จากจุดเริ่มต้นมาพร้อม ๆ กับโควิด-19 แต่เลือกที่จะสวนกระแส จนทำให้ร้านเกินด้วยกระแส แชะ แอนด์ แชร์ ในโซเชียล จากกลุ่มวัยรุ่นที่แวะเวียนมาถ่ายรูปและเช็คอินทำให้ยอดขายพุ่งสู่ 7 หลักต่อเดือน
จากวันนั้นจนมาถึงวันนี้ คุณชิดชนก พานิชสุข เจ้าของธุรกิจ Chubby Dough กว่าจะมาถึงจุดนี้ต้องผ่านอะไรมาบ้าง เรามาอ่านเรื่องราวที่น่าสนใจนี้กัน
Chubby Dough เปิดมานานแค่ไหน มีกี่สาขา
คุณชิดชนก พานิชสุข เจ้าของธุรกิจ Chubby Dough เล่าว่า Chubby Dough เปิดมาประมาณ 2 ปีกว่า ๆ มีทั้งหมด 4 สาขา ซึ่งตอนนี้นอกจากเราจะมีสาขาประจำ เรายังมี pop up store เปลี่ยนไปหลากหลาย เพื่อให้ลูกค้าได้ทำความรู้จักกับ Chubby Dough ตอนนี้มีสาขา pop up store 2 สาขา คือสาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน และสยามพารากอน รูปแบบนี้เป็นรูปแบบที่ทุกคนอยากเจอแล้วก็อยากถ่ายรูป
จุดเริ่มต้นในการทำธุรกิจ
คุณชิดชนก เล่าย้อนกลับไปว่า Chubby Dough เริ่มมาพร้อม ๆ กับโควิด-19 เลย แต่ตอนนั้นเราสวนกระแสดีกว่า เราคิดอะไรเราก็ต้องลุย ตอนนั้นเลยคิดว่าเราทำธุรกิจในตอนนั้นได้แต่ว่าเราต้องทำให้มันอยู่รอดในวิกฤตนั้น ทำยังไงก็ได้ให้โดนัทไม่ต้องใช้มือจับและลูกค้าเดินถือกินได้ ก็เลยออกมาเป็น Chubby Shake โดนัทที่ซ้อนอยู่บนเครื่องดื่ม ลูกค้าสามารถถือทานได้ทั้งเครื่องดื่ม ทั้งโดนัท
กระแส แชะ แอนด์ แชร์ ทำให้ธุรกิจเราเป็นอย่างไร
คุณชิดชนก เผยว่าถือว่าเป็นที่รู้จักอย่างรวดเร็ว เพราะว่าพอคนเห็นในโลก คนถ่ายรูปกับร้านนี้ คือที่ไหน คนก็ไปตามหากัน อยากมีรูปสวย ๆ กับร้านนี้ กับ โดนัท เพราะว่าถ่ายร้านเราแล้วมันสวยมันน่ารัก สร้างให้คนรู้จักอย่างรวดเร็ว จากยอดขายหลักหมื่น ตอนนี้กลายเป็น 7 หลักต่อเดือน
โควิด-19 กระทบต่อธุรกิจอย่างไรบ้าง
คุณชิดชนก เล่าต่อว่าถ้าถามว่าเราเจอโควิดเรากระทบไหม เรากระทบ แต่เรายังโชคดีที่สินค้าของเรา Grab and Go ก็คือต่อให้ตอนนั้นมีจังหวะที่ห้ามนั่งทาน แต่ลูกค้ายังมาซื้อเราได้
เมนูของ Chubby Dough
คุณชิดชนก อธิบายต่อก่อนจะทิ้งท้ายไว้ว่าของเรามีทั้งหมด 3 รูปแบบ แบบแรกเป็น Basic เหมือนกับทุกคนอยากรู้จัก Chubby Dough ก็คือเคลือบน้ำตาล เมนูเด่นของร้านเราคือ Chubby Crack หรือ Chubby หน้าแตกมันจะกรุบกรอบ แล้วก็เป็นชินนามอน นอกจากนี้ยังมีรูปแบบ Variety ซึ่งจะมีหน้าตาหลากหลาย น่ารัก สวยงาม ขายดีจะเป็น ไวน์เบอร์รี่ เรียกได้ว่าเป็นนางเอก ดับเบิ้ลช็อคโกแทรป ก็เป็นพระเอกของเรา และรูปแบบสุดท้ายคือ Special จะเน้นไส้เต็ม ๆ คำ จะมีไส้เยอะมาก ขายดีสุดคือบลูเบอร์รี่ซีสพาย กัดไปทุกคนจะเจอไส้ทะลักทุกคำแน่นอน
“Basic เริ่มที่ราคา 33 บาท Variety ราคา 39 บาท Special ราคา 53 บาท ถ้าเกิดเป็นเซ็ตที่มีน้ำและออริจินอล 2 ชิ้น ราคา 129 บาท แต่ถ้าเปลี่ยนเป็น Variety ราคา 139 บาท หรือเป็นเครื่องดื่มกับ Special ราคา 159 บาท” คุณชิดชนก กล่าว
เคล็ดลับความสำเร็จ
คุณชิดชนก ทิ้งท้ายพร้อมกับเคล็ดลับความสำเร็จไว้ว่า “สำหรับอาร์ตนะ คิดแล้วต้องกล้าลงมือทำแล้วก็ต้องลุย ถ้าถามอาร์ตนะ อาร์ตลุยมาตลอด ทั้งเจ็บตัว ทั้งประสบความสำเร็จ ที่ผ่านมาอาร์ตก็มีเจ็บตัว แต่อาร์ตรู้สึกว่าล้มนานไม่ได้ มันต้องหาทางลุกขึ้นมาใหม่แล้วก็ต้องลุยอีกครั้ง วันหนึ่งมันอาจจะเป็นวันที่เรายืนได้อย่างสง่างามก็ได้ เพราะฉะนั้นอย่าไปกลัวที่จะล้ม ถ้าล้มแล้วก็ต้องรีบลุก”
