ธ.ก.ส. จัดงบ 72,000 ล้าน หนุน SMEs ภาคการเกษตร


นายอภิรมย์สุขประเสริฐ รองผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมาเกษตรกรจะประสบปัญหาหลักๆอยู่ 2 เรื่อง คือปัญหาภัยแล้งและราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำที่เกิดจากผลกระทบภาวะเศรษฐกิจโลก รวมไปถึงปัญหาราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงต่อเนื่องก็จะส่งผลต่อการส่งออกยางพารา เนื่องจากผู้ผลิตจะหันไปใช้ปิโตเลียมซึ่งมีราคาถูกลง ภาครัฐก็ต้องการลดภาระให้เกษตรกรแต่จะพยายามไม่แทรกแซงตลาด ดังนั้นจะเน้นในเชิงชดเชยต้นทุนการผลิตในช่วง2ปีที่ผ่านมา ขณะนี้ปัญหาภัยแล้งก็มีการช่วยเหลือแบบแยกประเภทของพืชนั้นๆโดยให้สินเชื่อแบบผ่อนปรนที่ชื่อว่าสินเชื่อเพื่อค่าใช้จ่ายฉุกเฉินของเกษตรกรเจาะกลุ่มผู้ที่ประสบปัญหาภัยแล้ง สินเชื่อนี้จะมีไปจนถึงเดือนมิถุนายน59 กำหนดวงเกินกู้ไว้ไม่เกิน 12,000 บาท/ราย ชำระคืนไม่เกิน 1 ปี ไม่มีดอกเบี้ย 6 เดือนแรก หลังจากนั้นจะคิดดอกเบี้ยร้อยละ4ต่อปี ซึ่งเกษตรกรก็ให้ความสนใจเกือบหมื่นรายในช่วงเปิดตัวโครงการใหม่ๆเพียง 1 เดือนแรกเท่านั้น

 

นอกจากนี้ ธ.ก.ส. ยังมีโครงการสินเชื่อ 1 ตำบล 1 SME เกษตร ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญของ ธ.ก.ส. เพื่อสร้างความยั่งยืนของภาคเกษตรไทย ภายใต้ งบประมาณ 72,000 ล้านบาทในปีแรก สนับสนุนสินเชื่อรายละไม่เกิน 20 ล้านบาท ดอกเบี้ย 4% นาน 7 ปี เมื่อเข้าสู่ปีที่8 จะคิดอัตราดอกเบี้ยปกติของธนาคาร เชื่อว่าอย่างน้อยต้องมีผู้ประกอบการเกษตรตำบลละ 1 รายเพื่อเป็นหัวขบวนสำคัญ กลุ่มเป้าหมายที่จะส่งเสริมในโครงการนี้กลุ่มแรกจะเป็นเสมือนสมาร์ทฟาร์มเมอร์ มีการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ กลุ่มที่สองคือเกษตรกรวิสาหกิจชุมชน ปีนี้ตั้งเป้าว่าหากมีหัวขบวนที่ดีแล้วก็จะทำปีถัดไปอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกษตรกรทั่วประเทศสามารถมาสอบถามรายละเอียดเข้าร่วมโครงการได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาทั่วประเทศ