BRIC แก่นแท้ของอสังหาฯ : ผศ.ดร. ภัทรพล เวทยสุภรณ์


จะว่าไปแล้วคำย่อของ “BRIC” หรือ Budget Real Estate Investor Club ซึ่งเป็นคำนิยามที่ผมได้ตั้งขึ้นสำหรับกลุ่มคนที่สนใจจะลงทุนใน “อสังหาฯ ไม่บาน” หรือ “Budget Real Estate” ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 38 ท่านแล้วครับ ส่วนคำว่า “อสังหาฯ ไม่บาน” ของ “BRIC” นั้นมีความหมายเป็นอย่างยิ่งสำหรับผมครับ คือต้องเป็น “อสังหาฯ ที่คุ้มค่า” และ “มีราคาประหยัด” เป็น “อสังหาฯ ไม่บาน” ที่ “ง่ายงาม พอเพียง”

 

อีกทั้งยัง “ไม่เบียดเบียน” ทั้งตัวเองและผู้อื่น เป็นแนวคิดแบบ “บูรณาการ” ซึ่งเหมาะอย่างยิ่งกับประเภท “มือใหม่หัดขับ” ที่อยากลงทุนใน “อสังหาริมทรัพย์” แบบค่อยเป็นค่อยไป เริ่มต้นจากการอ่อนน้อมถ่อมตนว่ามีความรู้น้อยแต่ลงมือทำมาก ให้ความจริงจากผลลัพธ์ที่ออกมาเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความสำเร็จครับ

 

ผลประโยชน์ที่จะได้รับของบรรดาสมาชิก “BRIC” มีดังนี้ คือ

 

ข้อที่ 1 คือ การลดความเสี่ยง สำหรับผู้ที่จะเริ่มลงทุนใน “อสังหาริมทรัพย์” จากที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

 

ข้อที่ 2 คือ การเพิ่มขีดความสามารถในการเริ่มทำธุรกิจที่เกี่ยวกับการลงทุนใน “อสังหาฯ ไม่บาน” จากนักลงทุนที่ไม่เคยมีประสบการณ์มาก่อน

 

ข้อที่ 3 คือ การเพิ่มความน่าเชื่อถือ การเพิ่มความเป็นไปได้ และการเพิ่มความเชื่อมั่น

 

ข้อที่ 4 คือ การสร้าง “Network” รวมทั้งการสร้าง “Connection” เกี่ยวกับการลงทุนใน “Budget Real Estate”

 

ข้อที่ 5 คือ การเพิ่มความสามารถทางด้าน “การตลาด” ทั้ง “ออนไลน์” และ “ออฟไลน์” ซึ่งในปัจจุบันการทำตลาด “E-Marketing” โดยผ่านโครงข่ายในระบบ “Internet” มีบทบาทที่สำคัญเป็นอย่างยิ่ง

 

ข้อที่ 6 คือ การสร้าง “โครงข่าย” ของการมีส่วนร่วม ซึ่งในการลงทุนใน “อสังหาฯ ไม่บาน” นั้น ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องมีส่วนร่วม โดยเริ่มจากขั้นตอนการศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการในการลงทุน ขั้นตอนการออกแบบ ทั้งทางสถาปัตยกรรมและวิศวกรรม ขั้นตอนการก่อสร้าง ซึ่งในปัจจุบันระบบ “Pre-Fabrication” หรือระบบ “โครงสร้างสำเร็จรูป” กลายเป็นหนึ่งในปัจจัยชี้วัดว่าจะประสบความสำเร็จหรือล้มเหลว

 

รวมไปถึงการบริหารจัดการโครงการที่ถูกต้อง โดยผู้รู้จริงและมีประสบการณ์จริง รวมไปถึงการเปิดทาง “ถอย” เมื่อตกอยู่ในสภาวะคับขันครับ

โดยเนื้อหาสาระจริงๆ แล้ว “แก่น” ของ “BRIC” อันเป็นการรวมตัวกันของบรรดา “สมาชิกนักลงทุนในอสังหาฯ ไม่บาน” ที่ผมฝันไว้คือ การร่วมมือร่วมใจกันสร้าง “เครือข่าย” ของบรรดา “SME” ที่คิดจะลงทุนใน “อสังหาฯ ไม่บาน” เป็นการแสวงหา “พันธมิตร” ที่เป็น “มิตรแท้” มีความจริงใจต่อกัน

 

แลกเปลี่ยน เรียนรู้และแบ่งปันกัน มีการเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน มีความเอื้ออาทรต่อกัน มีการสร้างสายสัมพันธภาพอันดีต่อกัน รวมทั้งทำงานร่วมกันในทุก “มิติ” จึงเป็นการร่วมแรงร่วมใจกัน เพื่อลดจุดอ่อน จุดด้อยของกันและกัน นอกจากนั้นยังเป็นการสร้างเสริมความเข้มแข็งและสร้างเสริมศักยภาพให้กันและกัน เพื่อนำไปสู่จุดหมายและความสำเร็จที่มั่นคง มั่งคั่ง แบบยั่งยืนร่วมกันครับ

 

ผมมักจะพูดเสมอครับว่า “ความฝันความหวังเป็นของฟรี” ครับ และ “BRIC” ก็เป็นหนึ่งใน“ความฝันความหวัง” ของผม ที่ผมได้ครุ่นคิดมานานจนมาตกผลึกเพราะผมรู้ดีว่าในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเปิด “AEC” เสรีอาเซียนเต็มรูปแบบแล้ว

 

หากอยู่อย่างโดดเดี่ยวไม่รวมตัวกันเป็นหนึ่งเดียว ก็น่าจะอยู่ยากและเติบโตได้อย่างลำบาก ดังนั้น “BRIC” จึงเป็นเหมือนอีก “ทางเลือก” หนึ่งซึ่งจะนำไปสู่ “ทางรอด” ในอนาคตของธุรกิจการลงทุน “อสังหาริมทรัพย์” ที่ในปัจจุบันกำลังก้าวไปสู่ “ระบบการผูกขาด”

 

จากบริษัทมหาชนรายใหญ่ไม่ถึง 10บริษัท ที่กำลังกำหนดทิศทางของการลงทุน “อสังหาฯ” ว่าจะต้องเป็นรูปแบบนั้น ราคาเท่านี้ ฯลฯเป็นกระบวนการ “ปลาใหญ่กินปลาเล็ก” ในระบบ “ทุนนิยม” ที่กำลังครอบงำไปทั่วภูมิภาคอาเซียน และทั่วโลก

 

จะว่าไปแล้วการที่มีความรู้ความสามารถ มีความอดทนทุ่มเท มีความเป็นนักสู้ไม่ยอมแพ้ แต่ก็ไม่เพียงพอหรอกครับที่ธุรกิจจะอยู่รอดปลอดภัยในโครงสร้างระบบ “ทุนนิยม” ที่ “ไม่มีที่ว่างสำหรับผู้อ่อนแอที่พ่ายแพ้” ใครที่เข้มแข็งกว่าหรือมีทุนมากกว่าหรือมีโอกาสเข้าถึง “แหล่งเงินทุน” มากกว่าก็จะได้เปรียบเสมอ และบรรดาผู้ประกอบการรายเล็กประเภท “SME” ก็จะเป็นผู้เสียเปรียบอยู่ร่ำไป

 

ดังนั้นการรวมตัวกันของนักลงทุนกว่า 38 ท่าน จนเกิดเป็น “BRIC” จึงเป็นเสมือนแสงสว่างปลายอุโมงค์ที่จะนำพาบรรดา “SME” ที่อยู่ในธุรกิจการลงทุนใน “อสังหาฯ ไม่บาน” ได้ก้าวเดินต่อไป