“ต้องรวย” คำวิเศษที่ผลักดัน “เจ๊เล้ง” สู่เจ้าแม่แห่งวงการเครื่องสำอาง


จากเด็กผู้หญิงที่ต้องดิ้นรนทำงานเพื่อหาเลี้ยงครอบครัวโดยรับของมาขาย ความรู้ที่ได้ไม่ได้เข้าเรียนในมหาวิทยาลัยชั้นนำ แต่อาศัยเก็บเกี่ยววิชาการเลือกสินค้ามาขายแบบครูพักลักจำ  ลักอ่านจากหนังสือพิมพ์ข้างกองขยะ ไปจนถึงนิตยสารที่วางขายในสนามบิน ด้วยความมุ่งมั่นว่า “ต้องรวย” ทำให้วันนี้ เจ๊เล้ง – อารียฉัตร อภิสิทธิ์อมรกุล  กลายเป็นเจ้าแม่แห่งวงการเครื่องสำอาง นำเข้าสินค้าจากต่างประเทศเป็นรายแรกๆ ของเมืองไทย ที่ใครต่างพูดถึง

เส้นทางการดำเนินธุรกิจที่ยาวนาน

สินค้าที่เรานำเข้ามาขาย บางอย่างในเมืองไทยยังไม่มี เราไม่ต้องพึ่งการโฆษณาเลย ใช้ความเป็น “เจ๊เล้งนี่แหล่ะ” มาพรีเซนต์ ของที่เรานำเข้ามา บางครั้งเราสั่งทำเองโดยเอาปัญหามาเป็นตัวตั้งแล้วก็หาผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ของทุกอย่างต้องมีที่ไปที่มา  เรากล้าพูดว่าเรามาจากคนจน ไม่ใช่คนรวย จบ ม.1 อายุ 14 ปี เรียนมาน้อย ถ้าถามว่ารู้ได้ยังไงว่าอะไรดีไม่ดี ต้องเล่าย้อนไปว่าด้วยความที่บ้านอยู่ใกล้สนามบิน ก็จะมีเพื่อนๆ ที่รับซื้อของเก่า รับซื้อขยะ เค้าก็จะมีหนังสือพิมพ์เก่าๆ มีแมกกาซีน เกี่ยวกับเครื่องสำอาง เราก็ใช้วิธีเรียนรู้ อ่านไม่ออกก็เปิดดิกชันนารีทีละตัวๆ ใช้เวลาซักพักก็มีความรู้บางอย่างเกี่ยวกับสินค้าที่คนอื่นไม่รู้ เพราะสมัยก่อนคนเรียนกันน้อย เทคโนโลยีไอทีก็ไม่เหมือนสมัยนี้ วิธีจะติดต่อค้าขายกับต่างประเทศเป็นเรื่องยากมาก โทรทัศน์  โทรศัพท์ ไม่มี พอดีมีโอกาสได้รู้จักกับคนที่ทำงานในสนามบิน แอร์โฮสเตส เค้าก็เริ่มมีการเอาของมาขาย แรกๆ ไม่ได้ตั้งใจจะขายของ เพียงแต่เราซื้อมาก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร เราซื้อเพราะเราอ่านเจอมาว่ามันดี เป็นของที่เมืองนอกเค้านิยม พอเราลองวางขายปุ๊บ มีคนเข้ามาซื้อทันที เชื่อไหม สมัยก่อนแมกกาซีนไม่ใช่ของที่หาซื้อง่ายๆ เล่มหนึ่งต้องหุ้นกัน 7 คน เราก็จะขออ่านเป็นคนสุดท้าย เพราะเราอยากเก็บไว้ อ่านหมด อ่านกระทั่งโฆษณาเพราะเราไม่มีเงิน จะซื้อบ่อยๆ ก็ไม่ได้ ต้องอ่านให้คุ้มค่า อ่านมากจนเรารู้

ความจน ทำให้ต้องดิ้นรนมากกว่าคนอื่น

การพักผ่อนของเจ๊ คือการทำงาน ฉะนั้นโอกาสที่จะหยุดพักคงไม่มี เป็นคนที่ทำงานแล้วทีความสุข การที่ได้เห็นเงินเข้ามาทุกวันเรามีความสุข ทำงานแล้วมีเงิน ถึงจะไม่ได้ใช้แต่แค่เห็นก็มีความสุข วันไหนเหนื่อยมากๆ ก็แค่ตื่นสายหน่อย จากเด็กคนหนึ่งที่พูดได้ว่ามาจากตม ทำทุกอย่างด้วยตัวเองแทบทั้งหมดจนได้มาถึงทุกวันนี้  สมัยก่อนเห็นคุณแม่ขายของ เป็นพวกขนมเด็กเล่น ท๊อฟฟี่ เสื้อผ้าคอกระเช้า ผ้าถุง เราไม่ชอบก็ถามแม่ว่าขอขายอย่างอื่นได้ไหม? ก็ไปเดินโบ๊เบ๊เอง เลือกเอง เลือกขายเสื้อผ้าที่ทันสมัยในยุคนั้น ถึงทุนจะมีน้อย เราจะขายของดี ถึงจะแพงหน่อย   ที่ร้านตอนนี้มีพนักงาน 300 กว่าคนเชื่อไหมว่าเราไม่ต้องมีตำแหน่งฝ่ายบุคคลเลย เด็กเค้าจะคุมตัวเอง รุ่นพี่ก็คุมรุ่นน้อง เค้าจะเชื่อฟังกัน อยู่กันเอง การทำธุรกิจเป็นงานที่ยาก ลำบาก การจะเข้าไปให้ถึงจิตใจลูกค้า รู้ถึงความต้องการ มันยากนะ ใครก็หาผลิตภัณฑ์มาขายได้ แต่คุณขายเป็นไม๊ล่ะ?  เอามาวางเฉยๆ นั่นคุณไม่ได้ขาย การจะขายสินค้าได้คุณต้องรู้ว่าสินค้าหรือผลิตภัณฑ์นั้นคืออะไร ต้องใช้ ต้องกินดูให้รู้ก่อน ไม่งั้นคุณตอบไม่ได้หรอก ทุกสิ่งทุกอย่างคือการเรียนรู้ พอทำแล้วประสบความสำเร็จ มันจะสนุก ภูมิใจที่ได้ทำ

คนเราต้องมีความใฝ่ฝัน  ตอนเด็กๆ เราเห็นเพื่อนๆ ที่บ้านเขามีสตางค์ แต่บ้านเราไม่มี เราก็ต้องดิ้นรน มันถึงจะประสบความสำเร็จ

Source : รายการ Smart Focus