พณ. แนะเอสเอ็มอีตั้งรุก-รับแผนศก.ฮ่องกง


พาณิชย์ แนะเอสเอ็มอีไทยใช้วิกฤตจากแผนผลักดันเศรษฐกิจฮ่องกง เป็นโอกาสคว้าตลาดในอาเซียน

นางมาลี โชคล้ำเลิศ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึง รายงานจากสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ (สคต.) ณ เมืองฮ่องกง เกี่ยวกับแผนผลักดันเศรษฐกิจฮ่องกงและผลกระทบต่อไทยว่า ฮ่องกงได้ประกาศนโยบายการคลังประจำปี 59-60 ซึ่งนโยบายส่วนใหญ่เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งภายในและต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการไทยต้องปรับตัวให้ทันต่อแผนผลักดันเศรษฐกิจฮ่องกงฉบับนี้ แม้ฮ่องกงเป็นคู่ค้าอันดับที่ 9 ของไทย แต่ถือเป็นตลาดที่สำคัญทางการค้าของภูมิภาค เมื่อวิเคราะห์ถึงการเปลี่ยนแปลงที่สอดคล้องกับจุดเด่นของนักธุรกิจฮ่องกง และงบประมาณที่สนับสนุนในปีนี้จะพบทั้งโอกาสและผลกระทบต่อเศรษฐกิจของไทย

โดยฮ่องกงได้ประกาศนโยบายการคลังประจำปี 59-60 ที่สำคัญ ได้แก่ การลดภาษีลงสูงสุด 75% การอัดฉีดงบประมาณ เพื่อดึงธุรกิจการท่องเที่ยวและการถ่ายทำภาพยนตร์ และการทุ่มงบก้อนโตเพื่อส่งเสริมเงินทุน SMEs และนโยบายผลักดันด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และการวิจัย ซึ่งใช้งบประมาณรวมมากกว่า 17,300 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 6% ของงบประมาณรวมของประเทศ

สำหรับผู้ประกอบการไทยต้องดำเนินการเชิงรุกเช่นเดียวกัน ซึ่งสินค้าไทยที่ประสบความสำเร็จในการขยายตลาดด้วยวิธีนี้ ได้แก่ เครื่องสำอางมิสทีน ที่ไม่ต้องมีหน้าร้าน แต่ซื้อขายผ่านออนไลน์และแอพพลิเคชั่นการสั่งสินค้า หรือสินค้าแฟชั่น เสื้อผ้า รองเท้า รวมถึงข้าวหอมมะลิไทย เป็นต้น

นอกจากนี้ ไทยควรใช้โอกาสจากเขตการค้าเสรีอาเซียนและฮ่องกงให้มากขึ้น ในฐานะที่ไทยเป็นประเทศที่ให้ความร่วมมือแก่ข้อตกลงทางการค้าดังกล่าวตั้งแต่เริ่มเจรจา และมีพื้นที่ตั้งอยู่ในศูนย์กลางของอาเซียน จึงควรใช้โอกาสนี้ในการขยายแนวทางความร่วมมือกับรัฐบาลฮ่องกง โดยเฉพาะด้านการลงทุน โดยกำหนดอุตสาหกรรมหรือธุรกิจบริการที่สามารถดำเนินการร่วมกันได้ในอนาคต เช่น อุตสาหกรรมหุ่นยนต์ ธุรกิจภาพยนตร์ อุตสาหกรรมแฟชั่น เป็นต้น รวมถึงฮ่องกงต้องการพัฒนาการค้าด้านทรัพย์สินทางปัญญา ซึ่งไทยควรใช้โอกาสนี้ในการปรับตัว เพื่อรองรับการค้าดังกล่าวควบคู่กับการขยายตลาดสู่อาเซียนด้วย