ชะตากรรมของร้านอาหารจีนในสหรัฐฯ รายได้ลด-ลูกค้าหาย จากไวรัสโควิด-19 ระบาดหนัก


สหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 มากที่สุดในโลก โดยมียอดรวมมากกว่า 1,800,000 ล้านคนเข้าไปแล้ว ซึ่งตัวเลขของผู้ติดเชื้อก็ยังเพิ่มขึ้นอยู่เรื่อย ๆ และไม่รู้ว่าจะไปจบกันที่เท่าไหร่

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในสหรัฐฯ ได้ส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางแก่ผู้ที่ทำธุรกิจเป็นอย่างมาก เช่นเดียวกับร้านอาหารจีนที่เปิดให้บริการอยู่ในดินแดนมะกันก็ต้องรับชะตากรรมกับเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างคาดไม่ถึง ทั้งที่ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้านั้นยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่าอยู่เลย

สำนักข่าวซินหัว เข้าไปสัมภาษณ์กับ หงเหริน เจ้าของร้านอาหารอีสต์ ดัมปลิง เฮาส์ ซึ่งเจ้าตัวกล่าวว่าการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้เปลี่ยนแปลงทุกอย่างไปโดยสินเชิง หากย้อนกลับไปไม่กี่เดือนก่อนหน้านั้นทางร้านได้เปิดตัวเมนูเกี๊ยวต้นตำรับในเมืองร็อกวิลล์ รัฐแมริแลนด์ของสหรัฐฯ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีจากลูกค้า และบรรยากาศภายในร้านก็ดูคึกคักเต็มไปด้วยผู้คนที่มีชีวิตชีวา แต่ปัจจุบันต้องนั่งอยู่ในห้องอาหารอันมืดมิด พร้อมครุ่นคิดว่าจะมีวิธีประคับประคองร้านในช่วงของการล็อกดาวน์ที่ทำให้เศรษฐกิจของประเทศหยุดชะงักอย่างไร

 

“ธุรกิจฝืดเคืองมาก ตอนนี้เราให้บริการซื้อกลับบ้านเพียงอย่างเดียว เรามองสถานการณ์เป็นสัปดาห์ต่อสัปดาห์ เพื่อวางจะทำอย่างไรต่อไป การวางแผนล่วงหน้าเป็นเรื่องที่ยากมากในสถานการณ์ปัจจุบัน ” หงเหรินกล่าว

เช่นเดียวกับ ปีเตอร์ ชาง เจ้าของร้านอาหารจีนชื่อดัง ก็กล่าวถึงการทำธุรกิจในช่วงการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ว่า ผลประกอบการร้านอาหารของตนทำได้เพียงร้อยละ 20 เมื่อเทียบกับช่วงก่อนการล็อกดาวน์ เนื่องทางการมีมาตรการให้ลูกค้าซื้อกลับบ้านได้เพียงอย่างเดียว

นอกจากนี้มาตรการล็อกดาวน์ยังเข้ามามีบทบาทในย่านศูนย์กลางของวอชิงตัน ดี.ซี. ที่มีความเจริญรุ่งเรือง และเป็นที่ตั้งของร้านอาหารจีนระดับสูงเพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าที่เต็มใจจ่ายแพงขึ้น ซึ่งก็มีร้านอาหารจีนชื่อดังตั้งอยู่ ไม่ว่าจะเป็น ร้านคิว บาย ปีเตอร์ ชาง และร้านมามาชาง โดยร้านคิว บายปีเตอร์ กล่าวว่าเขาไม่สามารถเปิดร้านเพิ่มได้จนกว่าทุกอย่างจะกลับสู่ภาวะปกติ

เช่นเดียวกับ ฟีโอนา ติง เจ้าของชิลลี ทอล์ก ซึ่งขึ้นชื่อในเรื่องอาหารเสฉวนต้นตำรับ กล่าวว่าร้านอาหารของเธอยังคงจ่ายค่าจ้างให้พนักงานตามปกติ แต่ไม่สามารถทำกำไรจากบริการซื้อกลับบ้านอย่างเดียวได้

 

 

“ลูกค้าของเรายังคงรักเรา ตอนนี้พวกเขาหันมาสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชัน แต่ค่าคอมมิชชันสูงมาก เราเลยไม่ได้ทำเงินจากตรงนี้ได้จริง ๆ แต่ฉันคิดว่าเราจะผ่านมันไปได้” ติงกล่าว

สำหรับอุตสาหกรรมร้านอาหารของสหรัฐฯ มีจำนวนร้านอาหารมากถึง 1 ล้านแห่ง และพนักงานอีกเกือบ 16 ล้านชีวิต โดยร้านอาหารหลายแห่งกำลังเผชิญกับความไม่แน่นอนอันเป็นผลพวงจากมาตรการรับมือโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ของรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม หลายพื้นที่ในสหรัฐฯ ขณะนี้ อยู่ระหว่างกระบวนการเปิดเศรษฐกิจใหม่ ซึ่งอาจใช้เวลาสักพักก่อนที่ร้านอาหารจะสามารถกลับมาเปิดบริการอย่างเต็มประสิทธิภาพ นอกจากนั้นบางเมืองในหลายรัฐ อาทิ เวอร์จิเนีย แมริแลนด์ อินเดียนา ฟลอริดา และเมน กำลังดำเนินการปิดถนนบางจุด เพื่อทำเป็นทางเท้าและเคลียร์พื้นที่สำหรับโต๊ะร้านอาหาร ก่อนกลับมาเปิดร้านอีกครั้ง

ที่มา: สำนักข่าวซินหัว