7-Eleven ปะทะ FamilyMart ส่งแอปฯ ชิงตลาดเดลิเวอรี่ ตอบโจทย์พฤติกรรมลูกค้าสมัยใหม่


ในช่วงที่ผ่านมาแอปพลิเคชันสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ดูเหมือนว่าจะได้รับความนิยมจากผู้บริโภคเป็นจำนวนมาก อาจจะด้วยสถานการณ์ที่เป็นใจจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ผู้คนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน ไม่สามารถเดินทางออกมาข้างนอกได้ จึงทำให้แอปพลิเคชันดังกล่าวตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องนี้

เช่นเดียวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม คือต้องการความสะดวกสบาย ไม่ต้องการเสียเวลาเดินทางไปร้านอาหาร จากที่กล่าวมาก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ผู้บริโภคต้องโหลดแอปพลิเคชันสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ไว้ในสมาร์ทโฟนเพื่อเรียกใช้บริการ

อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าบริการเดลิเวอรี่จะไม่ใช่มีแค่เพียงร้านอาหารอีกต่อไป แต่ยังรวมถึงร้านค้าปลีกในกลุ่มธุรกิจร้านสะดวกอันดับต้น ๆ ของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็น 7-Eleven และ Familymart ต่างเข้ามาร่วมวงในตลาดนี้เช่นกัน ซึ่งจะเห็นว่ามีการทำการตลาดอย่างหนักในช่วงหลัง

เริ่มกันที่แอปพลิเคชัน 7-Delivery ของร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven นั้นเริ่มต้นทดลองใช้ในบางสาขามาตั้งแต่ปี 2561 ที่มาพร้อมกับโปรโมชันไม่คิดค่าบริการ หากมีการซื้อสินค้าตั้งแต่ 100 บาทขึ้นไป เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า ซึ่งถือว่าได้รับผลตอบรับที่ดีอยู่ไม่น้อย

จากวันนั้นถึงวันนี้ 7-Eleven ยังพัฒนาแอปพลิเคชัน 7-Delivery อย่างต่อเนื่อง ด้วยการจับมือกับ LINE Official Account ให้ลูกค้าสั่งซื้อสินค้าภายใต้โปรโมชันเดียวกัน คือสั่งซื้อขั้นต่ำ 100 บาท จะส่งฟรี โดยพนักงานของ 7-Eleven จะเป็นคนไปส่งสินค้าให้ถึงที่พัก

 

 

ด้าน FamilyMart มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของสัดส่วนผู้ถือหุ้น หลังจากเซ็นทรัล รีเทล เข้าซื้อหุ้น FamilyMart ในประเทศไทยแบบ 100%

สำหรับ FamilyMart ได้ร่วมมือกับ Grab ให้บริการเดลิเวอรี่ผ่านแอปพลิเคชัน GrabMart ที่จัดโปรโมชันการสั่งซื้อที่ให้ส่วนลดไม่แพ้กัน

 

 

แน่นอนว่าการเพิ่มเครื่องมืออย่างแอปพลิเคชันเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจก็เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่มีอยู่ของร้านสะดวกซื้อให้เพิ่มขึ้น ซึ่งบริการแบบเดลิเวอรี่ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่มีความน่าสนใจ เห็นได้จากกระแสตอบรับที่จากแอปพลิเคชันส่งอาหารแบบเดลิเวอรี่