ลุ้น QE ยุโรป ช่วยหุ้นไทยเบรกแนวต้าน 1630


ดร.ศุภกร สุนทรกิจ กรรมการบริหาร สายงาน Wealth Management บล.เอเชีย เวลท์ จำกัด คาดว่าทั้งสัปดาห์นี้ ตลาดหุ้นไทยมีแนวโน้มที่จะสดใสกว่าสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากสัปดาห์ที่ผ่านมาไปตรงกับช่วงเทศกาลตรุษจีน ทั้งฮ่องกง และจีนแผ่นดินใหญ่ก็ปิดตลาดไป  ตลาดก็ค่อนข้างซบเซา คาดว่าหลังจากเปิดตลาดน่าจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ถ้ามองดูที่ปัจจัยภายนอก ภาพรวมก็ไม่ได้เลวร้ายลง การเจรจาของกรีซเองก็น่าจะคลายความกังวลลงได้ ปัจจัยกรีซไม่น่าจะเป็นปัจจัยกดดันมากนักในสัปดาห์นี้  แต่ก็ต้องติดตามในเรื่องของแผนต่อไปอาจจะพลิกไปพลิกมาได้

อีกหนึ่งเรื่องก็คือ ด้านราคาน้ำมันโดยรวมยังถูกกดดันพอสมควร ถึงแม้ตลาดจีนจะหยุดแต่ด้านตัวเลขของสหรัฐอเมริกา ตัวเลขฐานขุดเจาะที่ต้องปิดตัวลง และยังทยอยปิดตัวลงอย่างต่อเนื่อง จริงๆเหมือนจะเป็นข่าวดี แต่ในเชิงข้อมูลข่าว เป็นการลดต่อเนื่องมา 3 สัปดาห์ติด นักลงทุนเลยออกมาวิเคราะห์ว่าตัวเลขที่ปรับลด เป็นตัวเลขของตัวฐานที่มีการผลิตค่อนข้างต่ำ เป็นต้น ก็เลยเหมือนจะซึมซับไปในข่าว เลยทำให้แม้ตัวเลขจะออกมาติดลบ แต่ว่านักลงทุนยังไม่ค่อยพอใจทำให้ราคาน้ำมันปรับตัวลดลง ส่งผลให้ราคาหุ้นกลุ่มพลังงานต่างๆไม่สามารถที่จะยืนบวกได้ ก็เป็นตัวฉุดตลาดพอสมควร

ส่วนทางด้านของยูเครนจะมีผลต่อตลาดลงทุนค่อนข้างน้อย เนื่องจากตลาดหุ้นมีการปรับตัวรับตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่แล้ว โดยเฉพาะกับยุโรปที่ปรับตัวขึ้นมาโดยเฉลี่ย+ 0.74% ไม่ได้ถือว่าเยอะมาก โดยรวมแล้วสถานการณ์ทั้ง QE ของยุโรป ยูเครน และกรีซน่าจะส่งผลดีต่อยุโรป

สำหรับการหารือนโยบายการเงินของ Fed ในระหว่างวันที่ 24-25 ก.พ. ดร.ศุภกร บอกว่ายังมองภาพโดยรวม Fed ต้องขึ้นดอกเบี้ยแน่นอนในปีนี้ ที่ดูเบาบางลงในช่วงนี้เพราะเจเน็ต เยลเลน คราวที่แล้วได้พูดกลับไปกลับมา ทำให้ตัวตลาดก็พลิกไปพลิกมาตามคำพูดของเยลเลน อย่าพึ่งไว้วางใจตรงนี้ เพราะดูจากราคาทองคำ เห็นได้ชัดเจนว่า ถ้าเยเลนพูดออกมาไม่ดี แปลว่าราคาทองคำจะผันผวนตรงข้ามกับดอลลาร์ คือถ้าดอลลาร์แข็งทองคำก็จะร่วงลง ตัวตลาดเองก็คาดว่าน่าจะออกมาในโทนที่แข็งกว่าคราวที่แล้วนิดหน่อย  ทำให้กดดันราคาทองคำตกต่ำไปกว่า 1,200 เรากำลังมองอยู่ว่าราคาจุด Low เดิม ที่ 1,180 ว่าจะไปถึงหรือไม่ต้องจับตามอง

ถ้ามามองดูปัจจัยภายในประเทศ  ช่วงเดือนมีนาคม Earnings Season ของการทยอยรายงานผลประกอบการ จะเริ่มมีการทยอยออกมา จะเห็นว่าหุ้นหลายตัวปรับตัวดีดขึ้นมาเยอะเหมือนกันอย่าง TPIPLเป็นต้น แล้วเดือนเมษาก็เป็นฤดูการจ่ายเงินปันผล เพราะฉะนั้นจะมีข่าวดีที่รอปัจจัยภายในประเทศอยู่พอสมควร และยังมีความเชื่อว่า QE ของยุโรปที่จะหลุดออกมาในเดือนมีนาคม คาดจะส่งผล Fund Flow น่าจะมา Support  ตลาดหุ้นไทยได้บ้างพอสมควร จุดที่นักวิเคราะห์หลายคนมองไว้ แนว 1,630 ถ้าเบรกได้จะเป็นโอกาสที่ดี เพราะที่ผ่านมาตลาดก็พยายามเบรกมา 3 ครั้งแล้วแต่ก็ไม่สามารถเบรกได้ ต้องลองดูถ้า Fund Flow กลับมาน่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนพอสมควร ทั้งนี้กลยุทธ์การลงทุน เน้นดูหุ้นที่มีข่าว หุ้นที่ปันผลสูงกว่า 5 %