บูรพา-อาคเนย์ ตอนสงครามลับที่ไซสมบูน : บัณรส บัวคลี่


สถานทูตอเมริกาประจำเวียงจันทน์ได้ออกประกาศเตือนภัยการเดินทางหรือ Travel Alert เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์แจ้งชาวอเมริกันให้หลีกเลี่ยงการเดินทางเข้าแขวงไซสมบูน พื้นที่ภาคกลางของสปป.ลาว เพราะไม่ปลอดภัย มีการใช้อาวุธและวัตถุระเบิดในเขตนั้น

 

รายละเอียดของคำประกาศระบุว่า เมื่อปลายเดือนมกราคมที่ผ่านมา มีการดักโจมตีผู้สัญจรผ่านทางยังผลให้มีผู้เสียชีวิต 3 คนและบาดเจ็บ 4 คน นอกจากนั้นเมื่อปลายปีที่แล้วในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคมได้มีการใช้วัตถุระเบิดโจมตีซึ่งถือเป็นเหตุอันตรายต่อเนื่อง

 

ประเด็นเรื่องความไม่สงบในแขวงไซสมบูนที่ว่านี่ เมื่อปลายปีสื่อของไทยก็เคยแปลข่าวของสำนักข่าว RFA- วิทยุเอเชียเสรีว่าลาวมีการประกาศเคอร์ฟิวและมีเหตุปะทะมีทหารลาวตาย ให้คนไทยได้ฮือฮารอบหนึ่งแล้ว แต่ก็น่าแปลกที่สื่อทางการของลาวกลับไม่นำเสนอเรื่องราวดังกล่าวแม้แต่น้อย ซ้ำเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นก็ปฏิเสธข่าวด้วยซ้ำไป

 

เรื่องการซุ่มโจมตีมีทหารลาวตายเมื่อปลายปีก่อนน่ะ จริงเท็จแค่ไหนเรา-ท่านเป็นคนเสพข่าวอยู่วงนอกต้องชั่งน้ำหนักเอาเองกันตามประสา เพราะฝ่ายหนึ่งยืนยันรายงานย้ำๆ ดูเจตนาจะให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาให้ได้ ส่วนอีกฝ่ายพยายามกลบให้สนิท วิทยุเอเชียเสรีซึ่งรายงานข่าวการปะทะที่แขวงไซสมบูนนี่เป็นสื่อกึ่งๆ เอ็นจีโอที่ตะวันตกให้ทุน เลือกรายงานประเทศที่เขามองว่ายังมีปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชน เช่นทิเบต-จีน กัมพูชา ลาว พม่า เกาหลีเหนือ ฯลฯ  ดังนั้นน้ำเสียงและแนวการนำเสนอของสื่อที่ว่าจึงค่อนข้างจะไม่เป็นมิตรกับรัฐบาลประเทศที่กล่าวมาสักเท่าใด

 

เรื่องทหารตาย..จริงไม่จริงไม่รู้? แต่สำหรับเหตุที่มีการซุ่มโจมตีรถราของชาวบ้านริมถนนนี่เรื่องจริงแน่นอน เพราะมีการรายงานในสื่อโซเชียลมีเดียของลาวเอง เรื่องความไม่สงบปลอดภัยในแขวงไซสมบูนจึงเป็นเรื่องที่มีเค้า-มีมูล และมีประเด็นต้องพิจารณาต่อไม่น้อยทีเดียว

 

คนไทยเราอาจไม่คุ้นกับชื่อแขวงไซสมบูนนัก เพราะนี่เป็นแขวงใหม่เพิ่งยกฐานะจากเขตปกครองพิเศษมาเป็นแขวงเมื่อต้นปี 2557 เรียกว่าเป็นแขวงใหม่ซิงๆ เลยก็ว่าได้ ถ้าดูจากแผนที่ตั้งอยู่กึ่งกลางของประเทศ ทางเหนือของเวียงจันทน์ ถัดขึ้นไปคือแขวงเชียงขวาง อยู่ใกล้เวียงจันทน์น่าจะสบาย แต่ที่จริงแล้วทุรกันดารอย่างยิ่งเพราะเป็นเขตเทือกเขาสูง ครอบคลุมเกือบทั้งแขวง ดูแผนที่เขตปกครองธรรมดาไม่ได้ ต้องดูแผนที่ดาวเทียมจึงจะเห็นสภาพภูมิรัฐศาสตร์ชัดขึ้น

 

ที่จริงแล้วคนไทยเราน่ะคุ้นเคยกับพื้นที่ไซสมบูนดี พิกัดเมืองต่างๆ เรารู้จักคุ้นหูมาร่วม ๆ 50 ปีแล้วกระมัง ตั้งแต่ราวๆ พ.ศ. 2513-2516 เคยมีทหารรับจ้างชาวไทยหลายกองพันเข้าไปรบในลาวร่วมกับซีไอเอและกองทัพลาวที่มีนายพลวังเปาเป็นผู้นำ ฐานบัญชาการอยู่ที่เมืองล่องแจ้ง เขตปฏิบัติการอยู่แถว ๆ ซำทอง ทุ่งไหหิน เชียงขวาง รบกันจริงๆ จังๆ เพราะอีกฝ่ายเป็นลาวคอมมิวนิสต์ และเวียดนามมีฐานที่มั่นแถวลาวเหนือแขวงเวียงไซปัจจุบัน  เครื่องบินอเมริกาที่ไทยเราร่วมรบด้วยไปโปรยระเบิดเป็นตันๆ จนลาวพรุนไปหมด ปัจจุบันก็ยังเหลือซากระเบิดมากมายทั้งในลาวเหนือลาวใต้

 

 

มันเป็นสงครามลับที่ไม่ประกาศ แต่โจ่งแจ้งใครก็รู้ไปทั้งโลก !

แล้วศูนย์บัญชาการของฝ่ายซีไอเอรบกับ ที่ล่องแจ้ง ซำทอง ภูเบี้ย น่ะ ก็คือ แขวงไซสมบูนในปัจจุบันนั่นเอง!

พอย้อนเอ่ยถึงประวัติความเป็นมา 50 ปีย้อนกลับไป มันก็พอมีเค้ารางอะไรพอให้คลำได้ต่อ เพราะว่าไซสมบูนเป็นพื้นที่ภูเขา มีชนเผ่าม้งเป็นประชากรหลัก และม้งที่ว่าคือกำลังพลหลักในการรบกับลาวคอมมิวนิสต์ในยุคนั้น แม้ว่านายพลวังเปาและครอบครัวม้งจำนวนไม่น้อยอพยพไปอยู่อเมริกาหลังลาวแตก แต่ชาวม้งที่ยังอยู่จำนวนไม่น้อยก็มีสัมพันธ์กับลาวฝ่ายขวา สมัยที่นายพลวังเปายังมีชีวิตเคยเคลื่อนไหวหาทุนส่งอาวุธให้กับม้งแขวงไซสมบูนนี่แหละ เคลื่อนไหวเป็น “ปฏิการ” ต่อต้านรัฐบาลเวียงจันทน์โดยต่อเนื่องแล้วก็ถูกทำเนียบขาวหักหลังจับกุมให้ยุติการเคลื่อนไหวอยู่ครั้งหนึ่ง

 

เป็นที่ทราบว่าม้งที่เคลื่อนไหวต่อต้านรัฐบาลลาวเป็นรุ่นลูกหลานของวังเปาและมีจำนวนไม่มาก ที่บอกว่ามีไม่มาก แปลว่ายังพอมีเหลืออยู่ เรื่องนี้กองทัพไทยเองก็ทราบเพราะเคยมีการจับกุมม้งฝ่ายต่อต้านได้ที่ชายแดนแล้วกองทัพก็นำส่งไปให้ทหารลาว เท่าที่จำได้ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก เมื่อครั้งเป็นพลโทก็เคยทำเรื่องนี้ เคยเห็นข่าวนายทหารไทยท่านนี้ส่งม้งปฏิการฝ่ายขวาไปให้ลาวด้วยตัวเอง การที่ฝ่ายต่อต้านยังพอเคลื่อนไหวได้เพราะอาณาบริเวณล่องแจ้ง ซำทอง ไซสมบูนที่ว่ามันเป็นป่าเขาสูงชันบนเทือกเขาอันนัม มีศูนย์กลางที่ภูเบี้ยซึ่งเป็นเขาสูงสุดของลาว  แต่อย่างไรก็ตามในรอบ 10 ปีหลังมานี้ฝ่ายต่อต้านก็ยอบแยบเต็มทน ยิ่งหมดนายพลวังเปาแล้วด้วยยิ่งน่าจะหมดเชื้อไฟกันได้แล้วเพราะเฒ่าชะแรแก่ชรากันไปหมดแล้ว

 

มันจึงน่าแปลกใจไม่น้อย ที่จู่ๆ เชื้อปฏิการ ลาวฝ่ายขวาต่อต้านรัฐบาลพลันเกิดมีพลังฮึดได้ยาโด๊ปจากไหนไม่รู้ จากที่ไม่เคยก่อเหตุอะไรกลับจงใจสร้างเหตุให้ครึกโครมเป็นที่กล่าวขวัญ  (แถมสื่อตะวันตกก็พยายามขานรับโพนทะนาต่ออีกต่างหาก) !?

 

24 ธ.ค. 2558 RFA รายงานว่า ปลายธันวาคมมีคนลอบยิงชาวบ้านขี่จักรยานยนต์ 2 คัน มีผู้เสียชีวิต 1 และบาดเจ็บอีก 1 จุดที่เกิดเหตุใกล้เมืองล่องแจ้ง ห่างจากเมืองไซสมบูนไปตามถนนสู่เมืองอะนุวงราว 30 กิโลเมตร

 

ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในเหตุที่สถานทูตอเมริกาใช้เป็นข้ออ้างในการแจ้งเตือนห้ามคนอเมริกันเดินทาง โดยก่อนหน้านั้น RFA ได้รายงานว่ามีการปะทะกันระหว่างกองกำลังติดอาวุธกับเจ้าหน้าที่ทหารลาว มีทหารเสียชีวิต 3 ชาวบ้าน 1 มาก่อนแล้ว

 

มีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีการพยายามปลุกขบวนการต่อต้านรัฐบาลลาวในประเทศขึ้นมาอีกคำรบ เพราะลาวในสถานการณ์ปัจจุบันเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์ติดกับประเทศจีน แถมเป็นทางผ่านสำคัญของเส้นทางสายไหมทั้งถนนและทางรถไฟเปิดจีนตอนใต้สู่ทะเล

 

สำนักวิเคราะห์ของตะวันตก อเมริกานั่นล่ะว่าไว้เอง และสำนักข่าว RFA ก็นำเสนอต่อในสกู๊ปพาดหัวว่า  “ลาวอาจเป็นจุดขัดแย้งสำคัญລາວອາຈເປັນຈຸດຂັດແຍ່ງສໍາຄັນhttp://www.rfa.org/lao/daily/politics/analysis/laos-emerges-as-cold-war-rivalry-china-us-02042016103024.html

 

เนื้อหาระบุว่า การเผชิญหน้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกาเป็นสงครามเย็นยุคใหม่ทำให้ลาวก็เป็นประเทศหนึ่งที่เป็นจุดขัดแย้ง เพราะจีนจะมีเส้นทางรถไฟและทางถนนขณะที่อเมริกาพยายามจะจำกัดขอบเขตการขยายอิทธิพลของจีน สหรัฐจึงยกระดับความสัมพันธ์กับลาวเพิ่มขึ้น

 

นี่เป็นข่าวบทวิเคราะห์ที่สำนักข่าวโปรอเมริกานำเสนอให้ชาวลาวโดยตรงด้วยซ้ำ..บอกว่าลาวอาจเป็นจุดขัดแย้งสำคัญระหว่างอเมริกา กับ จีน !!

 

มันจึงพอมีความเป็นไปได้ มีร่อง มีรอยพอให้ติดตามได้อยู่ …

 

แม้ว่าเราไม่รู้แน่นอนว่าเหตุโจมตีรถยนต์ รถจักรยานยนต์ชาวบ้านที่ผ่านทาง ในเขตไซสมบูน 2 ครั้งต่อเนื่อง (ไม่นับข่าวการปะทะกับทหารซึ่งไม่ยืนยันแน่ชัด) เป็นฝีมือของใคร  กองกำลังติดอาวุธ? กองโจร? หรือแค่ผู้ร้าย? และมีเป้าประสงค์ใดที่มุ่งเป้ายังพลเรือนผู้ผ่านทาง แต่ก็พอเชื่อได้ว่าแขวงดังกล่าวมีเชื้อชนวนและความไม่สงบอยู่แน่ๆ

 

ความรุนแรงของสถานการณ์จริงในแขวงไซสมบูนเป็นแบบไหน ระดับใด ยังเป็นเรื่องห่างไกลที่คนภายนอกยากจะรู้ เพราะทางหนึ่งสื่อซึ่งตะวันตกสนับสนุนนำเสนอต่อเนื่อง ขนาดสถานทูตให้น้ำหนักมากมีประกาศเตือนออกมา ขณะที่อีกฟาก – หนึ่งข่าวสารของฝ่ายรัฐบาลกลับไม่มีรายงานนำเสนอใดๆ เหมือนอยากจะให้เรื่องราวเงียบหายเป็นปกติ แต่ความปิดๆ เปิดๆ ดังกล่าวกลับยิ่งชวนให้ติดตามต่อ

 

ดูเหมือนว่าระยะสองเดือนมานี้ มีการช่วงชิงและปะทะกันของสงครามข่าวสารขนาดย่อมๆ  ฝ่ายหนึ่งปลุก!.. อีกฝ่ายใช้ความสงบสยบไว้!!

 

เมื่อ 50 ปีก่อน ล่องแจ้ง ซำทอง ไซสมบูน เป็นเขตปฏิบัติการทหาร สงครามลับที่ต้องปกปิดของมหาอำนาจ

 

50 ปีผ่านไป… หรือว่า ล่องแจ้ง ไซสมบูน ก็ยังคงเป็นพื้นที่ ที่ถูกเลือกเพื่อปฏิบัติการปกปิด เป็นเขตสงครามลับของมหาอำนาจอยู่เช่นเดิม !!??