ดัชชีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ SMEs ลดลง


สสว. สรุปดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ SMEs พ.ย.2557 ลดลงอยู่ที่ 45.7 พร้อมคาดการณ์ 3 เดือนหน้า จะเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 58.5 โดยธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน ร้านอาหาร และภัตตาคาร เป็นกลุ่มที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุด ผลจากระดับราคาน้ำมันลดลงต่อเนื่อง

               

รายงานข่าวจากสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยถึงผลการสำรวจดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ (Trade & Service Sentiment Index: TSSI) ประจำเดือนพฤศจิกายนลดงลง เมื่อเปรียบเทียบกับเดือนตุลาคม 2557 ที่ผ่านมา ทั้งนี้พบว่า ดัชนี TSSI SMEs รวมภาคการค้าและบริการลดลงอยู่ที่ 45.7 จากระดับ 49.6 ลดลงไป 3.9 ผลจากการลดลงของดัชนีภาคการค้าส่ง ค้าปลีกและภาคบริการ ซึ่งอยู่ที่  47.7  44.1 และ 46.7 จากระดับ 49.0  48.7 และ 51.0 ลดลง 1.3  4.6 และ 4.3 ตามลำดับ เนื่องจากสถานการณ์เศรษฐกิจประเทศในภาพรวมยังคงซึมตัว ซึ่งมีผลมาจากระดับราคาสินค้าเกษตรยังคงอยู่ในระดับที่ต่ำ การบริโภคและการลงทุนภาคเอกชนลดลง ขณะที่การส่งออกมีความผันผวนจากเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าสำคัญ

ขณะที่ดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้า ค่าดัชนีรวมภาคการค้าและบริการ ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 58.5 จากระดับ 57.9 เพิ่มขึ้น 0.6 โดยภาคค้าปลีกและภาคบริการ ค่าดัชนีปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 59.9 และ 57.6 จากระดับ 59.1 และ 56.2 เพิ่มขึ้น 0.8 และ 1.4 ตามลำดับ ส่วนภาคค้าส่ง ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 57.1 จากระดับ 58.6 โดยลดลง 1.5 สำหรับความเชื่อมั่นต่อธุรกิจตนค่าดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 71.5 จากระดับ 68.0 ทั้งนี้เพิ่มขึ้น 3.5 ขณะที่ความเชื่อมั่นต่อเศรษฐกิจประเทศ ค่าดัชนีลดลงอยู่ที่ 81.0 จาก 83.1 ลดลง 2.1

อย่างไรก็ดี มีการคาดการณ์ว่าค่าดัชนีที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และอยู่ในระดับที่เกินกว่าค่าฐานคือ 50 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าผู้ประกอบการ SMEs ยังคงมีความเชื่อมั่นว่าการประกอบธุรกิจในช่วง 3 เดือนข้างหน้าจะปรับตัวดีขึ้น โดยมีปัจจัยสำคัญมาจากราคาน้ำมันมีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อต้นทุนของผู้ประกอบการ SMEs ขณะเดียวกันจะกระตุ้นให้เกิดการใช้น้ำมันเพิ่มมากขึ้นในระยะต่อไป จากสถานการณ์ค่าครองชีพเริ่มปรับตัวดีขึ้น เห็นได้จากดัชนีราคาผู้บริโภคในเดือนพฤศจิกายน อยู่ที่ระดับ 107.19 ลดลงจากเดือนก่อนซึ่งอยู่ที่ 107.32 ส่วนสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ดีขึ้น โดยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ขณะเดียวกันผู้ประกอบการเชื่อว่าเศรษฐกิจของประเทศจะปรับตัวในทิศทางที่ดีขึ้น ผลจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลในรูปแบบต่างๆ และการเร่งรัดโครงการลงทุนของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้มีการอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ ก่อให้เกิดการจ้างงานและการบริโภค มีความคึกคักเพิ่มมากขึ้น

 

เมื่อพิจารณาดัชนีคาดการณ์รายภาคธุรกิจ พบว่า ภาคค้าปลีก กิจการสถานีบริการน้ำมัน ค่าดัชนีคาดการณ์เพิ่มขึ้นมากที่สุดอยู่ที่ 65.0 จากระดับ 58.8 เพิ่มขึ้น 12.1 เนื่องจากราคาขายปลีกน้ำมันมีการปรับตัวลดลงต่อเนื่อง โดยเฉพาะน้ำมันเบนซิล 95 ในช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน มีราคาอยู่ที่ 40.76 บาทต่อลิตร ลดลง 2.10 บาทต่อลิตร และมีแนวโน้มลดลงอีก ภาคบริการ พบว่า กิจการร้านอาหารหรือภัตตาคาร ดัชนีเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 61.4 จากระดับ 51.9 เพิ่มขึ้น 9.5 ผลจากสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวปรับตัวดีขึ้น โดยในเดือนพฤศจิกายน มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในประเทศไทยจำนวน 2.44 ล้านคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.53 เมื่อเที่ยบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และเป็นการเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 2

 

ทั้งนี้ถึงแม้ว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการภาคการค้าและบริการ SMEs จะลดลง แต่ก็ยังคงไม่เป็นที่น่ากังวลมากนัก เนื่องจากปัจจุบันราคาน้ำมันยังคงมีการปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อผู้ประกอบการที่ต้องขนส่งสินค้า ให้สามารถลดต้นทุนในการจัดส่งไปได้เป็นอย่างดี จึงทำให้การคาดการณ์ดัชนีฯ ว่าในอีก 3 เดือนข้างหน้าย่อมเกิดผลดี และเศรษฐกิจจะกลับมาดีขึ้นอีกแน่นอน