กสิกรไทยจับมือเอเชียทีค หนุนเงินหมุนเวียนให้ผู้เช่าร้านค้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว


กสิกรไทยจับมือเอเชียทีค ออกสินเชื่อพิเศษหนุนเงินหมุนเวียนให้ผู้เช่าร้านค้าในเอเชียทีคเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกระตุ้นการบริโภค โดยเล็งเห็นศักยภาพของแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเทพฯ ตั้งเป้ามีผู้เช่าร้านค้าในเอเชียทีคเข้าร่วมโครงการ จำนวน 300 ราย วงเงินสินเชื่อ 100 ล้านบาทภายในสิ้นปีนี้

นายโสมพัฒน์  ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ทีซีซีแลนด์ ผู้บริหารโครงการ เอเชียทีค เดอะริเวอร์ฟร้อนท์ กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมามีสถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในกรุงเทพฯ ส่งผลให้ภาวะเศรษฐกิจมีอัตราการชะลอตัวลง ผลกระทบที่เห็นคือ นักท่องเที่ยวต่างชาติลดน้อยลง การบริโภคในภาคครัวเรือน การลงทุน และการใช้จ่ายภาครัฐก็ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัด แต่สำหรับโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ศูนย์รวมไลฟ์สไตล์ริมแม่น้ำเจ้าพระยา แหล่งรวมร้านค้า ร้านอาหารกว่า 1,500 ร้าน ก็ยังสามารถดำเนินกิจการไปได้โดยที่ได้รับผลกระทบเป็นบางส่วน 

ซึ่งพบว่าปริมาณนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศลดลง โดยกรุ๊ปทัวร์นักท่องเที่ยวต่างประเทศลดลงกว่า 25% ส่วนนักท่องเที่ยวชาวไทยยังคงแวะเวียนมาไม่ขาดสาย จำนวนเงินไหลเวียนในโครงการอาจลดลงบ้าง จากการใช้จ่ายต่อคนจากเดิมเฉลี่ยอยู่ที่ 1,200 บาท อาจลดลงมาอยู่ที่ 1,000 บาท ทางโครงการเอเชียทีค จึงได้ร่วมมือกับธนาคารกสิกรไทย เปิดตัวโครงการสนับสนุนทางการเงินเพื่อผู้เช่าร้านค้าในเอเชียทีค โดยจะให้คำปรึกษาด้านสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง สามารถนำเงินไปลงทุนซื้อสินค้า เตรียมตัวขยายกิจการต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง สามารถรองรับการเปิดตลาด AEC และก้าวต่อไปได้อย่างมั่นคง

 ด้านนายพัชร สมะลาภา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ธนาคารกสิกรไทยร่วมกับเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ ออกโครงการสนับสนุนทางการเงินเพื่อผู้เช่าร้านค้าในโครงการเอเชียทีค เดอะ ริเวอร์ฟร้อนท์ เพื่อใช้ในการขยายธุรกิจและเป็นเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งประกอบด้วย สินเชื่อเพื่อธุรกิจเริ่มต้น บริการสินเชื่อสำหรับผู้ประกอบการที่อยู่ในช่วงเริ่มต้นธุรกิจ สินเชื่อไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สำหรับSMEsที่มีข้อจำกัดในการหาหลักทรัพย์มาค้ำประกันสินเชื่อ แต่ต้องการเงินทุนในการประกอบธุรกิจ ขยายกิจการ หรือเพื่อเสริมสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ 

“ผลกระทบทางการเมืองส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้ที่ลดลง โดยทางเราจึงมีแนวทางการปรับตัวของสถานการณ์ตอนนี้ว่า การที่เรานำระบบออนไลน์เข้ามาช่วยในการคอมพรีเม้นต์ในหน้าร้านก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะอาจจะเป็นอีกทางหนึ่งที่ช่วยโปรโมทของทางผู้ประกอบการซึ่งจะเรียกความสนใจได้ไม่มากก็น้อย”นายพัชรกล่าว

ด้านนางวัลลภา ไตรโสรัส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีซีซี แลนด์ จำกัด กล่าวเสริมว่า นอกจากทางโครงการเอเชียทีค  จะมีแผนการจัดกิจกรรมกระตุ้นการท่องเที่ยวและการช้อปปิ้งภายในโครงการอย่างต่อเนื่องแล้ว ยังเชื่อมั่นว่าความร่วมมือระหว่างเอเชียทีคและธนาคารกสิกรไทย จะเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่จะมาช่วยส่งเสริมให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย และช่วยเพิ่มสภาพคล่องให้ร้านค้ามีเงินทุนหมุนเวียนรองรับความผันผวนของเศรษฐกิจอย่างเพียงพอ

“โดยทางโครงการเอเชียทีคมีวัตถุประสงค์ มีความตั้งใจที่จะดูแลผู้เช่าทั้งหมด ให้ได้เติบโตไปพร้อมกับโครงการของเรา ซึ่งเอเชียทีคของเราได้ติดอันดับในประเทศของเราและเป็นที่ช้อปปิ้งแห่งแรกของโลกจึงอยากให้ทุกคนได้ภูมิใจ และมีความมั่นคงทางธุรกิจอย่างยั่งยืนไปพร้อมกับเอเชียทีค นำพาชื่อเสียงมาให้ประเทศ  ทั้งนี้ทางเราเชื่อมั่นว่าจากนี้ไปภาพรวมเศรษฐกิจน่าจะค่อยๆ ดีขึ้น หลังจากที่เหตุการณ์บ้านเมือง ณ ตอนนี้ค่อยๆสงบลง และในระยะยาวจะมีแนวโน้มที่สดใสแน่นอน” นางวัลลภากล่าวทิ้งท้าย