14.37 น. อย. ชี้ ถอด “ยาบ้า” ออกจากยาเสพติด จำนวนผู้เสพควรลดลง


นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กล่าวถึงกรณีที่ ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) เสนอแนวคิดในการเปลี่ยนสารในกลุ่มแอมเฟตามีน หรือยาบ้า ออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522  ว่า

การจะถอดยากลุ่มแอมเฟตามีน ออกจากบัญชียาเสพติดให้โทษประเภท 1 นั้น อยู่ที่นโยบายของฝ่ายการเมืองว่าจะกำหนดอย่างไร  เหมือนเมื่อครั้งที่ฝ่ายการเมืองกำหนดให้ อยู่ในกลุ่มยาเสพติดให้โทษ

อย่างไรก็ตาม การถอดแอมเฟตามีน ออกจากยาเสพติด ไปเป็นวัตถุออกฤทธิ์นั้น หลักๆ ขณะนี้คือ ช่วยลดจำนวนผู้ต้องขัง  และเพิ่มการเข้าถึงการบำบัดของผู้เสพให้มากขึ้น ซึ่งหมายถึงกรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต และโรงพยาบาล ก็ต้องเตรียมความพร้อมในเรื่องของการบำบัด

แต่หากพิจารณาจากเป้าหมายใหญ่ของประเทศไทยต้องการคือ ลดจำนวนเสพยาเสพติดลงนั้น  ก็ต้องพิจารณาว่า จะสามารถลดจำนวนผู้เสพลงได้หรือไม่ เพราะหากเน้นเพิ่มการเข้าถึงการบำบัด แต่จำนวนผู้เสพไม่ลดลง ก็อาจจะไม่ตอบโจทย์

ส่วนเมื่อแยกออกมาแล้ว จะกำหนดให้ แอมเฟตามีน เป็นวัตถุออกฤทธิ์ประเภทใด  ระหว่างประเภท  1 คือ  พ.ร.บ.วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ.2518  หรือ ประเภท 2 เป็นกลุ่มเดียวกับ ซูโดอีเฟดรีน ซึ่งจะขายได้เฉพาะโรงพยาบาลหรือคลินิกที่มีใบอนุญาตครอบครอง และต้องสั่งจ่ายโดยแพทย์เท่านั้น

หรือหากเป็นประเภท 3 หรือ ประเภท 4 ที่อนุญาตให้ขายในร้านขายยาที่มีใบอนุญาตครอบครองได้  ก็ต้องรายงานจำนวนและปริมาณที่ขายต่อเดือน เช่นเดียวกับ กลุ่มยานอนหลับ เป็นต้น