กูรูอีคอมเมิร์ซ ฟันธง ค้าปลีกออนไลน์ เหลือยักษ์ใหญ่สามรายในสองปี


ผู้นำธุรกิจอีคอมเมิร์ซ คาดธุรกิจแข่งเดือดหลังยักษ์ระดับโลกบุกตลาดไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ถึงจุดเปลี่ยนอุตสาหกรรมค้าปลีกออนไลน์ไทย

“ภายในสิบสองเดือนจากนี้จะเห็นยักษ์ใหญ่วงการอีคอมเมิร์ซ ระดับภูมิภาคและระดับโลกเข้ามาเล่นตลาดอาเซียนเพิ่มขึ้น ”นายสืบสกล สกลสัตยาทร ผู้จัดการทั่วไป ไอทรูมาร์ท บริษัท แอสเซนด์ คอมเมิร์ซ จำกัด กล่าวว่า ในงานสัมมนา Thailand eCommerce Summit จัดโดย Bangkok Entreprenuers

จะเห็นได้จากการประกาศการลงทุนเปิดสาขาของอะเมเซอนด้วยงบ 600 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในอินโดนีเซีย การเข้ามาของยักษ์ใหญ่ของจีน อะลีบาบา ที่บุกตลาดผ่านการซือกิจการลาซาด้า รวมถึง เจดีดอทคอมก็เปิดตลาดอินโดนีเซียเช่นกัน

อีกทั้งจะเห็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีธุรกิจหลากหลาย (conglomorate) ได้ร่วมทุนกันบุกตลาดอีคอมเมิร์ซ โดย Salim group และ Lotte group เตรียมเปิดบริษัทอีคอมเมิร์ซร่วมกันปีหน้า และบริษัทค้าปลีกรายใหญของเวียดนามก็ขยายกิจการตลาดอีคอมเมิร์ซ

นายสืบสกล กล่าวต่อว่า จะเห็นการหลอมรวมของช่องทางออนไลน์และออฟไลน์  โดยลูกค้าจะเข้ามาสัมผัสตัวสินค้าจริงในร้านและไปซื้อผ่านมือถือออนไลน์ หรือลูกค้าค้นหาข้อมูลสินค้าผ่านมือถือและหันกลับมาซื้อและสัมผัสสินค้าจริงในร้านค้า

แบรนด์สินค้าเอง จำเป็นต้องใช้เทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็น Internet Of Things หรืออื่นๆ ที่จะทำให้สามารถระบุตัวตน เพื่อนำเสนอสินค้าในร้านให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าพร้อมตัดสินใจซื้อที่ช้อป แทนการปล่อยให้ลูกค้าดูสินค้าและกลับไปช้อปออนไลน์ และจากผลสำรวจพฤติกรรมนักช้อปออนไลน์ ผู้ซื้อหลีกเลี่ยงการรับภาระค่าจัดส่ง

“การใช้กลยุทธ์เพียงราคาอาจไม่ใช่คำตอบ ร้านค้าออนไลน์ ต้องหาสินค้าที่หลากหลายมาตอบสนองความต้องการที่แตกต่างเพื่อสร้างความต่างจากคู่แข่งที่มีอยู่ในตลาด ทั้งต้องมีทีมงานที่แข็งแกร่ง”

“ภายในสองถึงสามปีจากนี้ ตลาดค้าปลีกออนไลน์จะเหลือผู้เล่นรายหลักไม่เกินสามรายที่มีฐานการเงินแข็งแกร่ง อาทิ ลาซาด้าภายใต้อะลีบาบา และแอสเซนด์ คอมเมิร์ซ ภายใต้กลุ่มเครือเจริญโภคภัณฑ์” นายธรินทร์ ธนียวัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการพาณิชย์ บริษัทลาซาด้า (ประเทศไทย)กล่าว

การเข้ามาของผู้เล่นรายใหญ่ที่มีศักยภาพสูง จะช่วยยกระดับการให้บริการอีคอมเมิร์ซในภาพรวม  หลังการเข้าซื้อกิจการจากอะลีบาบา ลาซาด้าจะได้รับถ่ายทอดขีดความสามารถด้านเทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ หรือ Big data analytic จากอะลีบาบาเพื่อเข้าถึงลูกค้าได้ตรงกับความต้องการเฉพาะมากขึ้น เป้าหมายทางธุรกิจที่อะลีบาบาคาดหวังสูงมาก แต่เราเชื่อว่าประสบการณ์ความเชี่ยวชาญจากลาซาด้าจะเป็นทางลัดการลดระยะเวลาจากสามถึงสี่ปี เหลือสามถึงสี่เดือนเพื่อสร้างการเติบโตของธุรกิจ

และเราเชื่อด้วยว่า เพียงแพลทฟอร์มชองลาซาด้าไม่อาจเติบโตได้ การสร้างอีโคซิสเต็มผ่านพันธมิตรธุรกิจร้านค้าและบริษัทขนส่ง จะทำให้ลาซาด้าเข้าถึงผู้ซื้อใหม่ๆ ผ่านพันธมิตร “เป็นการเข้าถึงลูกค้าของลูกค้านั่นเอง”

เราเชื่อว่าตลาดค้าปลีกออนไลน์จะมีโอกาสเติบโตอีกมาก ปัจจุบันมีเพียง 1.5% ของตลาดค้าปลีก ขณะที่หลายประเทศที่พัฒนาแล้วและประเทศจีน ค้าปลีกออนไลน์สูงถึงสิบเปอร์เซนต์

นายภาวุธ พงษ์วิทยภานุ ผู้ก่อตั้งตลาดดอทคอม กล่าวเสริมว่า หลังอะลีบาบา เข้าซื้อกิจการลาซาด้า ทำให้นักลงทุนอื่นๆ ไม่มั่นใจลงทุนในธุรกิจอีคอมเมิร์ซเนื่องจากอะลีบาบามีความแข็งแกร่ง

อย่างไรก็ตาม ตลาดอีคอมเมิร์ซยังมีช่องว่างการเติบโตอีกมาก ที่จะทำให้ผู้เล่นรายอื่นอยู่ได้ แม้จะมีผู้เล่นรายยักษ์ ผู้เล่นที่เหลืออยู่ต้องหาตลาดเฉพาะ รูปแบบธุรกิจที่แตกต่าง รวมถึงการมองหาโอกาสการส่งออกให้มากขึ้นโดยเฉพาะตลาดอาเซียน “การเผาเงินด้วยการลดถล่มราคาอาจไม่ใช้หนทางอยู่รอดของผู้ประกอบการอีกต่อไป และส่วนตัวแล้วเชื่อว่าภายในทศวรรษหน้า เทคโนโลยีการแปลภาษาจะทำให้เวบไร้พรมแดนมากขึ้น เป็น automated  translation การซื้อขายออนไลน์แบบไร้พรมแดนมหาศาล cross border e-commerce ที่จะได้อานิสงค์จากการขนส่งระหว่างประเทศที่จะลดลง”