กสิกรฯ ผวา NPL สินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้น


กสิกรฯ ผวา NPL สินเชื่อบุคคลเพิ่มขึ้น

แบงก์กสิกรฯ เข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อเพื่อบริโภค เผยยอดอนุมัติกู้ลดลงเหลือ 20% ขณะเดียวกันหวั่นลูกค้าผิดนัดชำระเพิ่มมากขึ้น

นางนพวรรณ เจิมหรรษา รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อรายย่อยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ทำให้ธนาคารต้องเข้มงวดในการพิจารณาสินเชื่อ โดยเฉพาะสินเชื่อเพื่อการบริโภค อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคล และสินเชื่อบัตรกดเงินสด เนื่องจากพบการผิดนัดชำระหนี้ และเป็น NPL มากกว่ากลุ่มสินเชื่อรายย่อยอื่น ๆ

โดยล่าสุดสถานการณ์ NPL ของสินเชื่อบุคคล และ NPL ของบัตรกดเงินสด ณ สิ้น มิ.ย. 2559 ขยับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3.6% จาก ณ สิ้นปี 2558 ที่ NPL ของสินเชื่อดังกล่าวยังอยู่ที่ 3.3% เท่านั้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นของ NPL ในกลุ่มสินเชื่อเพื่อการบริโภคมีส่วนสำคัญทำให้ NPL รายย่อยโดยรวมของธนาคาร ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 3% จาก ณ สิ้นปีที่ NPL รายย่อยรวมอยู่ที่ 2.8%

ทั้งนี้ ธนาคารตั้งเป้าควบคุม NPL ในส่วนของสินเชื่อเพื่อการบริโภค ณ สิ้นปี 2559 ให้อยู่ที่ 3.5-3.7% โดยได้มีการติดตามกลุ่มลูกค้าสินเชื่อประเภทดังกล่าวอย่างใกล้ชิด ทั้งการเข้าไปดูแลเมื่อพบว่าลูกค้าผิดนัดชำระหนี้ รวมไปถึงการคัดกรองผู้กู้มากขึ้น ซึ่งปัจจุบันยอดอนุมัติในส่วนของสินเชื่อบุคคล และสินเชื่อบัตรกดเงินสด มียอดอนุมัติลดลงเหลือเพียง 20-30% หากเทียบกับ ณ สิ้นปี 58 ที่ยอดการอนุมัติอยู่ที่ 30-40%

ทั้งนี้ สินเชื่อคงค้างในส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลรวมกับบัตรกดเงินสด ณ สิ้น มิ.ย. 2559 อยู่ที่ 53,000 ล้านบาท ขณะที่พอร์ตสินเชื่อรายย่อยโดยรวมมียอดคงค้างอยู่ที่ 366,000 ล้านบาท แบ่งเป็น สินเชื่อบ้าน 64% และบัตรเครดิต 12%

ซึ่งทางธนาคารเราดูมากขึ้น และแนวโน้มการอนุมัติต่ำกว่าบัตรเครดิต เพราะลักษณะของการใช้สินเชื่อประเภทนี้มาจากคนที่ต้องการสินเชื่อจริง ๆ ต่างจากบัตรเครดิตที่มีไว้เพื่ออำนวยความสะดวก ดังนั้นก็เป็นปกติที่จะเห็นการผิดนัดชำระ และ NPL ในกลุ่มสินเชื่อบุคคล บัตรกดเงินสดมีสัญญาณเพิ่มขึ้น