14.10 น. “แรงงาน”ระบุ นายจ้างขอโควต้า จ้างแรงงานต่างด้าวได้ 24 กิจการ


นายอารักษ์ พรหมณี อธิบดีกรมการจัดหางาน (กกจ.) กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า นายจ้าง สถานประกอบการที่มีความจำเป็นต้องจ้างแรงงานต่างด้าว สามารถดำเนินการนำเข้าแรงงานต่างด้าวได้ 4 สัญชาติ คือ พม่า ลาว กัมพูชา และเวียดนาม โดยสัญชาติพม่า ลาว และกัมพูชา

สามารถทำงานได้ในตำแหน่งอาชีพกรรมกรใน 24 กิจการ ประกอบด้วย ประมง เกษตรและปศุสัตว์   ก่อสร้าง ต่อเนื่องการเกษตร ต่อเนื่องปศุสัตว์  รีไซเคิล รับซื้อของเก่า คัดแยกขยะ คัดแยกของเก่า ทำเหมืองแร่และเหมืองหิน ผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับโลหะ ผลิตหรือจำหน่ายอาหารเครื่องดื่ม ผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากดิน ผลิตหรือจำหน่ายวัสดุก่อสร้าง แปรรูปหิน ผลิตหรือจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป เครื่องแต่งกาย สิ่งทอ เครื่องประดับ ชิ้นส่วนรองเท้า ผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์พลาสติกเคมี ผลิตปุ๋ย ของเล่นเด็ก ผลิตหรือจำหน่ายผลิตภัณฑ์กระดาษ ผลิตหรือจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้า แบตเตอรี และยานยนต์ ขนถ่ายสินค้าทางบก ทางน้ำ คลังสินค้า อู่ซ่อมรถ ล้าง อัดฉีดสถานีบริการน้ำมัน แก๊ส เชื้อเพลิง สถานศึกษา มูลนิธิ สมาคม สถานพยาบาล กิจการให้บริการต่างๆ ยกเว้น กิจการรับเหมาแรงงาน และแปรรูปสัตว์น้ำ และคนรับใช้ในบ้าน

ส่วนสัญชาติเวียดนามตำแหน่งกรรมกร กำหนดเฉพาะในกิจการก่อสร้าง และประมงทะเล เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดแคลนแรงงานในประเทศ ทั้งนี้ แรงงานต่างด้าวที่เข้ามาทำงานในไทยผ่านเอ็มโอยู จะไม่สามารถเปลี่ยนนายจ้างได้ยกเว้น 4 กรณี คือ นายจ้างตาย นายจ้างเลิกกิจการ นายจ้างกระทำทารุณกรรม และนายจ้างไม่ปฏิบัติตามกฎหมายคุ้มครองแรงงาน โดยนายจ้าง/สถานประกอบการสามารถติดต่อยื่นขอนำเข้าแรงงานต่างด้าวได้ ที่สำนักจัดหางานกรุงเทพเขตพื้นที่ 1-10 หรือสำนักงานจัดหางานจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ในปี 2559 (ข้อมูลเดือนพฤษภาคม) มีแรงงานต่างด้าวที่นำเข้ามาทำงานตามเอ็มโอยู 323,270 คน แบ่งเป็น พม่า 155,835 คน ลาว 33,899 คน และกัมพูชา 133,536 คน โดยประเภทกิจการที่ได้รับอนุญาตทำงานมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.การให้บริการต่างๆ 2.กิจการก่อสร้าง 3.กิจการต่อเนื่องการเกษตร 4.ผลิตหรือจำหน่ายเสื้อผ้าสำเร็จรูป 5.ต่อเนื่องประมงทะเล