กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จัดกิจกรรมสื่อสัญจรสู่ทุ่งรังสิต กับกิจกรรมสัมมนา เพื่อหาทางออก SMEs ไทย ในช่วงฤดูกาลผลไม้ล้นตลาด กับผู้ประกอบการ SMEs ขนาดเล็กตัวจริง ณ บริษัท ไทยริชฟูดส์ กรุ๊ป จำกัด อำเภอธัญบุรี จังหวัด ปทุมธานี
บริษัท ไทยริชฟูดส์ กรุ๊ป จำกัด เป็นธุรกิจ SMEs ขนาดเล็กที่มีการก่อตั้งขึ้นในปี 1997 โดยคุณตะวัน และคุณวิโรจน์ บุญฤทธิ์ลักขณา ซึ่งเป็นบริษัทที่มีการผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ขนมหวานสำเร็จรูปแช่แข็ง อาทิเช่น บัวลอย ลอดช่อง บวชชี ข้าวเหนียวทุเรียน ลูกตาลลอยแก้ว ทั้งในประเทศและต่างประเทศในอาเซียน และยังมีสินค้าบางตัวอย่างลอดช่างที่มีการส่งออกไปทางฝั่งอเมริกาด้วย
ดร.อรรชกา สีบุญเรือง อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า บริษัท ไทยริชฟูดส์ นับว่าเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับผู้ประกอบการ SMEs รายใหม่ๆ และยังได้ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมให้การสนับสนุนมาโดยตลอด จากที่ตอนแรกมีผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียว คือ บัวลอยงาดำ จน ณ ตอนนี้ได้มีผลิตภัณฑ์ขนมหวานเพิ่มขึ้นอีกมากมาย นอกจากนี้ตั้งแต่ตั้งเป็นโรงงานมา ก็ได้รับใบรับรองที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้เป็นผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน และล่าสุดก็ได้รับการตอบรับให้จำหน่ายในประเทศที่เป็นมุสลิมได้ จะเห็นได้ว่าทางบริษัท ไทยริชฟูดส์ ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และได้มีการเข้าร่วมโครงการของทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมอีกหลายอย่าง ซึ่งโครงการที่สำคัญก็คือโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรม ที่ได้จัดติดต่อกันมาเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ซึ่งเป็นโครงการที่จะพัฒนาผู้ประกอบการให้มีความรู้ความเข้าใจในเรื่องของการทำธุรกิจมากขึ้น และทางคุณตะวัน และคุณวิโรจน์ บุญฤทธิ์ลักขณา ก็ได้เข้าร่วมโครงการนี้ด้วย ทำให้มีความรู้ความเข้าใจมากขึ้นและบวกกับความรู้ความสามารถที่มีก็สามารถทำให้ธุรกิจเติบโตไปได้ แล้วสิ่งที่น่าภูมิในก็คือเป็นอาหารไทย แล้ววัตถุดิบที่ใช้ก็เป็นของไทย เพราะใช้ผลไม้ไทยมาทำทั้งหมด ซึ่งจะช่วยลดปัญหาผลไม้ไทยล้นตลาด
นอกจากนั้นทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมยังได้มีการสนับสนุนให้มีการทำวิจัย จากสถาบันหรือมหาวิทยาลัยต่างๆ เพื่อให้สินค้าสามารถเก็บไว้ได้นานขึ้น เพราะถ้าจะส่งออกไปยังต่างประเทศสินค้าต้องสามารถเก็บไว้ได้เป็นปี ทำให้ต้องอาศัยการวิจัยเข้ามาช่วยดูว่าจะมีวิธีไหนหรือต้องทำอย่างไรเพื่อที่จะให้อาหารเก็บไว้ได้นานขึ้น เช่น ลอดช่อง ก็ต้องทำวิจัยว่าทำอย่างไรให้ลอดช่องที่ถูกแช่แข็งไว้นานๆ มีรสชาติเหมือนเดิมเมื่อนำมารับประทาน เพื่อให้ผลิตภัณฑ์สามารถขายได้ดียิ่งขึ้นไปอีก ก็ต้องอาศัยงานวิจัยเข้ามาเกี่ยวข้อง
ทางด้านคุณตะวัน บุญฤทธิ์ลักขณา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยริชฟูดส์ กรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า ได้ทำธุรกิจขนมหวานแช่แข็งมากว่า 10 ปี โดยในตอนแรกได้มองเห็นโอกาสในการทำธุรกิจขนมหวานและได้ทำการศึกษาเกี่ยวกับธุรกิจขนมหวานมาเป็นอย่างดี แล้วการที่มุ่งเน้นให้เป็นขนมหวานแช่แข็งก็เพราะสามารถเก็บไว้ได้นาน แถมยังเป็นการนำเอาผลไม้ที่มีอยู่ในประเทศมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์แช่แข็ง เช่น สละลอยแก้ว ลำไยลอยแก้ว เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีเมนูขนมหวานชนิดอื่นๆอีก อาทิเช่น บัวลอยเผือก ทับทิมแก้ว แปะก๋วยนมสด เป็นต้น ซึ่งรวมแล้วกว่า 30 เมนู และในปัจจุบันนี้สามารถผลิตและจัดจำหน่ายได้ถึงวันละ 4,000 กิโลกรัมต่อวัน ส่วนในเรื่องของผลไม้ก็ได้มีการบริหารจัดการให้สามารถมีจำหน่ายได้ตลอดทั้งปี ถ้าผลไม้ไทยบางชนิดออกผลปีละ 1 ครั้ง ก็จะมีการเก็บสต็อกไว้ เพื่อให้มีใช้ตลอดทั้งปี โดยใช้เทคโนโลยีการแช่แข็ง และผ่านกระบวนการทำละลาย แล้วให้ผลไม้อยู่ในสภาพคงเดิม หรือผลไม้บางประเภทที่ไม่สามารถเก็บไว้ได้นานอย่างเช่น สละ จะใช้วิธีสั่งซื้อจากสวนผลไม้ทั่วประเทศ หรือบางครั้งก็สั่งจากต่างประเทศ ทำให้ไม่มีปัญหาในการนำผลไม้มาแปรรูป
อย่างไรก็ตาม ในปี 2556 ไทยสามารถส่งออกอุตสาหกรรมอาหาร ได้ประมาณ 900,000 ล้านบาท และมีสินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ ข้าว น้ำตาลทรายแดง และแป้งมันสำปะหลัง ซึ่งสามารถส่งออกไปยังตลาดหลักอย่างอเมริกา ญี่ปุ่นและสหภาพยุโรป โดยในส่วนของภาคอุตสาหกรรมอาหารแปรรูปของไทยสามารถส่งออกได้ประมาณ 320,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งกลุ่มอาหารที่ไทยส่งออกไปมากที่สุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากนม อาหารแปรรูปแห้ง เครื่องปรุงรส เบเกอรี่ และขนมขบเคี้ยว
หากเปรียบเทียบอุตสาหกรรมอาหารของไทยกับประเทศในอาเซียนแล้ว จะเห็นได้ว่าไทยมีความได้เปรียบในด้านศักยภาพค่อนข้างสูง ซึ่งปัจจัยที่ไทยมีความได้เปรียบในด้านศักยภาพเพียงพอที่จะแข่งขันในตลาดอาเซียนและตลาดโลกได้
ดร.อรรชกา ยังได้กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า “ในขณะนี้ทางกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม จะสามารถช่วยเหลือเรื่องผลไม้ล้นตลาดได้ ในส่วนของการพัฒนาผู้ประกอบการอาหารแปรรูปให้มีความต้องการในการใช้ผลไม้มาแปรรูปให้สูงขึ้น เช่นบริษัท ไทยริชฟูดส์ ก็ได้มีการใช้ผลไม้ไทยที่กำลังล้นตลาดมาแปรรูป โดยให้ผลไม้ที่มาจากทั่วประเทศ ทำให้สอดคล้องกับฤดูการเก็บเกี่ยวผลผลิตของเกษตรกร ซึ่งทางกรมส่งเสริมอตุสาหกรรมจะเข้าไปช่วยเหลื่อในส่วนของผู้ประกอบการ ให้สามารถมารถทำธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับส่งเสริมให้มีความต้องการนำผลไม้มาแปรรูปมากขึ้น”