โอนเงินให้ผู้ต้องขัง ผ่านระบบ e-banking


พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงโครงการปรับปรุงระบบเงินฝากสำหรับผู้ต้องขังให้มีความเป็นระบบและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชน โดยบอกว่า ในระบบเดิมการฝากเงินให้กับผู้ต้องขังไว้สำหรับใช้จ่ายในเรือนจำ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการซื้อเครื่องใช้ประจำวันส่วนตัว จำพวก สบู่ ยาสีฟัน ขนม หรือนมกล่อง ญาติจะต้องเดินทางมายังเรือนจำที่ผู้ต้องขังถูกควบคุมตัว เพื่อฝากเงินเข้าบัญชีให้แก่ผู้ต้องขัง โดยเรือนจำอนุญาตให้ฝากเงินได้เดือนละไม่เกิน 9,000 บาท เพื่อให้นักโทษใช้จ่ายได้วันละไม่เกิน 300 บาท กรมราชทัณฑ์จึงมีโครงการทำความร่วมมือกับธนาคารของรัฐ เพื่อเข้ามาเปิดบัญชีเงินฝากและบัตรกดเงินให้แก่ผู้ต้องขัง เพื่อให้ญาติสามารถโอนเงินเข้าบัญชีของผู้ต้องขังผ่านระบบ e-banking หรือช่องทางต่างๆของทางธนาคาร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า ระบบเงินฝากรูปแบบใหม่นอกจากจะเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับญาติของผู้ต้องขังแล้ว ยังช่วยลดภาระหน้าที่ของเรือนจำที่ต้องเกลี่ยอัตราผู้คุมมาทำหน้าที่รับฝากเงินให้กับผู้ต้องขัง และเก็บรักษาเงินฝากของผู้ต้องขัง นอกจากนี้ยังเป็นการปิดช่องว่างไม่ให้เกิดข้อกล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่เรือนจำหักหัวคิวหรือค่าดำเนินการฝากเงินให้กับนักโทษ ซึ่งโดยกรมราชทัณฑ์พร้อมที่จะดำเนินการให้สถาบันการเงินเข้ามาออกเลขบัญชีให้กับผู้ต้องขังทั่วประเทศกว่า 367,000 คน และจัดทำระบบหรือออกบัตรเพื่อใช้ตัดลดวงเงินฝากจากยอดการใช้จ่ายประจำวันของนักโทษ ซึ่งกำหนดเพดานไว้ที่ 300 บาทต่อวัน ที่สำคัญเงินฝากในบัญชีธนาคารของนักโทษยังจะได้รับการคำนวณดอกเบี้ยเงินฝากในอัตราที่สถาบันการเงินกำหนดอีกด้วย