ชีพธรรม คำวิเศษณ์
……ผมกำลังมีอารมณ์อยากเขียนเรื่องราวการประชาสัมพันธ์ผ่านทวิตเตอร์อย่างรุนแรง เหมือนชายหนุ่มวัยรุ่นอยากกอดหญิงสาวที่ตนเองกำลังหลงรัก
หลายวันก่อน Twitter มีข้อความมาแจ้งเตือนว่า ผมมีผู้ติดตาม (Follower) 75,000 คนแล้ว ซึ่งผมเองอยากใช้ประโยชน์จากผู้ติดตามให้เกิดประโยชน์กับผู้อื่นด้วยการช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับธุรกิจ SME ที่ยังไม่มีช่องทางในการประชาสัมพันธ์ และ Twitter ก็คือเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์รวดเร็วที่สุด ไม่เชื่อก็มาทดสอบกันครับ
ในฐานะที่ผมเป็นบล๊อคเกอร์และนักเขียน ผมตระหนักถึง SmartSME ที่ให้เกียรติเชิญผมได้มาเขียนบอกเล่าประสบการณ์ สิ่งที่ผมอยากถ่ายทอด ผมไม่อยากให้ท่านเข้ามาอ่านเป็นทฤษฏีอย่างเดียว แต่ต้องการให้ได้ประโยชน์จากการอ่านนำไปปฏิบัติได้อย่างแท้จริง เพราะผลลัพธ์ของธุรกิจคือการลงมือทำและปฏิบัติตามทฤษฏีที่ได้เรียนมา
ท่านผู้อ่านเคยใช้ Twitter เพื่อการประชาสัมพันธ์หรือไม่ครับ ถ้ายังไม่เคย ก็ดาวน์โหลดแอป Twitter ลงบนสมาร์ทโฟนเลย เดี๋ยวผมจะค่อยๆ สอนเป็นขั้นตอน รับรองว่า สิ่งที่ท่านอยากประชาสัมพันธ์ธุรกิจของท่านมีผู้อ่านข้อความทันทีหลายร้อยคน ถ้าข้อความและภาพถ่ายนั้นโดนใจ
ขอให้ท่านผู้อ่านมองว่าผมเป็นนักข่าวเป็นสื่อสารมวลชนคนหนึ่งที่มีชื่อเสียง จินตนาการว่าผมเป็น กิตติ สิงหาปัด หรือ คุณสรยุทธ , สุทธิชัย หยุ่น หรือใครก็ได้ที่เป็นคนดัง แล้วจะช่วยพูดประชาชนสัมพันธ์เชิญชวนให้ทางโทรทัศน์ แต่ในทางกลับกันผมจะส่งผ่าน Twitter แทนครับ
ถ้าท่านใดอ่านหนังสือ The Facebook Effect (มีแปลเป็นภาษาไทย) มาร์ค ซักเกอร์เบิร์ค ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก เล่าถึงอำนาจของโซเชียลมีเดียก็เขาต้องการให้คนธรรมดามีอำนาจทางการสื่อสารเหมือนก้ับสถาบัน เป็นการเพิ่มอำนาจให้กับประชาชน
He built turns individuals into the authority. The entire service revolves around the profile and the actions of people. Facebook empowers them at the expense of institution.
ผมเคยเป็นผู้สื่อข่าวนักจัดรายการวิทยุที่มีชื่อเสียงเมื่อเกือบ 20 ปีที่แล้ว ไม่ใช่เพราะว่าผมเก่งหรือดีกว่าคนอื่น เพียงแต่ว่า ผมมีโอกาสไปนั่งจัดรายการวิทยุ FM 100.5 และ นักข่าวพิธีกรโทรทัศน์ ทางช่อง 9 อสมท. ผมมีโอกาสดีกว่าคนอื่นในการมีช่องในการออกอากาศเท่านั้น เพราะวันนั้นโลกไม่มีโซเชียลมีเดีย แต่ถ้าเดี๋ยวนี้ผมไม่ได้ใช้โซเชียลมีเดียก็จะถูกบุคคลธรรมดาที่ใช้โซเชียลมีเดียได้ดีซึ่งก็จะมีอิทธิพลกว่าผู้สื่อข่าว ซึ่งท่านผู้อ่านก็จะเห็นแล้วว่าข่าวสารในปัจจุบันเกิดจากโซเชียลมีเดียก่อนแล้วค่อยไปออกในสื่อกระแสหลัก
ก่อนเริ่มประชาสัมพันธ์ผมมีตัวเลขจาก Twitter เป็นกรณีศึกษาที่ผมได้ช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย และ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ผ่าน Twitter @tri333
สถิติ Twitter การส่งข้อความ 70 เส้นทางตามรอยพระบาท
70 เส้นทางตามรอยพระบาท เป็นหนังสือที่ ททท. ได้จัดพิมพ์ขึ้นเนื่องในวาระที่ในหลวง ร.9 ครองราชย์ครบรอบ 70 ปี เพื่อให้ข้อมูลไปเที่ยวโครงการในพระราชดำริโดยจัดแนะนำจัดเส้นทางท่องเที่ยว 3 วัน 2 คืน บ้าง หรือ 2 วัน 1 คืน บ้าง ตามแต่เส้นระยะทางใกล้หรือไกล พร้อมกับแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวที่ควรจะไปเที่ยวในเส้นทางที่เดินทางไปหรือบริเวณใกล้เคียง หลังจากที่ในหลวง ร.9 เสด็จสู่สวรรคาลัย หนังสือเล่มนี้ไปที่ต้องการมาก พิมพ์ไปเท่าไหร่ส่งไปที่ ททท. สำนักงานต่างๆ ทั่วประเทศก็แจกหมด เพราะประชาชนต้องการตามรอยพระบาทไปชมโครงการที่ช่วยพัฒนาและได้ท่องเที่ยวไปในตัว
ผมเห็น Facebook ของ ผอ.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ แห่ง ททท. เขียนประกาศผ่านเฟซบุ๊คให้เข้าไปดาวน์โหลดได้แล้ว ผมในฐานะที่เคยเป็นทีมงานดูแล Twitter @go2thailand ให้กับ ททท. มีจิตอาสาที่อยากช่วยประชาสัมพันธ์จริงเขียนข้อความตามที่ ผอ.ฐาปนีย์ ได้เขียน แล้วนำภาพมาใส่ พร้อมกับลิงค์ไปให้ดาวน์โหลดปรากฏว่า ไม่ถึง 12 ชั่วโมง มีการ รีทวีตส่งต่อไปเรื่อยๆ
มีคนมองเห็น 6,028 ครั้ง , การมีส่วนร่วมคือคลิ๊กเข้าไปดู 399 ครั้ง , รีทวีตหรือการส่งต่อ ถ้าเป็นในเฟซบุ๊กเรียกว่าแชร์ 97 ครั้ง มีผู้กดชอบใจ 83 ครั้ง คลิ๊กไปที่ลิงค์หน้าดาวน์โหลด 53 ครั้ง
ถือว่าเป็นตัวเลขยอดคนเห็นที่ใช้ได้เลยครับ โดยไม่ต้องเสียค่าประชาสัมพันธ์ เสียดายว่าไม่ได้ใส่ แฮชเทค #kingbhumibol ไม่อย่างนั้นจะมีคนส่งต่อเยอะกว่านี้เพราะว่า ทวิตเตอร์จำกัดข้อความส่งแค่ 140 ตัวอักษร
สถิติ Twitter ประชาสัมพันธ์ข้อความให้กับกรมอนามัย
Case Study กรมอนามัย
ย้อนเวลากลับไปที่เดือนสิงหาคม 2559 เวลาประมาณ 4 ทุ่ม ผมกำลังจะหัวถึงหมอน ปรากฏว่านึกขึ้นได้ทางฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกรมอนามัย ฝากภาพอินโฟกราฟฟิค หลับสนิท ชีวีมีสุข ในภาพจะแบ่งเป็นช่วงเวลาของแต่ละวัยว่าชั่วโมงการนอนระยะเวลานานแค่ไหนถึงจะเหมาะสมกับคนแต่ละวัย
จากนั้นผมก็เขียนข้อความและใส่ภาพลงไปใน ทวิตเตอร์ของผม กดทวีต หลับไปประมาณ 6 ชั่วโมง ตื่นเช้ามา หยิบไอแพดขึ้นมาเปิดทวิตเตอร์ก่อนไปทำธุระส่วนตัวยามเช้า ปรากฏว่า มีคนเห็นข้อความไปประมาณ 3 หมื่นครั้งเท่าที่จะได้ และ จากนั้นเครือข่ายในทวิตเตอร์ก็ทำงานส่งต่อข้อความไปเรื่อยๆ
ถ้าหากใช้ Facebook ในการส่งจะไม่คนเห็นเยอะขนาดนี้ และในที่สุดภาพอินโฟกราฟฟิคนี้มีคนเห็น 69,422 คน มีคนคลิ๊กเข้าไปชมภาพ 15,283 ครั้ง มีการรีทวีตส่งต่อ 2,048 ครั้ง
นี่คือพลานุภาพของ Twitter ในการประชาสัมพันธ์ข่าวสาร เป็นเครื่องมือที่กระจายข่าวสารได้รวดเร็วอย่างยิ่ง เราใช้คู่กับ Facebook ครับ
ผมอยากจะเรียนท่านผู้อ่าน ระบบตัวเลขที่ผู้เขียนนำมาเสนอ อยู่ในส่วน Twitter Analytics ถ้าหาก ใครที่ใช้งาน Twitter มาสักพักระบบจะมีให้ดูได้ในสมาร์ทโฟน และ สามารถเข้าไปดูผ่านเว็บไซต์ได้ที่ https://analytics.twitter.com
ตัวอย่างการส่ง Twitter และข้อความ
มาเริ่มประชาสัมพันธ์กันเลยครับ เปิด Twitter ขึ้นมาเลย
- ถ้าหากท่านได้ติดตั้ง Twitter เรียบร้อยแล้ว ให้มองไปที่สัญลักษณ์แว่นขยายในทวิตเตอร์ พิมพ์ค้นหาคำว่า @tri333 ซึ่งเป็นทวิตเตอร์ของผม ให้กดติดตาม (follow) และ ขอให้ติดตามทวิตเตอร์ของ @smart_sme
- เริ่มส่งข่าวประชาสัมพันธ์กันเลยครับ ที่ผมจะสอนนี่เป็นแบบง่ายๆ ที่สุด ไม่ต้องมีทฤษฏีอะไรมาก เหมือนส่งข้อความผ่านไลน์และเฟซบุ๊ค กดสัญลักษณ์ที่เป็นรูปขนนก พิมพ์ @tri333 กดเว้นวรรคหนึ่งเคาะ จากนั้นพิมพ์ข้อความ ไม่เกิน 140 ตัวอักษร ใส่ภาพได้ 4 ภาพ ใส่ลิงค์เว็บไซค์ และใส่ แฮชเทค #social4pr จากนั้นกดส่ง เพียงแค่นี้ก็ความก็จะถึงผู้เขียน
- ถ้าหากข้อความที่ส่งจะได้รับการพิจารณาจากผู้เขียนก่อนว่าสมควรจะส่งออกไปหรือไม่ ถ้าหากผู้เขียนกดปุ่ม รีทวีตออกไป หมายความว่าจะมีคนเห็นในทางตัวเลข 75,000 คน แต่ไม่ถึงหรอกครับ ขึ้นอยู่กับช่วงเวลาด้วย และคอนเทนต์เนื้อหาที่ทำการส่งด้วย แต่หลักพันหลักร้อยมีคนเห็นแน่นอน และถ้าหากผมรีทวีตให้กับใครก็จะกลับไปที่สัญลักษณ์กระดิ่งในแอพ Twitter
- หมั่นส่งทุกวันและอยากให้ติดตามการทวีตของคนอื่นๆ ด้วย หรือถ้าหากท่านโพสต์เฟซบุ๊กแล้ว ก็นำข้อความที่โพสในเฟซบุ๊ก หรือไลน์มาปรับส่งแล้วใส่ลิงค์เว็บไซต์ภาพ และ แฮชแท็ก #social4pr ด้วยครับ
นี่เป็นขั้นตอนในการประชาสัมพันธ์ฟรีผ่านทวิตเตอร์ที่อยากให้ท่านผู้อ่านได้ลองใช้เครื่องมือที่อยู่บนสมาร์ทโฟนของท่าน ถ้าหากท่านส่งมาหาผมคล่องแล้ว เดี๋ยวจะสอนเรื่องการส่งทวิตเตอร์ไปยังผู้สื่อข่าวกว่า 800 ราย และนำระบบผู้สื่อข่าว Twitter ติดตั้งไว้ในสมาร์ทโฟนครับ
ก่อนปิดท้ายบทความ ท่านผู้อ่านคงมีคำถามว่า Facebook กับ Twitter ต่างกันอย่างไร
ขอเปรียบเทียบอย่างนี้ครับ ถ้าเปรียบเทียบโซเชียลเน็ตเวิร์คของทั้งสองค่ายเหมือนกับเครื่องบิน
Twitter จะเหมือนกับเครื่องบินรบ F16 รวดเร็วมาก ยิงเข้าไปหมาย โดยตรง หลบหลีกรวดเร็ว
ส่งเวลาไหนก็ได้ซึ่งถึงใครก็ได้ที่อยู่บนทวิตเตอร์เป็นระบบโซเชียลเน็ตเวริ์คที่เปิดมากกว่า กว้างไกลกว่า ส่วน Faebook เหมือนกับ เครื่องบินพาณิชย์ แอร์บัส 380 ใหญ่เทอะทะ ไม่รวดเร็ว ส่วนใหญ่ได้แค่ในกลุ่มเครือข่ายเดียวกัน ลองนึกถึงถ้าเราโพสในเฟซบุ๊คของเราก็จะได้แต่เพื่อน หรือถ้าโพสในเฟซบุ๊คแฟนเพจก็จะได้แต่เครือข่ายเดียวกัน
อย่างไรก็ตามขอแนะนำให้ใช้ควบคู่กันครับ แต่ถ้ายังไม่มีเร่ิมใช้ Twitter ผมขอเรียนว่า สิ่งที่เขียนมานี่เป็นวิธีการที่ง่ายที่สุดในการประชาสัมพันธ์ ผมยินดีที่จะช่วยส่งข้อความข่าวสารในธุรกิจของท่านต่อไปยังผู้ติดตามในทวิตเตอร์ ถ้าหากเป็นข่าวประชาสัมพันธ์ที่น่าสนใจก็อาจจะไปส่งต่อใน Faebook, Line, Youtube, Instagram , Blog ต่อได้ครับ
ความจริงแล้ว Twitter มีระบบในการถ่ายทอดสดเหมือนกับ Facebook Live เรียกว่า Periscope ลองดาวน์โหลดเป็นแอปมาทำสอบเล่นกันได้ครับ
ขอให้ทุกท่านลองส่งข้อความประชาสัมพันธ์มานะครับ
ถ้าสงสัยสอบถามที่ Facebook ชีพธรรม ไตร คำวิเศษณ์