“สุกี้ตี๋น้อย” เมื่อการทำธุรกิจหยุดอยู่กับที่ไม่ได้ บริการใหม่จึงเกิดขึ้นเรื่อยๆ


สุกี้ตี๋น้อย แบรนด์นี้สร้างความสั่นสะเทือนให้กับวงการธุรกิจ ที่เริ่มต้นจากการนับหนึ่ง ปั้นแบรนด์จนติดตลาดเป็นที่รู้จักของผู้คนด้วยกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทั้งในเรื่อง “ราคา” และ “เวลา” นำมารวมกันจนออกมาเป็นบริการที่คนชอบกินสุกี้ต้องไปลองให้ได้

อย่างที่บอกไปข้างต้น กลยุทธ์ของสุกี้ตี๋น้อยอยู่ที่ “ราคา” ซึ่งเป็นแบบบุฟเฟต์ โดยเริ่มต้นที่ 219 บาท มองแล้วเป็นราคาที่คนทั่วไปจับต้องได้หากอยากกินสุกี้แบบบุฟเฟต์ ต่อมาคือเรื่องของ “เวลา” ที่เป็นช่วง 12.00 -05.00 น. เรียกได้ว่าเป็นทางเลือกให้กับคนที่ชอบกินอาหารดึกให้กับคนหลากหลายอาชีพ

แม้ว่าสุกี้ตี๋น้อยจะดำเนินธุรกิจมาได้ไม่นาน (ก่อตั้งในปี 2562) แต่มาวันนี้หากดูผลประกอบการถือได้ว่าธุรกิจเติบโตอย่างมาก ดูได้จากรายได้รวม และผลกำไรย้อนหลังของบริษัท บี เอ็น เอ็น เรสเตอรองท์ กรุ๊ป จำกัด (BNN) เจ้าของแบรนด์สุกี้ตี๋น้อย

• ปี 2562 รายได้รวม 499 ล้านบาท กำไร 15 ล้านบาท
• ปี 2563 รายได้รวม 1,223 ล้านบาท กำไร 140 ล้านบาท
• ปี 2564 รายได้รวม 1,572 ล้านบาท กำไร 148 ล้านบาท
• ปี 2565 รายได้รวม 3,976 ล้านบาท กำไร 591 ล้านบาท

จะเห็นได้ว่าตลอดระยะเวลา 4 ปี ของการดำเนินธุรกิจ ทำรายได้รวมไปกว่า 7,000 ล้านบาท และกำไรเพิ่มขึ้นทุกปี นั่นแสดงให้เห็นถึงการบริหารที่มีคุณภาพ

ปัจจุบัน สุกี้ตี๋น้อยมีจำนวนสาขา 46 สาขา โดยในปี 2566 ตั้งเป้าจะเปิดสาขาใหม่ไม่ต่ำกว่า 12 สาขา ซึ่งเราจะได้เห็นสาขาตามต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้น ไม่เพียงเท่านั้น สุกี้ตี๋น้อยวางแผนที่จะนำธุรกิจเข้าตลาดหุ้นให้ได้ในช่วงไตรมาส 2 หรือ 3 ของปี 2567 เปิดให้มีการ IPO

แน่นอนว่าการทำธุรกิจ หากยังทำแบบเดิมต่อไป ไม่วันใดวันหนึ่งความนิยมอาจเสื่อมคลาย ดังนั้น การมองหาบริการเพิ่ม หรือพัฒนาบริการที่มีอยู่ให้ดียิ่งขึ้นคงเป็นคำตอบของเรื่องนี้ ที่ผ่านมาเราเริ่มเห็น สุกี้ตี๋น้อย เปิดบริการใหม่ ๆ ออกมา ไม่ว่าจะเป็น “ข้าวแกงตี๋น้อยปันสุข”  โปรเจคเล็กๆ ที่ตั้งใจทำ โดยนำวัตถุดิบตัดแต่งจากสุกี้ตี๋น้อย มาปรุงเป็นกับข้าวอร่อยๆ เนื้อเน้นๆ และไม่หวังกำไร เริ่มต้นที่ 39 บาท มีทุกเมนู ไม่ว่าจะเป็น ต้ม ผัด แกง ทอด ซึ่งเปิดไปเป็นที่เรียบร้อย

 

 

นอกจากนี้ บริการล่าสุดอย่าง “Teenoi Express” สุกี้บุฟเฟต์ อร่อยไม่อั้น ราคาเดียว 439 บาท รวมเครื่องดื่ม และของหวาน ครบจบที่เดียว โดยเมนูไฮไลท์ เช่น เนื้อวากิวออสเตรเลีย บริสเกต MB 6 นุ่ม, เนื้อ Rib Eye นิวซีแลนด์, เนื้อ Oyster Blade ออสเตรเลีย, ลิ้นวัว อาร์เจนตินา, ลูกชิ้นกุ้งปั้นสด, น้ำซุป+น้ำจิ้ม Signature ซึ่งจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ที่อเวนิว เมเจอร์ รัชโยธิน

 

 

สุกี้ตี๋น้อย เริ่มเพิ่มทางเลือกให้กับธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นข้าวแกงตี๋น้อยปันสุข ซึ่งเป็นการต่อยอดออกมาจากสิ่งเดิมที่ทำอยู่ เช่นเดียวกับ “Teenoi Express” ที่เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าว่าจะเลือกกินสุกี้แบบไหน แต่ยังคงรูปแบบที่ยังเป็นบุฟเฟต์อยู่ เรื่องนี้สะท้อนอีกหนึ่งกลยุทธ์การทำธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน ขยับขยายบริการตอบโจทย์ลูกค้าอยู่เรื่อย ๆ ซึ่งเป็นกรณีศึกษาอย่างดีของคนทำธุรกิจมาสักระยะหนึ่งที่ไม่อยากหยุดอยู่กับที่

เรื่องที่เกี่ยวข้อง