ดันสุดลิ่ม!SMEไทยเจาะตลาดAEC


นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวถึงการสนับสนุนภาคการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลังว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการให้กรมดำเนินโครงการปฏิรูปภาคการค้าไทยสู่เศรษฐกิจยุคใหม่ เริ่มดำเนินงานเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้กับผู้ประกอบการไทยทั้งภาคสินค้าและธุรกิจบริการและสร้างความเชื่อมโยงสู่ตลาดโลกในลักษณะเจาะลึกรายเมือง ด้วยการพัฒนาตลาดทั้งในแบบตลาดเดิมและรูปแบบอีคอมเมิร์ซ

รวมทั้งขยายบทบาทการดำเนินการของสำนักงาน ส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (สคร.) ให้ครอบคลุมทั้งการสนับสนุนการค้าและประกอบธุรกิจในต่างประเทศ โดยกรมมี 5 โครงการย่อยที่ต้องดำเนินการคือ 1.เจาะลึกตลาด CLMV กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เปรียบเสมือนเป็นตลาดย่อยจากไทยด้วยการจัดงาน Top Thai Brands ที่จะช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการขนาดกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่มีแบรนด์ของตัวเองให้มีช่องทางส่งออกสู่ตลาดต่างประเทศ

2.ยกระดับผู้ประกอบการไทยด้วยการสร้างแบรนด์และการใช้นวัตกรรม มุ่งเน้นการสร้างแบรนด์ในเชิงเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ในกลุ่มของสินค้า เน้นกลุ่มอัญมณีเครื่องประดับ อาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ ด้านบริการเน้นการรับจัดงานบริการด้านโฆษณา และด้านบันเทิงเน้นกลุ่มผู้ประกอบการที่มีศักยภาพสูง เป็นต้น

3.ดำเนินโครงการเจาะตลาดออนไลน์สู่สากลด้วยอีคอมเมิร์ซของประเทศ เพื่อสร้างโอกาสให้เอสเอ็มอีผ่านตลาดออนไลน์เช่น Thaitrade.com เพื่อให้สินค้าไทยไปยังตลาดโลก TopThaiBrands.com เพื่อเป็นเวทีในการสร้างส่งเสริมตราสินค้าไทยสู่สากล มีเป้าหมายให้ไทยเป็นศูนย์กลางด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียนในปี 2563 สร้างมูลค่าการค้าออนไลน์ 10,000 ล้านบาท

4.โครงการปฏิรูปธุรกิจบริการสู่การค้าระหว่างประเทศเชิงรุก ควบคู่กับการส่งออกสินค้าซึ่งปัจจุบันภาคบริการมีสัดส่วนเพียง 52% ของอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) จ้างงาน 49% ของการจ้างงานรวมโดยจะผลักดันธุรกิจบริการใน 6 กลุ่มเป้าหมาย และ 5.ปฏิรูปองค์กรเพื่อรองรับการเป็นผู้นำด้านการส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศของไทยในเศรษฐกิจยุคดิจิตอล