ทำไมธุรกิจยุคนี้ต้องทรานส์ฟอร์มถึงจะอยู่รอด
การทำธุรกิจสมัยนี้ เราไม่อาจทำแบบเดิม ขายแบบเดิม บริหารแบบเดิมได้อีกต่อไป เพราะความก้าวหน้าของเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยมากขึ้นจึงเข้ามาเปลี่ยนแปลง ทำให้ธุรกิจที่ทำอยู่ดียิ่งขึ้น
จุดเริ่มต้นของ “สาธิดา การ์เม้นท์”
คุณศุภางค์ เล่าว่า ตอนแรกได้รับเสื้อผ้ามาเปิดท้ายขายของ และรายได้ดีจนตัดสินใจลาออกมาทำงานด้านนี้อย่างจริงจัง เมื่อได้ขายเสื้อผ้า จึงทำให้รู้ว่าการตัดเย็บเสื้อผ้าขายนั้นมีต้นทุนและกำไรอย่างไร เลยตัดสินใจเย็บขายเองและสร้างเป็นแบรนด์ของตัวเองขึ้นมา ก่อนจะลงทุน โดยใช้เงินทุนของ SME Bank และเกิดเป็น สาธิดา การ์เม้นท์ เมื่อปี 40 ซึ่งจะเน้นไปที่การรับตัดเย็บชุดทำงานส่งให้ห้างดังอย่าง Big C ทั่วประเทศ รับผลิตชุดยูนิฟอร์มของบริษัท รับผลิต ชุดนักเรียนส่งออกไปสิงคโปร์กว่า 20 โรงเรียนและรับตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นตามออเดอร์ให้ร้านเสื้อต่างๆ
ปัญหาที่เกิดขึ้น
คุณศุภางค์ เล่าต่อว่า สำหรับการจ้างแรงงานได้เลือกจ้างแรงงานไทย ถึงแม้ว่าจะมีอัตราค่าจ้างสูงกว่าแรงงานต่างด้าว เนื่องจากคนงานไทยมีฝีมือในการทำงานมากกว่าแรงงานต่างด้าว และเนื่องจากตนทำงานคนเดียว จึงมักจะมีปัญหาความผิดพลาดในเรื่องการบริหาร เทคโนโลยีและการโปรโมททางออนไลน์ต่างๆ จะไม่รู้เลย ซึ่งถ้าลูกค้าจะมาติดต่อสั่งออเดอร์ จะให้โทรหรือเดินทางมาดูที่โรงงานผลิตอย่างเดียว นอกจากนี้ พักหลังเศรษฐกิจไม่ดี เสื้อผ้าหน้าร้านของห้าง Big C ขายไม่หมด สต็อกหน้าร้านเต็ม ทำให้ห้างต้องชะลอการผลิตของเราลง และเดิมจะรับตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่นให้กับร้านเสื้อในแพลตินัมหลายร้าน พักหลังลูกค้าที่แพลตินัมหลายรายทยอยปิดร้านไปทำให้กำไรหายไปมาก จึงได้เริ่มเปลี่ยนตลาดมารับผลิตยูนิฟอร์มเพิ่มขึ้น มี Toyota , Chevrolet , Mitsubishi และ SCG แต่งานใหม่บางครั้งเราไม่เคยจับมาก่อน ไม่มีคอนเน็กชั่นกับ ซับพลายเออร์ผ้า ทำให้ต้องใช้เงินสดในการซื้อผ้า มาผลิต ทำให้ขาดความคล่องตัวในเรื่องเงินหมุนเวียน
จุดเปลี่ยน…
ในช่วงนั้นมีโครงการ ช่วยเหลือ SMEs จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี เข้ามาให้คำปรึกษา ในเรื่องของการบริหารธุรกิจ และเงินทุน นอกจากนี้ยังมีอาจารย์ของทางมหาวิทยาลัยในสาขาวิชาชีพตัดเย็บเสื้อผ้าเข้ามาดูที่โรงงานและให้คำปรึกษาเรื่องเทคโนโลยี จากเดิมที่เราใช้แรงงานคนในการจัดทำแพทเทิร์น หรือขยายไซส์ ตอนนี้ได้ใช้คอมพิวเตอร์มาทำแทน และเราได้นำงานไปส่งให้กับทางนักศึกษาของทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีทำให้เด็กๆ มีงานทำและเราก็ได้งาน พร้อมกับให้น้องๆ ในมหาวิทยาลัยช่วยจัดทำเว็บไซต์ ขายออนไลน์ต่างๆ ทำให้ผลประกอบการเราเพิ่มมากขึ้นกว่าเดิมจนปัจจุบันมีรายได้เข้ามากว่า 2 ล้านบาทต่อเดือน
นอกจากนี้ คุณศุภางค์ ยังบอกอีกว่า รู้สึกดีที่ได้เข้าร่วมโรงการช่วยเหลือ SMEs ของทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรีเพราะ ช่วยให้บริหารงานและเงินทุนเป็นมากขึ้น
By : รังรอง ทองเฉิดฉาย