เน ฉ่วย ทวย อ่อง ผู้ (เคย) คิดจะซื้อทีมแมนยู : บัณรส บัวคลี


เน ฉ่วย ทวย อ่อง เป็นหลานชายของท่านผู้นำสูงสุดพม่า พล.อ.อาวุโส ตานฉ่วย ที่แม้จะประกาศล้างมือลงจากอำนาจเมื่อปี 2011 (2554) เพื่อให้มีประธานาธิบดีจากการเลือกตั้งมาแทน แต่วงการเมืองก็ทราบกันดีว่านายพลผู้นำสลอร์คคนนี้ยังคงมีบารมีมากมาย ขนาดนางอองซานซูจี ผู้นำพรรคเอ็นแอลดีชนะเลือกตั้งถล่มทลายต้องเข้าพบเพื่อหารือทิศทางการเปลี่ยนผ่านอำนาจ และเป็นเน ฉ่วย ทวย อ่องคนนี้เองที่ได้โพสต์รายละเอียดยืนยันการพบปะของผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองให้โลกได้รู้ผ่านเฟซบุ๊คของเขา

 

เขาเป็นคนที่เข้าใจโลกสมัยใหม่ ถูกส่งไปเรียนที่สิงคโปร์แต่เด็ก ภาษาดี แถมหน้าตาดีอีกต่างหาก มีครบทั้งเส้นสายอำนาจวาสนาแถมหน้าตาดีจัดเป็นเซเลปไฮโซอันดับต้นของพม่าในเวลานี้  แต่ในอีกด้านหนึ่งมันก็มีกระแสข่าวด้านลบออกมามากมาย อย่างไม่น่าเชื่อว่าหนุ่มน้อยอายุแค่นี้สามารถไปเกี่ยวข้องกับเรื่องราวใหญ่โตอะไรได้มากมายถึงเพียงนี้

 

เน ฉ่วย ทวย อ่อง เกิดเมื่อ 1991 เป็นหนุ่มน้อยเพิ่งจะ 24 ปีเท่านั้น แต่ข่าวคราวของเขากลับได้รับความสนใจจากทั้งหน่วยข่าวกรองระหว่างประเทศ สำนักข่าวใหญ่ๆ ของโลกล้วนแต่เคยรายงานเรื่องของเขามาแล้ว อย่าว่าแต่สื่อภายในประเทศพม่าเลย ความเป็นคนดัง เป็นหลานของท่านผู้นำที่ขยับตัวแต่ละครั้งล้วนแต่เป็นข่าวทั้งนั้น เพราะตานแวยเองนั้นปกครองพม่ามายาวนาน คนรักเท่าผืนหนังคนชังท่วมท้นล้นประเทศ จึงเป็นธรรมดาที่ครอบครัวลูกหลานของท่านผู้นำพลอยเป็นเป้าหมายที่สังคมจับจ้องด้วย เอาแค่เฟซบุ๊คของเขาก็มีคนฟอลโลว์มากกว่า 1.5 แสนคนแล้ว

 

ล่าสุดหยกๆ เครือข่ายโซเชี่ยลมีเดียของชาวไทยเราก็ได้แชร์ข้อความของเน ฉ่วย ทวย อ่องมาเผยแพร่ต่อ เป็นโพสต์เมื่อวัน 11 มกราคมที่ผ่านมา บอกเล่าว่าตัวเขา (เน ฉ่วย ทวย อ่อง) ได้เดินทางจากสนามบินชาร์ล เดอ โกล กรุงปารีสมายังสุวรรณภูมิ โดยเครื่องการบินไทย และบังเอิญทำเงินปึกใหญ่ 1 หมื่นดอลลาร์สหรัฐหล่นจากกระเป๋า แต่ก็มีพนักงานชายของสายการบินไทยนำมาคืนให้ เขาโพสต์เรื่องราวนี้ด้วยความขอบคุณพนักงานการบินไทยคนนั้น (น่าจะเป็นคนฝรั่งเศสเพราะชื่อ  Danielle) ฮ็อตไม่ฮ็อตดูจากยอดไลค์ ปาไป 5 พันไลค์ภายในสองวัน ในนั้นมีคนไทยร่วมกดจำนวนไม่น้อย (เพราะมันเป็นอะไรที่ชมเชยการบินไทยที่ฟังดูดีมาก)

โพสต์เรื่องเงินตกไม่ได้เป็นโพสต์ที่ฮือฮาที่สุดของ เน ฉ่วย ทวย อ่อง ดอกนะครับ เพราะโพสต์ก่อนหน้าเกี่ยวกับอองซานซูจีไปพบกับตานฉ่วย กับโพสต์เรื่องว่าด้วยลายเซ็นของ 3 ผู้ยิ่งใหญ่พม่า คือนำเก่า ผู้นำปัจจุบัน และ ผู้นำใหม่คือนางอองซานซูจีของเขาเมื่อ 5 ธันวาคม 2558 ปาเข้าไปกว่า 2.7 หมื่นไลค์ 1.8 หมื่นแชร์ แถมสำนักข่าวใหญ่ทั่วโลกหยิบไปรายงานอย่างพร้อมเพรียงกันอีกต่างหาก

 

เรื่องราวการเคลื่อนไหวของพ่อหนุ่มตระกูลใหญ่คนนี้จึงไม่ใช่เป็นแค่เรื่องของหนุ่มไฮโซร่ำรวยสนุกไปวันๆ ธรรมดา หากแต่การขยับตัวของเขาสามารถบอกเล่าเรื่องราวการเมืองพม่า ทั้งยังสะท้อนภาพความเปลี่ยนแปลงของสังคมพม่าในยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนผ่านไปในตัว  

 

ยิ่งพม่าเปลี่ยนมาอ้าแขนรับทุนนิยมและการลงทุนจากโลกตะวันตก มีการค้าขาย สินค้าใหม่ๆ มีเทคโนโลยีวัฒนธรรมใหม่เข้ามา ก็บังเกิดมีชนชั้นคนร่ำรวยมากขึ้นๆ คนรุ่นใหม่อายุน้อยกว่า 50 หรือแค่กลางๆ 30 ที่เป็นมหาเศรษฐีไปแล้วมีให้เห็นมากขึ้น ลูกและหลานของเครือข่ายของชนชั้นสูงเดิมที่มาจากอำนาจทหารไปมีบทบาทในกิจกรรมใหม่ๆ ที่ไม่ใช่เครื่องแบบสีเขียวถือปืนอีกต่อไปแล้ว 

 

พม่าภายใต้ทุนนิยมและการปกครองของชนชั้นนำกลุ่มเดียวที่ส่งผ่านอำนาจจากปืนไปสู่เลือกตั้ง ก่อให้เกิดโลกอีกโลกหนึ่ง ที่คนรุ่นนุ่งโสร่งถือปิ่นโตไปวัดคงนึกไม่ถึง ดูหนัง ฟังเพลง ประกวดนางงามนุ่งบิกินี นั่งรถยนต์สปอร์ต เดินห้างสรรพสินค้า นุ่งห่มด้วยเสื้อผ้าตะวันตก ฯลฯ  ซึ่งทั้งหมดที่ว่าหากดูได้จากกิจกรรมของพ่อหนุ่มไฮโซ เน ฉ่วย ทวย อ่อง

 

มีรายงานลับของสถานทูตอเมริกาหลุดผ่านวิกิลีกส์หัวข้อ BURMA: CRONIES LAUNCH NEW SOCCER LEAGUE เมื่อปี 2009 ซึ่งปีนั้นตาน ฉ่วย ยังเป็นท่านผู้นำสูงสุดของระบบสลอร์ค ระบุว่า เน ฉ่วย ทวย อ่อง เคยรบเร้า ตาน ฉ่วย ผู้เป็นปู่ขอให้ซื้อทีมสโมสรฟุตบอล แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด ในราคาประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถ้าเป็นเงินตอนนี้ก็ 3.6 หมื่นล้านบาท แต่ตาน ฉ่วย คงพิจารณาเห็นว่าผลตอบแทนที่ได้มันไม่คุ้ม จากนั้นพม่าก็สร้างระบบลีกของตนขึ้นมา ตอนนั้นพ่อหนุ่มเน ฉ่วยฯ เพิ่งจะอายุได้ 18 ปีเองนะครับ อายุแค่นี้ขอเงินปู่ 1 พันล้านเหรียญละเลงเล่นแล้ว!

 

แม้ว่า เน ฉ่วย ทวย อ่อง จะไม่ได้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดมาเป็นของเล่น แต่ก็กล่าวได้ว่า หนุ่มน้อยอายุ 18 คนนี้เป็นผู้มีอิทธิพลให้มีการตัดสินใจกำเนิดลีกฟุตบอลอาชีพแห่งแรกของพม่าขึ้นมา คือ  The Myanmar Football Federation (MFF) เมื่อ 16 พฤษภาคม 2009 มีสโมสรลงแข่งขันปีแรก 8 ทีม โดยมีประธานของลีกชื่อว่า ซอ ซอ (Zaw Zaw) ซึ่งเป็นมหาเศรษฐีหนุ่มผู้สนิทสนมกับเน ฉ่วย ทวย อ่อง นั่นเอง

 

บอกแล้วว่าเรื่องราวของ เน ฉ่วย ทวย อ่อง นั้นสะท้อนภาพการเปลี่ยนแปลงของสังคมพม่ายุคนี้ได้ดี… นั่นเพราะ ซอ ซอ (Zaw Zaw) เพื่อนรุ่นพี่ของหนุ่มน้อยหลานชายสุดพิศวาสท่านผู้นำ ผู้เป็นมหาเศรษฐีรุ่นใหม่เจ้าของกิจการ Max Group ซึ่งมีธุรกิจหลากหลายทั้งการก่อสร้าง ลงทุนในทรัพยากรธรรมชาติ การท่องเที่ยวและโรงแรมห้าดาว นำเข้าและค้ารถยนต์ ฯลฯ เติบโตมาได้เพราะเส้นสายสนิทสนมกับอำนาจทหารสายตาน ฉ่วยนั่นเอง

 

ยุคนี้เป็นยุคปฏิรูป จากระบบทหารมาสู่การเลือกตั้งที่ทหารยอมแบ่งอำนาจให้กับพรรคการเมืองแต่ถึงกระนั้นเครือข่ายอำนาจเดิมของทหารก็เข้าไปยึดหัวหาดในกิจการการลงทุนทั้งหลายเอาไว้หมดแล้ว

 

มหาเศรษฐีหนุ่มซอ ซอผู้นี้สนิทสนม เน ฉ่วย ทวย อ่อง ชนิดที่มองตารู้ใจ เขารู้ว่าพ่อหนุ่มเนฯ บ้าฟุตบอลชนิดคลั่งไคล้ใหลหลงโดยเฉพาะการเป็นแฟนของทีมแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด เมื่อถึงวันเกิดอายุครบ16 ปี ซอ ซอ เป็นเจ้าภาพจัดงานวันเกิดฉลองให้กับเน ฉ่วย ทวย อ่อง ที่โรงแรม Sedona Hotel  ทำฉากหลังเป็นรูปนักฟุตบอล ธีมในงานล้วนแต่เป็นเรื่องเกี่ยวกับฟุตบอลมีผู้มาร่วมงานชนิดเป็นคนใหญ่คนโตภริยาของ พล.อ.หม่องเอ และ สุระฉ่วยมาน ก็มาร่วมงานวันเกิดหลานรวมทั้งเพื่อนฝูงของพ่อหนุ่มเนฯ รวมแล้วร่วมๆ พันคน ข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุว่า ซอ ซอ ควักกระเป๋าจ่ายค่างานวันเกิดครั้งนั้นไป 25,000 ดอลลาร์  ตีเป็นเงินไทยตอนนี้ก็ประมาณ 9 แสนบาท

 

เน ฉ่วย ทวย อ่อง นั้นถูกจับตาจากสื่อและฝ่ายที่ไม่ชอบอำนาจทหารมาต่อเนื่องหลายปีแล้ว เคยมีข่าวเขาไปพัวพันกับการลักพาตัวนางแบบสาวสวยของพม่าไปกักไว้ แล้วก็มีข่าวถูกจับคู่กับนางงามพม่าคนล่าสุดที่ได้รับเชิญไปเปิดตัวในสนามฟุตบอลแห่งหนึ่งที่จัดฉากพ่อเน ฉ่วย ทวย อ่อง ยืนรอต้อนรับอยู่ … โดยน้ำเสียงของทั้งสื่อและโดยอารมณ์ของชาวพม่าส่วนใหญ่แล้ว ไม่ค่อยชมชอบครอบครัวของท่านผู้นำตาน ฉ่วยสักเท่าไหร่  ก็เป็นธรรมดาของผู้ปกครองที่อำนาจยาวนานมาตั้งแต่ 1988 ถึงบัดนี้ก็ 28 ปีแล้วที่ยังคงมีเงาของตาน ฉ่วยทอดทับอยู่บนสนามการเมืองของพม่า (แม้เจ้าตัวพยายามถอยออกห่างในนามการปฏิรูปมีเลือกตั้งก็ตาม)

 

ยิ่งพม่ามีการเปลี่ยนแปลง กำลังจะมีการส่งมอบอำนาจให้กับนางอองซานซูจีและพรรคเอ็นแอลดีในอีกเดือนข้างหน้า ความเคลื่อนไหวและท่าทีของฝ่ายอำนาจเก่าก็ยิ่งชวนให้ติดตามพร้อมกันไป และ เน ฉ่วย ทวย อ่อง ก็เป็นหนึ่งในความน่าติดตามดังกล่าว