ไป่ตู้ บริษัทยักษ์ใหญ่จากประเทศจีน โดย 95% ของคนจีนใช้สินค้าทางอินเตอร์เน็ตจากไป่ตู้ ณ เวลานี้ ไป่ตู้ได้เริ่มรุกตลาดในไทย โดยมีสินค้าดี ๆ ที่เหมาะสมกับความต้องการของผู้ประกอบการ SMEs ในไทยพ่วงมาด้วย
รู้จักกับ ไป่ตู้
ไป่ตู้ ก่อตั้งธุรกิจในประเทศจีนเมื่อปี 2000 และในปี 2005 ได้เข้าตลาดหลักทรัพย์ในประเทศอเมริกา ทั้งนี้ได้เข้ามาในไทยในช่วง 2-3 ปี ที่ผ่านมา โดยสินค้าหลักของ ไป่ตู้ เป็น อินเทอร์เน็ตโปรดักซ์ มีทั้งในระบบ PC และในมือถือ ปัจจุบัน ไป่ตู้ ได้เน้นในด้านสินค้าเพื่อสุขภาพ เช่นตะเกียบอัจฉริยะ ที่สามารถตรวจสอบคุณภาพอาหารได้ว่าปลอดภัยต่อสุขภาพหรือไม่ และอุปกรณ์วัดความดันที่เชื่อมต่อกับแอพพลิเคชั่น สามารถตรวจวัดได้แม้อยู่ระยะไกล นอกจากนี้ยังมีตาชั่งที่สามารถบอกถึงปริมาณไขมัน และน้ำในร่างกายได้อีกด้วย
สินค้าของ Baidu ต่อธุรกิจ SMEs
ไป่ตู้ มีสินค้าในเครือมากมาย สำหรับสินค้าที่เหมาะสมแก่ผู้ประกอบการไทย คุณชฎากร ธนสุวรรณเกษม ผู้จัดการฝ่ายปฏิบัติการและการตลาด บริษัท ไป่ตู้ ประเทศไทย จำกัด ให้ข้อมูลว่า “สำหรับสินค้าที่เหมาะแก่ผู้ประกอบการ SMEs เรามีตัวไป่ตู้แอนตี้ไวรัส (Baidu Antivirus) เนื่องจากตอนนี้การซื้อของออนไลน์ค่อนข้างมีความเสี่ยงมากพอสมควร ซึ่งซอฟต์แวร์ตัวนี้เป็นซอฟต์แวร์ฟรี มีหน้าที่คือหากเจอเว็บไซต์ปลอมที่หน้าตาคล้ายกับเว็บไซต์ของจริง หรืออีเมลอันตราย ไป่ตู้แอนตี้ไวรัสจะสามารถตรวจจับและแจ้งเตือนได้ ซึ่งเป็นการรักษาข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้บริการได้อีกทางหนึ่ง และไป่ตู้ได้มีการคอนเน๊กกับเว็บไซต์ช๊อปปิ้งดัง ๆ ในประเทศไทยหมดแล้ว เหมาะมากกับธุรกิจ SMEs เนื่องจากไป่ตู้แอนตี้ไวรัสสามารถใช้ได้ทั้งกับคอมพิวเตอร์ในบ้าน และในเชิงธุรกิจ และขอประชาสัมพันธ์ ถึงผู้ประกอบการที่สนใจไป่ตู้แอนตี้ไวรัส สามารถติดต่อสอบถามมาที่ไป่ตู้ได้เลย รวมถึงหากผู้ประกอบการ SMEs ที่มีคอมพิวเตอร์ 20 – 30 เครื่อง มีความต้องการจะลงแอนตี้ไวรัสกับเรา เราก็สามารถส่งเจ้าหน้าที่ไปแนะนำได้”
Baidu กับธุรกิจแบบ B 2 B
สำหรับธุรกิจแบบ B 2 B ในด้านออนไลน์ไป่ตู้ที่ประเทศจีนมีแพล็ตฟอร์มโฆษณาอยู่ 2 ตัว คือ ไป่ตู้เสิร์ชเอนจิ้นมาร์เก็ตติ้ง (SEM) และไป่ตู้ ไชนีส แอดเวอร์ไทร์ซิ่ง เซอร์วิส ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้ ผู้ประการไทยและต่างชาติที่สนใจทำธุรกิจในประเทศจีน สามารถโปรโมทบริการ หรือสินค้ากับไป่ตู้ได้ โดยบริษัทในไทยที่ได้ไปเปิดตลาดที่จีนและเป็นที่รู้จักในตอนนี้คือ ธนคารกสิกรไทย และ ห้างสรรพสินค้าพารากอน ก็ได้มีการลงโฆษณากับไป่ตู้ ทั้งนี้มีคนจีนใช้ไป่ตู้ในโลกอิเทอร์เน็ต ถึง 95% จากทั้งประเทศ ถือได้ว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าอย่างยิ่ง เนื่องจากคนจีนส่วนใหญ่ค่อนข้างสนใจสินค้า และบริการของไทย ในเรื่องการท่องเที่ยว และโรงพยาบาล รวมถึงเครื่องสำอาง และไป่ตู้เองยังมีโครงการหนุน SMEs ขนาดเล็กให้สามารถลงทุนโฆษณากับไป่ตู้ในราคาไม่สูงได้อีกด้วย ถือเป็นหนึ่งช่องทางของผู้ประกอบการไทยที่สนใจลงทุนในประเทศจีน
สร้างความเชื่อมั่นด้านบริการแบบไป่ตู้
คุณ ชฎากร เล่าว่า “โดยส่วนตัวคิดว่าความเชื่อมั่นไม่ได้มาจากการลงโฆษณาที่ละเยอะ ๆ แต่มาจากการบริการของเราทั้งก่อนการขายและหลังการขาย การสำรวจความต้องการลูกค้า และต้องเข้าถึงผู้ใช้บริการให้ได้มากที่สุด เหตุผลที่เรามาตั้งทีมบุคลากรในไทยด้วย เนื่องจากเราค่อนข้างให้ความสำคัญในด้านนี้ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ใช้บริการ และสามารถแก้ไขสถานการณ์คับขันได้อย่างทันถ่วงทีหากมีปัญหาใด ๆ เกิดขึ้น เมื่อเราแก้ไขปัญหาของลูกค้าได้ ลูกค้าจะเกิดความประทับใจกับเรา และมอบความเชื่อมั่น และไว้วางใจแก่เราค่ะ”
มุมมองธุรกิจออนไลน์จากไป่ตู้
คุณชฎากร ให้ข้อมูลถึงมุมมองธุรกิจออนไลน์ว่า ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการ SMEs ที่มีเงินทุนน้อย ๆ ให้สามารถสร้างจุดเริ่มต้นให้ตนเองได้ จากข้อจำกัดเรื่องหน้าร้าน ทำให้ผู้ประกอบการอาจจะทำให้ก่อตั้งธุรกิจได้ยาก ธุรกิจออนไลน์จะช่วยให้ได้ง่ายขึ้น ความจริงธุรกิจออนไลน์มีมานาน แต่ยังไม่เป็นที่นิยมเท่ากับสมัยนี้ นอกจากนี้โลกโซเชียลต่าง ๆ ก็เป็นตัวช่วยหนุนในการทำธุรกิจออนไลน์ รวมถึงพฤติกรรมผู้บริโภคที่ต้องการความสะดวกสบายมากขึ้น ส่งผลให้เกิดผู้ประกอบขึ้นมามากมาย ถึงเป็นช่องทางในการหนุนนำเศรษฐกิจได้เป็นอย่างดี