ให้แบงก์นอก ตั้งสาขาและใช้เงินสกุลต่างชาติได้เสรี


ให้แบงก์นอก ตั้งสาขาและใช้เงินสกุลต่างชาติได้เสรี

รัฐบาล เปิดทางให้ธนาคารต่างชาติตั้งสาขาย่อยในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก หรือ EEC เพื่อส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ พร้อมกับอนุญาตให้ใช้เงินสกุลต่างประเทศได้ โดยไม่ต้องแลกเป็นบาท

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลมีแนวคิดให้ธนาคารต่างชาติสามารถตั้งสาขาย่อยในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) เพื่อรองรับการทำธุรกรรมที่เกิดขึ้นใน EEC ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจใหม่ รวมทั้งอนุญาตให้ใช้เงินสกุลต่างประเทศในพื้นที่ดังกล่าวได้ โดยไม่จำเป็นต้องแลกเป็นเงินบาท

แนวคิดนี้ ได้มีการหารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. แล้ว ปัจจุบันประเทศไทยจะจำกัดการขยายสาขาของธนาคารต่างชาติ รวมทั้งยังข้อบังคับเกี่ยวกับผู้ที่นำเข้าและส่งออก ต้องแลกเงินที่ได้รับจากค่าสินค้าเป็นเงินบาทไทยเท่านั้น ส่วนเงินสกุลต่างประเทศ ธนาคารแห่งประเทศไทยต้องเก็บเข้าไปเป็นทุนสำรอง โดยเฉพาะเงินดอลลาร์สหรัฐ

แต่ล่าสุด ธนาคารแห่งประเทศไทย เห็นชอบในหลักการแล้ว และจะดำเนินการเรื่องการผ่อนคลายกฎ-ระเบียบต่างๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 3 เดือน

นอกจากนี้ ทีมเศรษฐกิจยังจะสรุปรายละเอียดของการดำเนินโครงการ EEC ในภาพรวมเสนอให้รัฐบาลเห็นชอบ เพื่อให้โครงการดังกล่าวเดินหน้าได้ตามแผน ทั้งการจัดทำร่าง พ.ร.บ.การพัฒนาพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

รวมทั้งแผนการดำเนินโครงการสนับสนุน เช่น โครงสร้างพื้นฐานและการพัฒนาพื้นที่ // งบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการต่างๆ  และปัญหาอุปสรรคที่ต้องเร่งแก้ไข โดยเฉพาะด้านกฎหมาย ซึ่งอาจมีกฎหมายบางฉบับ ที่ต้องใช้อำนาจพิเศษของรัฐบาลช่วยดำเนินการให้รวดเร็วขึ้น

สำหรับการบริการจัดการพื้นที่ EEC เบื้องต้นนั้น จะดำเนินการในพื้นที่บางพื้นที่ของ 3  จังหวัด ให้เป็นเขตเสรีการค้าก่อน คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง

ส่วนรูปแบบดำเนินการนั้น ก็จะทดลองใช้รูปแบบของเขตการค้าเสรีเซี่ยงไฮ้ สาธารณรัฐประชาชนจีนเป็นต้นแบบ ซึ่งนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และคณะ ได้เดินทางไปศึกษาข้อมูล และให้ทีมงานศึกษาเพิ่มเติม กระทั่งนำมาประยุกต์ใช้กับสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นเขตเสรีทางการค้า เนื่องจากเห็นว่า มีความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานมากที่สุด

นอกจากนี้ยังได้มีการหารือกับกรมศุลกากรว่า อาจจะใช้พื้นที่ดังกล่าว เป็นจุดวางสินค้าในเขตสินค้าทัณฑ์บน เพื่อรอขนส่งไปยังพื้นที่อื่นๆ  ต่อไป