มุมมองศก.ไทย 3 เดือน ข้างหน้าลดลง 6เดือน ติดต่อกัน


ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานดัชนีภาวะเศรษฐกิจของครัวเรือน และดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์ใน3 เดือนข้างหน้า โดยระบุว่า ภาคครัวเรือนมีมุมมองที่ระมัดระวังมากขึ้น ต่อภาวะ // การดำรงชีพในปัจจุบัน

ดัชนีความเชื่อมั่นครัวเรือน หรือ KR-ECI ประจำเดือนมิถุนายน 2559 ที่ปรับลดลงจากระดับ 42.7 % ในเดือนพฤษภาคม มาอยู่ที่ 42.5% นั้น เกิดจากครัวเรือนมีมุมมองที่กังวลเพิ่มมากขึ้น ต่อสถานการณ์ราคาสินค้า โดยเฉพาะราคาอาหารและเครื่องดื่มที่ปรับตัวสูงขึ้น จากผลของภัยแล้งในช่วงก่อนหน้า

ราคาขายปลีกน้ำมันที่ขยับขึ้นตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก รวมไปถึงครัวเรือนมีความกังวลต่อภาระค่าใช้จ่ายต่างๆ และภาระหนี้สินที่กังวลเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุนายน โดยเฉพาะครัวเรือนในกลุ่มฐานราก ที่ยังคงมีความเปราะบางในสถานะทางการเงินจากการก่อหนี้ เพื่อที่อยู่อาศัย หรือรถยนต์

ขณะที่ดัชนีองค์ประกอบ ที่สะท้อนมุมมองต่อรายได้และเงินออมในเดือนมิถุนายน 2559 กลับปรับตัวดีขึ้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความกังวลที่ลดลง โดยเฉพาะในเรื่องรายได้และเงินออมของครัวเรือน

ซึ่งประเด็นของรายได้นี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะการจ่ายค่าตอบแทนพิเศษ หรือ โบนัส ประจำครึ่งปีของหลายองค์กร เมื่อเดือนมิถุนายน ได้ส่งผลไปถึงสถานการณ์เงินออมที่เพิ่มมากขึ้น

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังชี้ให้เห็นอีกว่า ครัวเรือนยังมีพฤติกรรมการออมที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดือนพฤษภาคม 2559 โดยมีการลดสัดส่วนการถือครองเงินสด และเปลี่ยนเป็นการถือครองหุ้นสามัญ รวมถึงทองคำในสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น

ทั้งนี้ เป็นเพราะพฤติกรรมการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า หรือ Search for Yield ของภาคครัวเรือน ในช่วงความผันผวนของตลาดเงิน ตลาดทุน และตลาดทองคำ

สำหรับดัชนีสะท้อนมุมมองคาดการณ์ในช่วง 3 เดือนข้างหน้า หรือ 3-month Expected KR-ECI ก็ยังคงลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6

ซึ่งสะท้อนมุมมองของครัวเรือนว่า ยังเต็มไปด้วยความกังวล กับความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจไทยในระยะข้างหน้า โดยดัชนีในกลุ่มนี้ ปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ 43.3% จากระดับ 44.1%ในเดือนพฤษภาคม

แสดงถึงความกังวลต่อภาวะค่าครองชีพที่สูงขึ้น จากสถานการณ์ราคาสินค้าที่น่าจะปรับตัวสูงขึ้น ตามราคาอาหารและเครื่องดื่ม รวมไปถึงค่าใช้จ่ายและภาระหนี้สินต่างๆ ที่คาดว่า จะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2559

โดยเฉพาะภาระหนี้สินในหมวดที่อยู่อาศัย ที่ได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ อาทิ โครงการบ้านประชารัฐ โครงการบ้านธนาคารอาคารสงเคราะห์ เพื่อข้าราชการ