13 กฎเหล็ก เพื่อความอยู่รอดของ สตาร์ทอัพ


เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับคนที่กำลังจะเลือกเดินบนเส้นทาง สตาร์ทอัพ ให้สามารถจินตนาการได้ว่าจะต้องเจอกับเรื่องอะไรบ้าง แล้วจะทำอย่างไรให้เดินไปถึงจุดมุ่งหมายได้ มาดูกันเลย

1.สตาร์ทอัพ ผู้ร่วมก่อตั้งคือหัวใจ เลือกคนที่ใจเดียวกับเรา

ข้อนี้สำคัญมาก ถือว่าเป็นข้อแรกที่ต้องทำให้ได้ก่อนเรื่องอื่นเลย เพราะถ้าไปเลือกคนที่มองไปคนละทางกับเราแล้วละก็ เชื่อได้เลยว่าแค่เริ่มต้นก็จะมีปัญหาแล้ว หากแตกต่างตั้งแต่ความคิดแรกจะไปต่อก็คงจะเป็นเรื่องยาก ค้นหาคนคอเดียวกับให้เจอ จะได้ไม่ต้องมานั่งแตกคอกันทีหลัง

2.ออกผลงานให้เร็วเข้าไว้

ความคิดดีแต่ออกผลงานช้าก็อาจจะตกขบวนหรือไม่ก็โดนคนอื่นเอาไปกิน เพราะอย่าลืมว่าคนที่คิดเหมือนเราก็มีอยู่มากมายและเกิดขึ้นได้ทุกวินาที ดังนั้นการตัดสินใจที่เร็วออกผลงานให้เร็วเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ต้องรู้จักช่วงเวลาที่เหมาะสมในการออกผลงาน ไม่ใช่รีบซะจนออกมาไม่ได้เรื่อง เร็วแบบนั้นก็ออกจะเกินไป

3.หาลูกค้าที่แท้จริงให้เจอ

การหาลูกค้าที่แท้จริงก็เป็นเรื่องสำคัญมาก เพราะลูกค้าที่แท้จริงแม้จะมีจำนวนน้อยแต่ก็คือกลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง เป็นคนที่ต้องการสินค้าของเราอย่างแท้จริง ปัญหาของคนกลุ่มนี้คืออนาคตของสินค้าของเราเลยก็ว่าได้ ดีกว่าสินค้าดังแต่ไม่มีใครต้องการมันอย่างแท้จริง

4.ความเข้าใจลูกค้าคือเรื่องสำคัญสุด

เรื่องนี้เป็นแกนหลักข้อหนึ่งของสตาร์ทอัพอยู่แล้ว ในคือต้องการแก้ pain point อะไรสักอย่าง ดังนั้นยิ่งเราเข้าใจลูกค้ามากขึ้นเท่าไรก็เท่ากับเราสามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนั้นๆ ได้อย่างลึกซึ้งมากขึ้น หรือจะกล่าวได้ง่ายๆ ว่า ยิ่งเข้าใจความต้องการของลูกค้ามากขึ้นเท่าไร ก็เหมือนกับแก้ไข pain point ได้ตรงจุดมากขึ้นเท่านั้น

5.ต่อยอดไอเดียอย่างต่อเนื่อง

คนพันธุ์สตาร์ทอัพจะหยุดอยู่ที่ความคิดเริ่มต้นเท่านั้นไม่ได้ จะต้องคิดต่อยอดออกไปเรื่อยๆ เพราะสุดท้ายแล้วผลงานที่ออกมาอาจจะไกลจากความคิดเริ่มต้นไปชนิดจำกันไม่ได้เลยก็มีให้เห็นอยู่ไม่น้อย คนที่อยากทำสตาร์ทอัพก็ต้องทำตัวเป็นมนุษย์ช่างคิดช่างสงสัยอยู่ในสายเลือด

6.ให้บริการแบบชั้นหนึ่งเสมอ

เนื่องจากลูกค้าของเรามักจะเริ่มต้นจากคนกลุ่มเล็กๆ ดังนั้นการสร้างความประทับใจที่เกินความคาดหวังของลูกค้าจะกลายเป็นตัวเร่งการเติบโตกลุ่มลูกค้าของเราออกไปได้อย่างมากมาย ดังนั้นการบริการของเราจะต้องเกินคาดหมายอยู่เสมอ

7.ผลงานต้องวัดผลได้

เรื่องการวัดผลก็เป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง เพราะหากไม่สามารถวัดผลได้ก็จะทำให้เราไม่สามารถพัฒนาสินค้าและบริการต่อไปได้ ดังนั้นเรื่องของการวัดผลจะต้องถูกออกแบบเอาไว้ตั้งแต่แรกเริ่มว่า จะวัดผลเรื่องไหนบ้างก่อนที่จะทำการพัฒนาสินค้าและบริการต่อไป

8.คุมค่าใช้จ่ายให้อยู่

ถึงแม้ว่าสตาร์ทอัพจะเป็นธุรกิจที่ไม่ได้ใช้เงินตัวเองลงทุน แต่ในช่วงเริ่มต้นก็ต้องรัดเข็มขัดกันอยู่พอสมควร ค่าใช้จ่ายในเรื่องต่างๆ ก็ต้องคุมกันให้อยู่อะไรประหยัดได้ก็ต้องประหยัดกันไป จึงพบเห็นอยู่ทั่วไปว่าสตาร์ทอัพมักจะเกิดขึ้นในสถานที่เรามักจะคาดไม่ถึงอยู่เสมอ

9.กำลังใจต้องมีอย่างไม่สิ้นสุด

ใครที่อยากทำธุรกิจแบบนี้จะต้องมีความคิดที่ติดบวกมากถึงมากที่สุด เพราะถ้าเป็นคนคิดลบแม้แต่นิดเดียวเวลาที่คุณเจอปัญหา หรือเรื่องไม่คาดฝันก็จะทำให้ทุกอย่างพังพินาศลงได้ง่ายๆ กำลังใจเป็นสิ่งที่ต้องสร้างขึ้นมาเองและจะต้องสร้างแบบไม่มีที่สิ้นสุดด้วย

10.เล็งที่เป้าหมายหลักเท่านั้น

เรื่องนี้ก็สำคัญไม่น้อย หลายครั้งที่เราพบว่าบางคนออกนอกลู่นอกทางจนหาทางกลับเข้าเส้นทางของตัวเองไม่เจอเลยก็มี ดังนั้นต้องเป็นคนหนักแน่นและรู้ตัวอยู่เสมอว่ากำลังทำเรื่องอะไรอยู่ เล็งที่เป้าหมายหลักเอาไว้เท่านั้น หากเผลอไปนอกลู่นอกทางต้องรีบกลับเข้ามาให้เร็ว

11.สร้างกำไรให้พออยู่ได้ก่อน

การสร้างกำไรระยะสั้นก็เป็นเรื่องสำคัญที่ต้องวางแผนเอาไว้ ไม่อย่างนั้นอาจจะไปต่อไม่ได้เพราะเงินทุนหมดไปก่อน ดังนั้นการวางจังหวะของการออกแบบ พัฒนา และวางตลาด ต้องมีความเหมาะสมกับกำลังคนกับกำลังทรัพย์ที่มีอยู่ เห็นไหมว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย

12.เรื่องยอมแพ้ต้องไม่อยู่ในหัว

ใครที่คิดจะเข้ามาเดินทางสายนี้ต้องเป็นพวกที่แพ้ไม่เป็น เพราะตลอดเส้นทางมักจะเจอกับด่านทดสอบกำลังใจอยู่ตลอดเวลา งานนี้ไม่เหมาะกับคนขี้แพ้หรือพวกชอบยอมแพ้แต่อย่างใด ใจคุณใหญ่พอหรือเปล่า

13.เดินต่อไปแม้จะถูกเซย์โน

ภูมิต้านทานการถูกปฏิเสธต้องเป็นหนึ่งในดีเอ็นเอของคนที่เลือกเดินทางสายนี้ เพราะกว่าไอเดียของคุณจะผ่านด่านแรกเชื่อว่าจะต้องถูกเซย์โนจากคนรอบข้างมาอย่างมากมายนับไม่ถ้วน ถ้าใจไม่แข็งพอก็ยากที่เดินไปยังจุดหมายที่ต้องการได้ แล้วคุณทนต่อการถูกปฏิเสธได้ไหม

ถ้าทำได้ครบทั้ง 13 ข้อที่กล่าวมาแล้วละก็ ขอเชิญคุณกระโจนเข้ามาในวิถีสตาร์ทอัพได้เลย อย่างน้อยก็เชื่อได้ว่าดีเอ็นเอของคุณแข็งแรงพอ