถสามล้อมพลังงานไฟฟ้าที่พร้อมจะวิ่งไปทำการ Refill ของที่คุณใช้หมดแล้วโดยไม่ต้องทิ้งขวดให้เป็นภาระกับโลกใบนี้ และถ้าคุณทำการเริ่มต้นซื้อพร้อมบรรจุภัณฑ์ของเขา จะทำให้คุณได้รับส่วนลดในการ Refill แต่ละครั้งผ่านทางเทคโนโลยี RFID ที่อยู่ที่ขวด ถือว่าเป็นการออกแบบที่เอาใจใส่ทั้งคนใช้และโลกใบนี้ไปพร้อมๆ กัน นี่ถือเป็นการนำเสนอวิธีแก้ปัญหาขยะจากบรรจุภัณฑ์ที่ได้ผลดีมาก และจากผลงานที่เข้าตาของ Algramo ทำให้มีกลุ่มนักลงทุนสนใจให้ทำการเปิดตลาดสู่สหรัฐอเมริกา โดยยังคงรูปแบบของการ Refill เอาไว้แต่อาจจะเพิ่มความหลากหลายของสินค้าที่จะเติมลงไปในขวดที่ใช้แล้ว งานนี้ไม่ธรรมดาถึงขนาดที่ยักษ์ใหญ่อย่าง Unilever ยังชายตามอง เพราะบริษัทก็กำลังหาทางออกสำหรับปัญหาบรรจุภัณฑ์ของตนเองเช่นกัน ว่าจะทำอย่างไรถึงจะลดการก่อให้เกิดขยะพลาสติกได้ ทางออกของการเปิดร้านที่มีสินค้าให้ Refill จึงเป็นทางออกที่น่าสนใจ ตอนนี้คนทั้งโลกกำลังหาทางออกสำหรับปัญหาขยะพลาสติดล้นโลก การที่สตาร์ทอัพได้เข้ามาช่วยแก้ไขในเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นแนวโน้มที่ดี และนี่ไม่ใช่บริษัทเดียวที่คิดแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ อ้างอิง: https://www.fastcompany.com/90416401/this-startup-is-ditching-plastic-waste-by-bringing-the-refills-to-you

อาลีบาบาเสริมแกร่งด้วยเทคโนโลยีจากสตาร์ทอัพในไต้หวัน

ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซของจีน Alibaba ได้ตกลงที่จะลงทุนในสตาร์ทอัพอย่าง Perfect Corp. นี่คือการเดิมพันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในไต้หวัน อาลีบาบากำลังเป็นผู้นำในการระดมทุนรอบใหม่สำหรับเพอร์เฟ็คคอร์ป Perfect Corp. ประกาศว่าบริษัทกำลังจัดตั้งทีมงานเชิงกลยุทธ์ร่วมกับอาลีบาบา เพื่อนำเทคโนโลยี augmented reality (AR) เข้าสู่แพลตฟอร์มออนไลน์ของอาลีบาบา แต่ไม่ได้กล่าวถึงข้อผูกมัดใดๆ ที่เกิดจากการลงทุนของบริษัทยักษ์ใหญ่จากจีนในไต้หวันครั้งนี้ อาลีบาบาจะทำการทดลองใช้เทคโนโลยี YouCam ที่ทำงานอยู่บนเทคโนโลยีเสมือนจริงของ Perfect Corp. ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้เห็นว่าการแต่งหน้าจะเป็นอย่างไร บนใบหน้าจริงของพวกเขาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์อย่างลิปสติกและอายไลเนอร์ บนแพลตฟอร์มช้อปปิ้งออนไลน์ Taobao และ Tmall ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้ Perfect Corp. สร้างความสัมพันธ์กับแบรนด์ระดับโลกและเข้าถึงตลาดความงามในประเทศจีนได้อย่างเต็มรูปแบบ นี่คือความร่วมมือเชิงกลยุทธ์แบบ win-win ที่สุดยอดมาก เป็นการเติมเต็มความสมบูรณ์แบบให้กับธุรกิจความงาม ด้วยเทคโนโลยีของสตาร์ทอัพไต้หวันจะทำให้ประสบการณ์การช้อปปิ้งของคนจีนและคนทั้งโลกเปลี่ยนไป อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-09-19/alibaba-is-said-to-invest-in-taiwanese-augmented-reality-startup

Jeff Bezos สั่งซื้อรถตู้พลัง EV 100,000 คัน จากบริษัทสตาร์ทอัพ

หลังจากที่ถูกสื่อโจมตีมาอย่างต่อเนื่องกับการวางเฉยไม่สนใจเรื่องของสิ่งแวดล้อม ก็ได้เวลาที่ Jeff Bezos เจ้าพ่อ Amazon ออกมาบอกกล่าวถึงแผนงานที่บริษัทจะทำเพื่อสิ่งแวดล้อมเสียที งานนี้จะเป็นการสั่งซื้อรถตู้พลัง EV จำนวนมากถึง 100,000 คันเลยทีเดียว Bezos กล่าวว่าเขาคาดหวังว่ารถตู้จำนวน 100,000 คันของบริษัทสตาร์ทอัพอย่าง Rivian พร้อมจะออกมาวิ่งส่งสินค้าบนถนนอย่างครบถ้วนในปี พ.ศ. 2567 โดยรถคันแรกจะเริ่มนำมาใช้งานในปี พ.ศ. 2564 ส่วนรถต้นแบบนั้นจะได้เห็นกันในปีหน้า Rivian เป็นสตาร์ทอัพที่ชื่อไม่ค่อยคุ้นหูในอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ที่ผ่านมาทำการเปิดตัวเฉพาะรถกระบะและ SUV เมื่อปลายปี 2561 แต่บริษัทได้ดำเนินโครงการลับเพื่อที่จะแข่งขันกับรถคันแรกของเทสลามาเป็นเวลานานแล้ว การที่ Amazon เข้ามาผลักดัน Rivian อย่างเป็นรูปธรรม มันย่อมแสดงให้เห็นว่าสตาร์ทอัพรายนี้มีดีไม่แพ้ใคร ไม่อย่างนั้น Amazon คงไม่ลงมาทำการสนับสนุนมากมายขนาดนี้ อย่างไรก็ตามการประกาศของ Bezos คงพอจะทำให้ทั้งโลกเห็นว่า Amazon ไม่ได้นิ่งนอนใจเรื่องของการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาวิกฤตของโลกใบนี้ อ้างอิง: https://www.theverge.com/2019/9/19/20873947/amazon-electric-delivery-van-rivian-jeff-bezos-order

Caper รถเข็นอัจฉริยะสำหรับร้านค้าปลีก

Caper สตาร์ทอัพรุ่นใหม่ที่ต้องการแก้ปัญหาในเรื่องของการคิดเงินจากการซื้อของในร้านค้าปลีก งานนี้ระบบไม่ซับซ้อนขนาดต้องเช็คราคาสินค้าตลอดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาวุ่นวายกับการต้องรอคิวในพื้นที่สำหรับการจ่ายเงิน ทุกอย่างถูกยกรวมเอาไปไว้ในรถเข็นแทน นี่ถือเป็นอีกทางออกของร้านค้าปลีกที่ไม่ต้องการลงทุนระบบใหญ่โตอย่าง AI ที่มาพร้อมกล้องเป็นร้อยๆ ตัวเพื่อทำการเช็คราคาสินค้าและจำนวนสินค้าที่มีลูกค้าหยิบออกไปจากชั้นวางของ แน่นอนว่ามันทำให้ค่าใช้จ่ายในการลงทุนด้านเทคโนโลยีลดลงไปถึง 1 ใน 10 เลยทีเดียว ทุกกิจกรรมของการเลือกซื้อสินค้าจะถูกย้ายมาอยู่ที่รถเข็นทั้งหมด ทำให้ง่ายต่อการเช็คราคาสินค้าด้วยกล้องและเซนเซอร์ในรถเข็น คุณสามารถเช็คราคาสินค้าได้โดยตรงด้วยการหยิบสินค้าลงไปในรถเข็น ระบบจะทำการแสดงราคาและยอดรวมของสินค้าที่อยู่ในรถเข็นให้เอง แน่นอนเมื่อคุณเปลี่ยนใจหยิบสินค้าออกรถเข็นก็จะทำการคำนวณราคาสินค้าใหม่ให้เอง ด้วยเทคโนโลยีนี้สามารถช่วยกลุ่มร้านค้าปลีกสามารถทำการเช็คเอาท์ได้อย่างราบรื่นมากขึ้น ส่วนรายละเอียดหรือการต่อยอดอื่นๆ สามารถทำเพิ่มเติมผ่านทางหน้าจอที่ติดอยู่กับรถเข็น แบบนี้ก็สะดวกดีเหมือนกัน อ้างอิง: https://techcrunch.com/2019/09/10/smart-grocery-cart-startup-caper-bags-10-million/

แบตเตอรี่ของ Tesla ช่วยรักษาเศรษฐกิจของซิมบับเว

ท่ามกลางสถานการณ์กระแสไฟฟ้าดับยาวนานถึง 18 ชั่วโมงต่อวัน Econet Wireless Ltd. ซึ่งเป็นผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือรายใหญ่ที่สุดของซิมบับเวได้หันมาพึ่งพา บริษัทด้านพลังงานที่สามารถเก็บรักษาได้เอาไว้ในแบตเตอรี่ เพราะหากปล่อยให้ไฟฟ้าดับมันจะกระทบถึงการทำธุรกรมทางการเงินทั้งหมดของประเทศ ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัล การสื่อสารโทรคมนาคมคือส่วนสำคัญของเศรษฐกิจ หากเครือข่ายโทรคมนาคมไม่ทำงานในซิมบับเว ผู้คนก็จะไม่สามารถทำธุรกรรมใดๆ ได้เลย การติดตั้งแบตเตอรี่ Powerwall ซึ่งเป็นสถานีที่ใหญ่ที่สุดที่ Tesla ได้เข้าร่วม ทำให้ช่วยลดปัญหาการขาดแคลนพลังงานไฟฟ้าไปได้ รูปแบบของความสำเร็จนี้กำลังถูกขยายออกไปยัง แซมเบียและคองโก สถานีฐานในซิมบับเวแบบเดิมใช้เครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบดีเซล แต่เรื่องของเชื้อเพลิงก็มีปัญหาเรื่องการขาดแคลนอยู่เหมือนกัน คำตอบจึงมาอยู่ที่การใช้แผงพลังงานแสงอาทิตย์ โดยทำการผลิตกระแสไฟฟ้าในเวลากลางวัน และทำการเก็บเอาไว้ในแบตเตอรี่เพื่อนำไปใช้ในเวลากลางคืน ซึ่งมันจะสามารถจ่ายพลังงานให้สถานีได้ต่อเนื่องถึง 10 ชั่วโมง เทสลาทำงานร่วมกับบริษัทโทรคมนาคมหลายแห่งทั่วโลก และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการรวมกันของแผงโซลาร์เซลล์และที่เก็บแบตเตอรี่ นี่เป็นโอกาสที่ดีในการขยายธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั่วโลก อ้างอิง: https://www.bloomberg.com/news/articles/2019-09-01/tesla-batteries-are-keeping-zimbabwe-s-economy-running

ผู้สูงวัยตกเป็นเป้าหมายของการแชร์ Fake News

เพจ Start ให้ Up ระบุผู้สูงวัยใช้สื่อโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการรับข้อมูลข่าวสารเพิ่มมากขึ้น Line ยังคงเป็นช่องทางยอดนิยมในการใช้สื่อสารกับคนรอบตัว ทุกวันนี้เรื่องของ Fake news กลายเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก คนใกล้ตัวผู้สูงวัยควรให้ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ ทางที่ดีก็ต้องให้ชัวร์ก่อนไลก์ ต้องใช่ก่อนแชร์ ปัจจุบันสื่อออนไลน์กลายเป็นช่องทางหลักในการติดต่อสื่อสาร รับส่งข้อมูลข่าวสารแบบเรียลไทม์ จากข้อมูลการใช้งานสื่อออนไลน์ พบว่ามีผู้ใช้งานสื่อโซเชียลมีเดียมากกว่า 50 ล้านคน และอยู่ในทุกระดับของสังคมไทย เฉพาะ Facebook ที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากเป็นอันดับ 8 ของโลก และเข้าใช้งานทุกวัน (Daily active users) มากกว่า 37 ล้านคน และในปีที่แล้วคนไทยมีการใส่ข้อความลงในสื่อโซเชียลมีเดียมากกว่า 5.3 พันล้านข้อความ และเป็นรูปภาพกว่า 230 ล้านภาพ โดยกลุ่มผู้สูงวัยมีการใช้เพิ่มมากขึ้น เพื่อสามารถติดต่อสื่อสารกับเพื่อนและลูกหลานได้ง่ายขึ้น ที่นิยมใช้กันมากที่สุดคือ Line, Facebook และ Youtube ตามลำดับ โดย Line ใช้เป็นช่องทางหลักในการสื่อสารกับญาติมิตร และมีพฤติกรรมเข้าใช้งานเป็นประจำ ส่วนช่องทาง Facebook จะใช้ในการอ่านข้อมูลข่าวสารและเรื่องทั่วไป สำหรับ […]

Domino เปิดบริการส่งพิซซ่าด้วย “จักรยานไฟฟ้า” เพื่อให้รวดเร็วขึ้น แก้ปัญหารถติด

หากใครอาศัยอยู่ที่สหรัฐฯ และสั่งพิซซ่าจาก Domino คุณอาจจะเห็นบริการการส่งสินค้าที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนนั่นคือ การใช้จักรยานไฟฟ้า แทนที่มอเตอร์ไซด์ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงสภาวะรถติด แบรนด์พิซซ่า Domino ประกาศความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์อย่าง Rad Power Bikes สตาร์ทอัพ electric cycle ซึ่งจะเข้ามาช่วยจัดหา e-bike ให้กับแฟรนไชส์พิซซ่า Domino เพื่อใช้ส่งอาหารแทนที่ยานพาหนะอื่นๆ โดยเจ้าของร้านแฟรนไชส์ Domino จะมีสิทธิ์เลือก e-bike ซึ่งมีราคาราว 1,400 ดอลลาร์สหรัฐฯ (43,092 บาท) อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนยานพาหนะส่งพิซซ่ามาเป็น e-bike ไม่ได้เป็นการบังคับ แต่ตามรายงานอ้างถึง Brian Rinckenberger ผู้อำนวยการฝ่ายการค้า Rad Power Bikes กล่าวว่า e-bike เป็นตัวเลือกที่น่าดึงดูดสำหรับแฟรนไชส์ Domino เพราะว่าช่วยเร่งเวลาในการจัดส่งได้เร็วขึ้น และสร้างโอกาสในการจัดส่งอาหารจำนวนมาก สำหรับ การจัดส่งแบบ e-bike ของ Domino จะเริ่มต้นให้บริการในฮุสตัน, ไมอามี่ และนิวยอร์ค […]

สตาร์ทอัพหุ่นยนต์ส่งของอัตโนมัติ เน้นเจาะตลาดกลุ่มนักศึกษาในมหาวิทยาลัย

เปิดเทอมใหม่นี้นักศึกษาและอาจารย์ ใน George Mason และ Northern Arizona จะได้สัมผัสกับประสบการณ์ใหม่ในการสั่งอาหารและซื้อของ พวกเขากำลังจะได้รับบริการจากหุ่นยนต์ 6 ล้อ ตัวเล็กๆ ที่อาจจะวิ่งไปมาเต็มมหาวิทยาลัย สตาร์ทอัพด้านหุ่นยนต์อย่าง Starship Technologies ซึ่งเป็นสตาร์ทอัพในซานฟรานซิสโกประกาศว่า บริษัทเพิ่งได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มเติมอีก 40 ล้านเหรียญ และมีแผนที่จะส่งหุ่นยนต์ส่งของจำนวนหลายพันตัวไปยังมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐอเมริกาในอีกสองปี การลงทุนใหม่นี้ Starship เน้นกลุ่มเป้าหมายไปยังมหาวิทยาลัยมากขึ้น เพราะเชื่อว่านักศึกษาเป็นกลุ่มคนที่เติบโตมาในยุคของเทคโนโลยี พวกเขาพร้อมที่จะเรียกใช้บริการหุ่นยนต์ส่งของผ่านทางสมาร์ทโฟน ด้วยการกดหน้าจอเพียงไม่กี่ครั้ง พิซซ่าถาดใหญ่ก็พร้อมจะมาเสิร์ฟให้ทันที หุ่นยนต์อัตโนมัติหกล้อของ Starship พร้อมที่จะเสิร์ฟอาหารและส่งสินค้าแล้วใน มหาวิทยาลัย George Mason และมหาวิทยาลัย Northern Arizona ของรัฐแอริโซนา ส่วนมหาวิทยาลัยอื่นๆ นั้นภายใน 2 ปีข้างหน้าจะทยอยได้ใช้งานกันอย่างแน่นอน อ้างอิง: https://futurism.com/the-byte/starship-delivery-robots-deployment

จาก “ติวเตอร์” สู่ “มหาเศรษฐี” เส้นทางความสำเร็จของหนุ่มวัย 37 จากอินเดีย

“สตาร์ทอัพ” อาจเป็นอาชีพในฝันของหนุ่มสาวรุ่นใหม่ทั่วโลก ที่อยากจะเป็นเจ้าของธุรกิจของตัวเองบนโลกในปัจจุบันที่ต้องเรียกว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้” และจากคนธรรมดาเดินดิน อาจจะกลายเป็นเศรษฐีได้ในชั่วพริบตา เพียงแค่มีไอเดียบวกความพยายาม ก็สามารถจะใช้เป็นแรงขับเคลื่อนไปสู่ความสำเร็จในชีวิตได้ไม่ยาก Byju Raveendran หนุ่มอินเดียในวัย 37 ปีก็เป็นหนึ่งในนั้น และจากความรู้ความพยายามในการพัฒนาแอปลิเคชันของเขาที่ข้องเกี่ยวกับ “การศึกษา” ก็ผลักดันเขาให้เข้าทำเนียบ “มหาเศรษฐีคนล่าสุด” ในทันที แอปพลิเคชัน “Byju’s – The Learning App” ที่เขาในฐานะต้นคิดร่วมกันกับเพื่อน ปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 5,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยราว 1.88 แสนล้านบาท และมันทำให้ทรัพย์สินส่วนตัวของ Raveendran ผู้นี้เกินกว่า 1 พันล้านดอลล่าห์สหรัฐฯ หรือทะยานเกิน 3 หมื่นล้านบาท เงินมูลค่าเป็นหมื่นล้าน แสนล้านบาท ทั้งหมดนี้เขาใช้ระยะเวลาเพียงแค่ 7 ปีเท่านั้น 7 ปีที่เขาและเพื่อนร่วมกินนอนพัฒนา Byju’s ขึ้นมา และการระดมทุนครั้งใหญ่รอบล่าสุดมันทำให้โลกธุรกิจ โลกออนไลน์ต้องหันมาสนใจชายจากอินเดียผู้นี้ เพราะกวาดเงินทุนจากการระดมไปมากถึง 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือเกือบๆ 5,000 […]

UPS ใช้รถบรรทุกอัตโนมัติส่งสินค้ามานานแล้ว แต่ไม่มีใครรู้

ยูพีเอสออกมายอมรับว่า ได้ร่วมลงทุนกับบริษัทสตาร์อัพด้านรถบรรทุกอัตโนมัติ TuSimple และได้ทำการทดสอบการทำงานของรถบรรทุกที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง ที่ใช้ในการส่งสินค้าของ UPS ในระยะทาง 115 ไมล์ระหว่างฟินิกซ์และทูซอน ยูพีเอสยืนยันกับ Gizmodo นี่เป็นครั้งแรกที่ยูพีเอสได้ประกาศว่าได้ใช้รถบรรทุกแบบอัตโนมัติของ TuSimple เพื่อส่งพัสดุภัณฑ์ และมีการใช้มาเป็นเวลาหลายเดือนแล้ว โดยการใช้งานระบบอัตโนมัติยังเป็นการใช้งานในส่วนของเส้นทางหลักระหว่างเมืองเท่านั้น นอกจากนี้ยังมีพนักงานขับนั่งอยู่หลังพวงมาลัย เพื่อทำการขับรถในส่วนที่มีความซับซ้อนของเส้นทางการเดินทาง TuSimple อ้างว่าการใช้รถบรรทุกของบริษัท สามารถลดต้นทุนการขนส่งโดยเฉลี่ยได้มากถึง 30 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งการร่วมลงทุนกับ UPS Ventures ไม่มีการบอกรายละเอียดของผลประโยชน์ในการร่วมลงทุนแต่อย่างใด TuSimple บอกว่าการพัฒนาในระยะต่อไป จะเป็นการเพิ่มความสามารถของรถบรรทุกในส่วนของการไปส่งของยังจุดหมายปลายทางได้อย่างสมบูรณ์ เป้าหมายคือรถจะต้องทำการขนส่งได้เองโดยไม่ต้องมีใครนั่งไปด้วย เพราะตอนนี้การขนส่งยังคงมีวิศวกรและพนักงานขับรถนั่งอยู่ในรถขณะทำการส่งของ อ้างอิง: https://gizmodo.com/ups-has-been-delivering-cargo-in-self-driving-trucks-fo-1837272680

J Loan Lite สินเชื่อสำหรับ “คนดี” บนบล็อกเชน

เจ เวนเจอร์ส เปิดเผยว่า แผนการพัฒนาระบบสินเชื่อแบบดิจิทัลที่ไม่มีตัวกลาง JFIN DDLP (Decentralized Digital Lending Platform) บนเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) แล้วเสร็จก่อนกำหนดพร้อมใช้งานแล้ววันนี้ นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาแพลตฟอร์ม “ป๋า มาร์เก็ตเพลส” (PAH Marketplace) ให้สมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น เพื่อรองรับผลิตภัณฑ์การกู้ยืมในรูปแบบฟินเทคที่หลากหลาย ทั้งจากของ JVC และของพันธมิตร พร้อมกันนี้ได้เปิดตัวสินเชื่อรูปแบบใหม่ “J Loan Lite” เป็นสินเชื่อรูปแบบ B2P หรือ Business to Person ผ่านระบบออนไลน์แบบไม่ผ่านตัวกลาง เพิ่มทางเลือกให้ลูกค้าในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวก รวดเร็ว ด้วยอัตราดอกเบี้ยสูงสุดไม่เกิน 15% ต่อปี และค่าธรรมเนียมการกู้ที่ต้องจ่ายให้แพลตฟอร์ม 30 บาท มีจุดเด่นในเรื่องความน่าเชื่อถือโปร่งใสและปลอดภัย โดย บริษัท เจ เวนเจอร์ส จำกัด หรือ JVC ในฐานะผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม ร่วมมือกับ บริษัท เจ ฟินเทค […]

5 นวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์คุณแม่ยุคใหม่

เพื่อช่วยให้การดูแลลูกๆ ของบรรดาคุณแม่ยุคใหม่ ให้มีความสนุก ง่าย และทันสมัยมากกว่าที่เคย วันนี้จึงพาไปทำความรู้จักกับ 5 นวัตกรรมที่จะช่วยให้การดูแลลูกกลายเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น โดยนวัตกรรมเหล่านี้ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA นมป้องกันฟันผุ เริ่มกันที่ ปัญหาสุขภาวะในช่องปาก โดยเฉพาะปัญหา “ฟันผุ” ซึ่งมักจะพบในกลุ่มเด็กเล็กที่ชอบรับประทานขนมแต่มักจะแปรงฟันไม่สะอาด “นมป้องกันฟันผุแดรี่โฮม” ถือเป็นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ช่วยลดปัญหาดังกล่าว โดยมีการคัดเลือกจุลินทรีย์สายพันธุ์ที่มีต้นกำเนิดจากช่องปากของคน (Lactobacillus paracasei SD1) มาประยุกต์เป็นผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพช่องปากในรูปแบบต่างๆ เช่น นมอัดเม็ด โยเกิร์ต นมเปรี้ยวพร้อมดื่ม โดยมีคุณสมบัติทั้งการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อ Streptococcus Mutans และ Streptococcus Sobrinus แบคทีเรียซึ่งเป็นสาเหตุของฟันผุ อีกทั้งช่วยกระตุ้นภูมิคุ้มกันในน้ำลาย และควบคุมจำนวนเชื้อก่อโรคฟันประเภทต่างๆ ให้สามารถคงอยู่ในช่องปากเพื่อกำจัดแหล่งเชื้อฟันผุได้นาน พร้อมเกาะติดเยื่อบุผิวในช่องปากได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ นวัตกรรมดังกล่าวถือเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับสุขภาพช่องปาก โดยเฉพาะลดการสูญเสียฟันก่อนวัยอันควรในกลุ่มเด็กเล็ก ทั้งยังสามารถดูแลรากฟันตั้งแต่ยังเป็นฟันน้ำนมไปจนถึงฟันแท้ได้เลยทีเดียว แอปพลิเคชันแก้ปัญหาจราจรหน้าโรงเรียน หมดปัญหาการรับส่งหลังเลิกเรียนไปกับ คิดส์อัพ แอปพลิเคชันแก้ปัญหาจราจรหน้าโรงเรียน การรับลูกหลังเลิกเรียนเป็นอีกหนึ่งกิจวัตรที่คุณแม่หลายคนประสบปัญหาทั้งการสูญเสียเวลาและความเครียดที่เกิดจากการจราจร มลพิษจากยานยนต์ รวมทั้งการวนรถหรือการจอดรถรอบริเวณโรงเรียน แต่อุปสรรคเหล่านี้กำลังจะหมดไป เพราะแอปพลิเคชันคิดส์อัพจะช่วยให้คุณแม่สามารถรับลูกๆ โดยที่ไม่มีการจอดรถรอ […]

สหรัฐฯ ตรวจสอบ เฟซบุ๊ก หวั่นซื้อกิจการอื่นเพื่อทำการผูกขาด

หนังสือพิมพ์วอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FTC) กำลังสอบสวนว่า การที่บริษัทเฟซบุ๊ก อิงค์เข้าซื้อกิจการบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีนั้น มีเป้าหมายเพื่อที่จะซื้อกิจการที่อาจจะกลายเป็นคู่แข่งของบริษัทในอนาคตหรือไม่ รายงานระบุว่า การซื้อกิจการของเฟซบุ๊กเป็นเป้าหมายหลักของการตรวจสอบ โดย FTC จะพิจารณาว่า การที่เฟซบุ๊กเข้าซื้อกิจการของบรรดาบริษัทสตาร์ทอัพด้านเทคโนโลยีนั้น ก็เพื่อสกัดกั้นไม่ให้บริษัทเหล่านั้นกลายมาเป็นคู่แข่งกับเฟซบุ๊กหรือไม่ ข้อมูลจาก S&P Global ระบุว่า เฟซบุ๊กซึ่งเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์รายใหญ่ที่สุดของโลกได้ซื้อบริษัทเกือบ 90 แห่งแล้วนับตั้งแต่ปี 2546 โดยบริษัทเหล่านั้นรวมถึง WhatsApp ซึ่งให้บริการส่งข้อความ และ Instagram ซึ่งเป็นแอปแชร์รูปภาพ ซึ่งทั้งคู่ได้เติบโตขึ้นเป็นบริษัทสื่อสังคมออนไลน์ได้ด้วยตัวเอง เฟซบุ๊กเปิดเผยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า FTC ได้เปิดฉากการสอบสวนกรณีต่อต้านการผูกขาดตลาดในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา โดยพิจารณาเกี่ยวกับบริการเครือข่ายสังคมและสื่อสังคม, การโฆษณาระบบดิจิทัล และแอปพลิเคชันออนไลน์บนมือถือ กระทรวงยุติธรรมสหรัฐระบุเมื่อวันที่ 23 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า ทางกระทรวงได้เปิดการสอบสวนบรรดาบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัลรายใหญ่ เพื่อตรวจสอบว่าบริษัทเหล่านั้นมีการปฏิบัติที่เป็นการต่อต้านการแข่งขันหรือไม่ ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนว่า รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังเพิ่มการตรวจสอบอุตสาหกรรมดังกล่าว

Rent the Backyard สตาร์ทอัพที่ชวนคุณสร้างรายได้จากสวนหลังบ้าน

นั่นคือข้อเสนอจากสตาร์ทอัพที่ต้องการแก้ไขปัญหาราคาของที่พักในซานฟรานซิสโกที่พุ่งทะยานอย่างต่อเนื่องตั้งแต่มี Silicon Valley ขึ้นมา นี่คือการลงทุนที่น่าสนใจมาก สตาร์ทอัพรายนี้ยื่นข้อเสนอที่น่าสนใจให้กับเจ้าของบ้านที่มีพื้นที่สวนหลังบ้าน ขนาดไม่น้อย 30 x 30 ฟุต และต้องเป็นบ้านที่มีคนอาศัยอยู่ตลอดทั้งปี ถ้าตกลงกันได้ Rent the Backyard จะทำการนำห้องพักที่มีทุกอย่างพร้อมมาตั้งไว้ในสวนหลังบ้านของคุณ จากนั้นเจ้าของบ้านก็รอรับส่วนแบ่งจากค่าเช่าได้แบบสบายๆ เพราะเรื่องของการทำตลาดการหาคนมาเช่า สตาร์ทอัพรายนี้จัดการให้หมด ส่วนห้องพักที่จะเอามาลงในสวนหลังบ้าน หลังจากที่ตกลงทำสัญญาระยะยาวกับเจ้าของบ้านไปแล้วนั้น ไม่ใช่ห้องพักแบบพื้นๆ แต่เป็นงานที่มีดีไซน์สวยงามจากผลงานของ node.eco ผู้ออกแบบและสร้างบ้านแห่งอนาคต เผลอๆ มันจะสวยกว่าบ้านเจ้าของที่ซะอีก “นี่เป็นความร่วมมือระยะยาวที่เรามีกับเจ้าของบ้าน เราพยายามที่จะทำให้กระบวนการต่างๆ เกิดขึ้นเร็วที่สุด ระยะเวลาของการดำเนินการทั้งหมดตั้งแต่การขอใบอนุญาตไปจนถึงการก่อสร้างเสร็จสิ้นใช้เวลาประมาณ 4-5 เดือน จากนั้นเจ้าของบ้านก็จะเริ่มได้รับรายได้ค่าเช่า” Bak Bakerman ผู้ก่อตั้ง บริษัท Rent the Backyard กล่าว

1 2 3 … 6